เวียนบรรจบมาอีกรอบกับงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งถ้าใครรู้รอบการผลิตภัณฑ์ก็จะพอทราบว่า iPhone รุ่นใหม่นั้นจะถูกเปิดตัวมาแน่นอน เหนือสิ่งอื่นใดก็มีสินค้าใหม่ๆ ที่เปิดตัวมาด้วยในรอบนี้ ซึ่งล้วนแล้วน่าสนใจและคำถามที่เกิดขึ้นมากมายจากการเปิดตัวขอหลายๆ อย่างซึ่งไปละม้าย (เหมือนเลยหล่ะ) กับสินค้าของคู่แข่งทั้งหลายที่ออกมาขายแล้ว
งานในครั้งนี้มีการจัดขึ้นในสถานที่แห่งใหม่จากเดิม ซึ่งเมื่อชมจากการถ่ายทอดสดจะเห็นถึงความยิ่งใหญ่ของห้องและจำนวนคนที่เยอะขึ้นกว่าปกติ พร้อมกับคำพูดเปิดตัวในงานนี้ว่าจะเป็นการประกาศแบบยิ่งใหญ่สุดๆ (ใช้คำว่า Monster Announcement)
และที่สำคัญ โดยธรรมเนียมแล้วจะมีการพูดถึงไม่มีการพูดถึงตัวเลขเหมือนครั้งผ่านๆ มา ทั้งนี้ก็เพราะสินค้าและบริการที่จะถูกนำเสนอมีรายละเอียดค่อนข้างมาก Cook เลยขอข้ามไปยังสินค้าตัวแรกเลย นั่นคือ Apple Watch
Apple Watch
- การมาของ Apple Watch ทำให้พฤติกรรมของคนเปลี่ยนไป ทำให้สะดวกสบายขึ้นไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิต การซื้อของ การออกกำลังกาย สามารถทำผ่าน Apple Watch ได้หมด
- มีเคสคนสามารถลดน้ำหนักได้ 30 ปอนด์จากการใช้ Watch (อาจจะดูเกินจริงไปหน่อย)
- ไม่ยอมบอกยอดขายที่ผ่านมา
- ปัจจุบันมีแอปที่รองรับการใช้งานบน Apple Watch มากกว่า 10,000 แอปแล้ว
- จากการออก WatchOS2 มีสิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือการออก Face หรือหน้าปัดแบบใหม่, Time Travel สามารถหมุนดูเวลาล่วงหน้าได้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น, Transit ดูข้อมูลของรถสาธารณะได้ง่ายขึ้น
- แอปใหม่ที่จะสามารถใช้ได้บน Apple Watch ที่ถูกพูดถึงคือ Facebook Messenger, iTranslate สามารถแปลภาษาได้ 9 ภาษา, แอป GoPro ทำงานร่วมกับกล้อง GoPro ได้
- AirStrip เป็นแอปที่ทาง Apple เชิญมาร่วมงานพูดถึงความสามารถของมัน โดยสิ่งที่มันสามารถทำได้คือการดึงเอาข้อมูลด้านสุขภาพของคนที่สนใจหรือตัวเราเจ้าของขึ้นมาแสดงผลและส่งให้กับทาง AirStrip เพื่อทำการวินิจฉัยได้ และหากต้องการข้อมูลการเต้นของหัวใจก็สามารถวัดผ่าน Apple Watch และส่งข้อมูลไปให้ได้ทันที
- สามารถเอา Watch ไปทาบเพื่อดูข้อมูลการตั้งครรภ์ ฟังเสียงการเต้นของหัวใจของลูกในท้องได้ และส่งข้อมูลไปให้แพทย์ที่ดูแลได้เลย (ล้ำโคตรรร)
- Apple ไปจับมือกับ Hermès ทำ Apple Watch หน้าปัด 33 มม. มาพร้อมกับสายหนัง Hermès ที่ยาวเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถใส่แล้วดูเป็นแฟชันได้ โดยขายในราคา 1250 เหรียญสหรัฐ (45,000 บาท) รวมทั้งมีสายหนังอื่นๆ
- เพิ่มสี Gold and Rose Gold ราคาเท่าเดิมตาม Line ของแต่ละรุ่น โดยสีใหม่เริ่มวางขายทันที (ที่ Online Store มีชื่อประเทศไทยด้วยนะครับ น้ำตาจะไหล ไปค่ะพี่สุชาติ)
- เพิ่มสีของสายเยอะขึ้นกว่าเดิมมาก รวมทั้ง Product RED ด้วย ทั้งนี้ก็เพราะมีการดึงเอาข้อเด่นที่มันสามารถเปลี่ยนสายง่ายมาช่วยให้ Accessories ขายง่ายขึ้นตามไปด้วย
- WatchOS 2 จะเริ่มให้อัปเดท 16 กันยายนนี้
iPad Pro จอโต นี่มัน Surface จำแลงหนิ!
- The Biggest news in iPad Since iPad คือสิ่งที่ Cook เกริ่นก่อนจะทำการเปิดวิดีโอเปิดตัว iPad จอโต ซึ่งเป็นรุ่นที่จอใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยทำมาในตระกูล iOS (ก็ไม่รู้จะเถียงอย่างไร)
- iPad Pro ประสิทธิภาพของเครื่องสูงมากๆ ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและแรงสุดๆ เพื่อเอามาตอบโจทย์ที่อยู่นอกเหนือจากความบันเทิงที่ปกติจะได้รับจากการใช้งาน iPad ซึ่งจะเน้นให้กับผู้ที่ใช้งานที่เฉพาะทางมากขึ้น
- จอ 12.9 นิ้ว (เทียบกับ iPad 2 เกือบ 1 เท่า) 5.6 ล้านพิกเซล ด้วยจอที่ใหญ่ก็จะช่วยให้มีพื้นที่ในการใช้งานเพิ่มขึ้น ทำให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพและพร้อมๆ กันได้
- มีเทคโนโลยีใหม่เกี่ยวกับจอ มี Custom Timing Controller ช่วยให้การแสดงผลมีความรวดเร็วกว่าเดิม, Photo Alignment แสดงภาพได้สวยงาม, จอทำจาก Oxide TFT, Variable Refresh rate มีการปรับอัตราการแสดงภาพโดยเฉพาะภาพเคลื่อนไหวเร็วๆ ให้เหมาะสม
- A9X เป็น 3rd gen 64-bit
- มีการแสดงว่า iMovie แบบ 4K ได้และสามารถเปิด AutoCAD ได้ (Render ได้ไม่ได้อีกเรื่องนึงนะครับ)
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ 10 ชั่วโมง
- มีลำโพง 4 ทิศทางที่มุมทั้ง 4
- หนากว่า iPad Air นิดนึง และมีน้ำหนักกว่า iPad รุ่นแรก (1.57 lb)
- Keyboard แสดงผลในแบบ full size และก็มี Case Keyboard (นี่มัน Surface…) บรรยากาศดูกร่อยลงทันที
- มี Smart Connector 3 จุดเป็นเทคโนโลยีใหม่สำหรับการเชื่อมต่อกับ Case ที่เป็น keyboard
https://www.youtube.com/watch?v=iicnVez5U7M
- นอกจาก Keyboard แล้วก็มีการเปิดตัว Stylus เรียกว่า Apple Pencil รองรับการเขียนแบบละเอียดมากๆ การกด, การเอียงในการเขียน และอาศัยแบตเตอรี่ในการใช้งาน (เสียบ Lightning)
- มีอึ้งกันเล็กน้อย เมื่อคนจาก Microsoft ขึ้นมา demo iPad Pro โดยสิ่งที่เขามาเน้นคือชุดแอป Microsoft Office บน iPad Pro สามารถใช้ 2 หน้าจอพร้อมกันได้ และสามารถทำงานร่วมกับ Apple Pencil และ iPad Pro ดูเนียนขึ้นทันที
- มี Automatic Shaping วาดรูปแล้วจะมีการแปลงให้เป็นรูปได้เลย
- Eric Snowden จาก Adobe มา Demo การวาง layout ไ้ด้อย่างรวดเร็ว สามารถแก้ไขจากการเปิด multitask เพื่อเอามาใช้งานได้ทันทีแบบ Real-Time
- คนจาก 3D Amedical เกี่ยวกับการแพทย์ สามารถหมุนดูกระดูกแบบ 3D ดูการเคลื่อนไหวของร่ายกาย กล้ามเนื้อ พร้อมกับสามารถวินิจฉัยจากการ Render กระดูกหรืออวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายได้ง่ายขึ้นมากๆ (ตัวนี้เหมาะมากๆ กับการศึกษาด้านการแพทย์)
- iPad Pro มีขาย 3 สี (Silver, Gold, Space Grey) 2 รุ่น ได้แก่ Wi-Fi Only ความจุ 32GB ราคา 799 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 28,700 บาท 128GB 949 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 34,100 บาท และแบบเสียบซิมได้ ความจุ 128GB ราคา 38,800 บาท
- Apple Pencil ต้องซื้อต่างหาก ราคา 99 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,600 บาท keyboard 149 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6,100 บาท
- เริ่มขายพฤศจิกายนนี้
- และมี iPad Mini 4 แอบออกมา โดย Spec เป็นการเอามาจาก iPad Air 2 ราคาเริ่มต้นที่ 399 เหรียญสหรัฐ
Apple TV …Show Me Something New
- Cook กลับขึ้นมาโดยพูดถึงการชมโทรทัศน์ในปัจจุบันตอนนี้เราต่างล้วนอาศัยแอปทั้งนั้น ไม่ว่าจะการชม, การหาข้อมูล ทุกอย่างเราเปิดผ่านแอปทั้งนั้น จึงเป็นที่มาของการเปิดตัว Apple TV ที่มาพร้อมกับฮาร์ดแวร์ใหม่, ระบบปฏิบัติการทันสมัย, UX ใหม่, มีเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา และมี App Store!
- Remote และ Siri คือ 2 พระนางที่จะมาทำให้การใช้งาน Apple TV รุ่นใหม่ง่ายขึ้น โดย Remote ตัวใหม่นอกจากการควบคุมหน้าจอแล้วยังเป็น Joystick game ที่มี Touch Surface ในการควบคุม รวมทั้งมีไมค์และปุ่มสำหรับการรับคำสั่ง Siri ซึ่งเอามาใช้แทนที่ Keyboard
- บริการที่สามารถใช้ได้คือ iTunes, Netflix, Hulu, Showtime, HBO สามารถหาได้หมด (คนไทยร้องไห้ทำไม)
- มีการแสดงภาพ Screensaver ที่เป็นวิดีโอ HiDef ที่เป็น exclusive เฉพาะ Apple TV และการเลือกภาพมาแสดงจะขึ้นอยู่กับเวลา ณ ตอนนั้น (กลางวัน/กลางคืน)
- Siri สามารถลงรายละเอียดได้ถึงว่า หาคนที่แสดงเรื่องนั้นๆ ได้, สั่งข้าม, ถามว่าในฉากนั้นเขาพูดอะไรกันแล้วแสดงออกมาเป็น SubTitle ได้
- ถามเรื่องอื่นๆ ระหว่างการชมหนังได้ เช่น ถามผลการแข่งขัน, ถามสภาพอากาศ โดยสามารถดูรายละเอียดแบบเต็มๆ ได้ด้วยการรูดขึ้น หนังที่เล่นอยู่ก็จะหยุดอัตโนมัติ
- มี App Store ให้เลือกแอปใช้งาน, มี tvOS และมี Tools สำหรับนักพัฒนาในการสร้างแอปบน Apple TV
- ตอนนี้มี dev ที่ register แล้ว 11 ล้านคน
- มีเกมเดโม Crossy Road (คล้ายๆ กับ Flappy Bird) และ Beat Sports (ชวนให้นึกถึง Nintendo Wii)
- Gilt แอปสำหรับ Shopping เราสามารถเลือกซื้อของเกี่ยวกับแฟชันได้ผ่านการใช้ Remote ได้เลย (TV Shopping แท้ๆ) = Cooler, Faster and more exciting
- MLB มาเดโม มีข้อมูลในการเล่นทุกคู่, ไฮไลท์การแข่ง สามารถดูแบบ 2 จอพร้อมกันได้
- Apple TV รุ่นใหม่ มี 2 ความจุ 32GB 149 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5,400 บาท และ 64GB 199 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7,200 บาท จะเริ่มขายประเทศหลักๆ ปลายเดือนตุลาคมนี้ และที่เหลือจะขายในประเทศที่เหลือภายในสิ้นปีนี้
https://www.youtube.com/watch?v=wGe66lSeSXg
iPhone ใหม่ ที่คนรู้ชื่อรุ่นแล้ว
- ตัวเลขในจีนเติบโตกว่า 75% แต่เจ้าอื่นๆ ติดลบ
- iPhone 6S และ iPhone6SPlus คือชื่อของ iPhone รุ่นใหม่
- มี 4 สี เพิ่ม Rose Gold ขึ้นมาตามข่าวลือ
- ตัวกระจกทำ Strongest cover glass
https://www.youtube.com/watch?v=cSTEB8cdQwo
- สิ่งที่เปลี่ยนไปคือเรื่องจอ จากเดิมที่เราคุ้นเคยกับ Multi-Touch สู่ 3D Touch แตะค้างเพื่อเข้าสู่ข้อมูลได้ทันที ด้วยจอที่เป็น Capacitive Sensor และมีมอเตอร์ สั่นรับการกดด้วย (รื้อการออกแบบบอร์ดเก่าเพื่อการพัฒนาเรื่องนี้โดยเฉพาะเลย และน่าจะเป็นเหตุผลที่จากวิดีโอ ความหนาน่าจะหนาขึ้น)
- การกด 3D Touch จะช่วย link จะเป็นการ Preview ข้อมูลให้ดูและสามารถเข้าไปถึงได้ทันที, เปลี่ยนหน้า Screen ของแอปได้ด้วยการแตะเน้นๆ แล้วปัด
- ใช้ A9 3rd Gen
- คนจาก Pixeltoys เอาเกมมาเดโม 60pfs ใช้ graphic โหดมาก แต่ iPhone ก็แสดงผลเนียนมาก
- Touch ID 2nd gen ทำงานได้เร็วขึ้นกว่าเดิม
- iSight ตัวใหม่ 12 ล้านพิกเซล การโฟกัสเร็วขึ้น มีเทคโนโลยีที่ใช้ Gate ในการกรองแสงเพื่อให้ได้ภาพที่มีสีที่ถูกต้องและชัดเจน และเก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน
- ถ่ายวิดีโอ 4K ได้ ด้วยความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล คนชอบเซลฟี ดีใจด้วยครับ
- มี Live Photos สามารถเก็บภาพในแบบเคลื่อนไหวได้ประมาณ 3 วินาที โดยจะมีตัวเลือกในการถ่ายรูป
- มีตัวเลือกในการย้ายจาก Android มายัง iOS ได้ (Samsung ทำมาก่อนแล้ว Apple ขอทำคืน)
- ความจุยังคงมีเหมือนเดิม 16 64 128 ใช้ราคาเดิม (อย่าลืมนึกถึงว่าค่าเงินอ่อนลงด้วย ดังนั้นราคาไทยอาจจะแพงขึ้นกว่าเดิม)
- ใน US จะมี iPhone Upgrade Program โดยมีการ turn iPhone ได้ทุกรุ่นใหม่ ต้องจ่ายเดือนละ $32
- เริ่ม Pre Order วันที่ 12 กันยายนนี้ เริ่มขาย 25 กันยายน โดยไม่มีรายชื่อของประเทศไทย (แต่ 25 กันยายนบ่ายๆ เย็นๆ เครื่อง MBK มาแน่นอน)
- iOS 9 ให้ update 16 กันยายนนี้
- อ่อ มีแท่นว่างเป็นสีตาม iPhone ตัวใหม่ด้วยนะครับ สวยและหรูขึ้นทีเดียว ราคา 49 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,800 บาท
ข้อสังเกตุเมื่อเทียบรุ่น iPhone
ความจุ 128GB จะมีเฉพาะรุ่นใหม่ล่าสุดเท่านั้น ส่วน iPhone 6 และ 6 Plus จะมีเฉพาะ 16 และ 64- สีทองไม่มีให้เลือกแล้วใน iPhone 6 และ 6 Plus
- iPhone 5S มี 16GB และ 32GB
- น้ำหนักของ iPhone 6S และ 6S Plus หนักกว่า iPhone 6 และ 6 Plus
ความเห็นหลังจากการเปิดตัว
- ลุง Jony Ives
ไม่ยอมเปิดตัวหัวเหม่งในงานนี้รวมทั้งในวิดีโอแทบจะไม่โผล่หน้ามาเลยในรอบนี้ แต่ก็มีแอบมานิดนึงในคลิป iPhone 6S) credited by @arjin - Apple Watch เห็นการ Co-Branding กับวงการแฟชันแล้ว เชื่อว่าก็จะมีเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ด้วยแนวทางที่เลือกมาจาก Luxury
- iPad Pro เป็นสิ่งที่ไม่ได้เหนือความคาดหมาย เว้นแต่ราคาแรงสุดๆ จริงๆ แต่ถ้าให้มองว่าด้วยประสิทธิภาพและการใช้งานเราจะเห็นลักษณะที่มีการเฉพาะเจาะจงให้กับคนเฉพาะทางอย่างชัดเจน
- Apple Pencil เป็นอะไรที่น่าลองว่าจะดีจริงไหม แต่จากที่ดูวิดีโอน่าสนใจมากๆ แลกด้วยความแพง(มาก)
- Smart Keyboard เห็นแล้วอยากเชียร์ให้ 3rd party เช่น Logitech ทำราคาถูกกว่านี้สัก 30%
- Apple TV ใหม่ดูน่าสนใจที่สุดสำหรับการเปิดตัวครั้งนี้ และนี่คือสิ่งที่จะทำให้วงการเกมและการดูทีวีน่าจะสั่นสะเทือนในระดับต่างประเทศ ยกเว้นไทยที่ไม่รู้เมื่อไหร่จะสามารถดู Content ดีๆ อย่างในอเมริกาที่ไม่ต้องต่อ VPN ได้
- ครั้งแรกที่เห็นการเอา Remote มาเป็นจอยเล่นเกม หน้า Nintendo ลอยมาเลย
- เชื่อว่า Apple TV จะเป็นการเปลี่ยนพฤติกรรมของคนครั้งใหญ่อีกครั้ง เพราะมัน Shopping Online ได้แล้ว แต่ก็เหมาะกับอเมริกามากกว่าที่อื่น บ้านเราก็สั่งผ่าน Facebook Page ต่อไป
- iPhone อยากจะลองกับ 3D Touch อยากจะรู้ว่ามันจะเป็นอย่างไร แต่น่าดีใจที่มีการเปลี่ยนที่มากกว่าอัป CPU ให้เร็วขึ้น ดูแล้วใครที่ถือ iPhone 6 และ 6 Plus ก็อาจจะมีลังเล จากเดิมที่มีแผนในการอัปในรุ่นถัดๆ ไป
- ราคาไทย อย่างที่บอกว่า มีสิทธิแพงกว่าเดิมนะครับด้วยค่าเงินที่อ่อนปวกเปียกสุดๆ
ผมขอยกพระเอกของงานในวันนี้ให้ Apple TV ครับ …พังค์หว่ะ