ในขณะที่ Android ก้าวล้ำไปสู่การนำเทคโนโลยีการเชื่อมต่อรูปแบบใหม่อย่าง Near Field Communication หรือ NFC มาเริ่มใช้กันมากขึ้น และดูท่าทางจะประสบความเร็จในระดับหนึ่งเสียด้วย แต่ Apple กลับยังไม่แสดงท่าทีต่อเทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านี้นัก แม้จะจะเริ่มมีบรรดาผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมหลายรายที่พร้อมจะสร้างอุปกรณ์ที่จะให้ iPhone รองรับการใช้งาน NFC ก็ตาม
ประเด็นก็คือ Apple กำลังคิดอะไร เห็นด้วยกับเทคโนโลยีนี้หรือไม่ หรือจะรอให้ NFC เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายเสียก่อนถึงจะเริ่มรุกเข้าสู่ตลาด และจะสายไปหรือไม่กับความคิดแบบนั้น…
ย้อนไปเมื่อซักหนึ่งปีก่อนหน้านี้ Samsung Nexus S คือสมาร์ทโฟนรุ่นแรกในประเทศสหรัฐฯ ซึ่งมีการนำเอาเทคโนโลยีอย่าง NFC มาใส่ไว้ ซึ่งก็เป็นที่คาดการณ์กันจากหลายๆ ฝ่ายว่าอีกไม่นาน Apple ก็จะไม่ยอมน้อยหน้า ด้วยการจับ NFC มาใส่ใน iPhone รุ่นถัดๆ ไปอย่างแน่นอน
แต่นับจากวันนั้นจนวันนี้ จาก iPhone 4 มาถึง iPhone 4s ยังไม่มีวี่แววใดๆ นอกจากข่าวลือว่า NFC น่าจะถูกใส่มาใน iPhone ที่จะออกมาในปีนี้ ซึ่งปัจจุบันระบบปฏิบัติการแทบทุกค่าย ไม่ว่าจะเป็น?Android, Symbian, BlackBerry หรือ Bada ต่างก็นำ NFC มาใส่หรือทำให้รองรับได้ในระบบปฏิบัติการของตัวเองแล้ว จะเหลือก็เพียงสองค่ายมหาอำนาจที่ครองความยิ่งใหญ่อยู่บนแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลอย่าง Microsoft และ Apple เท่านั้น
ในงาน Mobile World Congress ปีนี้ ก็มีบริษัทอย่าง NXP Semiconductors ที่พร้อมจะทำอุปกรณ์เสริมอย่างเคสที่จะทำให้ iPhone สามารถใช้งาน NFC ได้ แต่แน่นอนว่าทุกอย่างยังไม่ชัดเจน เมื่อ Apple เองยังคงไม่ชัดเจนกับเรื่อง NFC อยู่แบบนี้
อย่างไรก็ตามทาง NXP ได้นำเสนอฟังก์ชันการใช้งานของเจ้าเคสตัวนี้พร้อมกับแอพพลิเคชันของตัวเองในงาน CES ไปบ้างแล้ว ว่าจะดีแค่ไหนถ้า iPhone จะสามารถใช้ NFC ได้
หากจะรอเพียงให้ NFC ได้รับความนิยม แล้วค่อยกระโดดลงมาร่วมวงในตลาด จะช้าไปไหมสำหรับ Apple เพราะกว่าจะถึงตอนนั้น Apple คงสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดไปยัง Android OS ไปมากกว่านี้ และอาจจะไม่มีทางทวงบัลลังก์เจ้าตลาดของสมาร์ทโฟนกลับมาได้อีกเลยก็เป็นไปได้…
เราเรียนรู้อะไรจากข่าวนี้:?ในปัจจุบัน NFC เริ่มมีการใช้งานที่แพร่หลายขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับที่สถานการณ์ของตลาดสมาร์ทโฟนในสหรัฐฯ เอง iOS ยังเป็นรอง Android OS อยู่พอสมควร แม้จะไม่ได้มีผลกระทบตรงๆ มาจากการที่ iPhone ยังคงไม่มีการรองรับ NFC ก็ตาม แต่เชื่อว่าการปิดกั้นเทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงการปิดกั้นมิให้ผู้ใช้งาน สามารถใช้งานได้อย่างอิสระ เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ใช้งานตัดสินใจเลือกใช้อีกแพลตฟอร์มอย่างไม่ต้องสงสัย
นอกจากนี้ยังอาจจะส่งผลถึงภาพลักษณ์ของ Apple ที่ยังคงไม่เปิดรับต่อเทคโนโลยีใหม่ๆ และสุดท้ายอาจจะกลายเป็นว่า ผู้ใช้งานขาดความศรัทธาต่อผู้ผลิตไปในที่สุดก็เป็นได้…
ที่มา: Geek