Site icon Thumbsup

คุยกับทีมสร้างนิทาน “ฉันรักในหลวง” การถ่ายทอดพระราชกรณียกิจสู่คนรุ่นต่อไปโดยใช้ AR

ที่ผ่านมา เราอาจเคยพบเห็นการใช้เทคโนโลยี AR ในเชิงการตลาดกันมาพอสมควร แต่สำหรับในค่ำคืนที่หัวใจคนไทยร่ำไห้นี้ เรามีอีกหนึ่งการใช้เทคโนโลยี AR ในการถ่ายทอดความรักของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ท่านทรงพระราชทานแก่ปวงชนชาวไทยผ่านพระราชกรณียกิจต่าง ๆ เสมอมาไปสู่ “อนาคตของชาติ” ซึ่งเราเชื่อว่า คอนเทนต์ AR นี้นอกจากจะสร้างรอยยิ้มและความสุขแก่ผู้ที่รับชมที่เป็นวัยเด็กเล็กแล้ว ชาวไทยทุกคนยังสามารถน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในสิ่งที่พระองค์ท่านทรงพระราชทานแก่ปวงชนชาวไทยเสมอมาได้อีกด้วย

หนังสือนิทานเรื่อง “ฉันรักในหลวง” ของแปลน ฟอร์ คิดส์ ในฐานะผู้ถ่ายทอดพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านเพื่อปวงชนชาวไทยไปสู่โลกของเด็ก ๆ โดยแปลน ฟอร์ คิดส์ จัดพิมพ์หนังสือนิทานเรื่องฉันรักในหลวงนี้ขึ้นในปี 2554 ก่อนจะนำเทคโนโลยี Augmented Reality หรือ AR เข้ามาช่วยในการนำเสนอเรื่องราวในเวลาต่อมา (ปี 2557)

เทคนิคการนำเสนอผ่านเทคโนโลยี AR นั้น ทำให้ทางผู้จัดพิมพ์สามารถแทรกบทเพลงพระราชนิพนธ์อันทรงคุณค่าลงมาในหนังสือดังกล่าวได้อย่างลงตัว และเมื่อผนวกกับเทคโนโลยี AR ซึ่งสามารถรับชมภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียงเพลงพระราชนิพนธ์ ก็สามารถกระตุ้นนักอ่านให้เกิดความสนใจ และทำให้หนังสือฉันรักในหลวงเกิดประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชนไทยอย่างสูงสุดนั่นเอง

“น้านกฮูก” ผู้เขียนเรื่องฉันรักในหลวงได้เคยกล่าวถึงแรงบันดาลใจในการเขียนนิทานเรื่องนี้ว่า เกิดจากความรักที่มีต่อในหลวง และการเห็นภาพในหลวง รัชกาลที่ 9 เสด็จไปช่วยประชาชนในที่ต่าง ๆ ไม่ว่าที่แห่งนั้นจะห่างไกล ทุรกันดาร และเดินทางยากลำบากแค่ไหน ในหลวงก็เสด็จไปถึงทุกแห่ง รู้สึกถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของพ่อ ซึ่งมีลูกเป็นประชาชนทั้งประเทศ และพยายามให้ลูกทุกคนได้อยู่อย่างมีความสุข

“นิทานทั่วไปมักจบลงที่ความสุขสบายของพระราชา แต่นิทานจากเรื่องจริงเรื่องนี้ พระราชาของเรายังคงเสียสละพระองค์มาตลอด ทรงตรากตรำทำงานหนักเพื่อให้ประชาชนของพระองค์มีความสุขตลอดมา รู้สึกว่าตัวเองโชคดีอย่างเหลือล้นที่ได้เกิดมาเป็นประชาชนของพระองค์”

ด้านอาจารย์ธันยา นวลละออง นักวิจัยผู้สร้างสรรค์แอพพลิเคชั่น AR “ฉันรักในหลวง” และเป็นอาจารย์ประจำคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยศิลปากร เผยว่า “แอปพลิเคชั่นนี้จะช่วยสร้างชีวิตชีวาให้กับหนังสือแต่ละหน้า โดยมาพร้อมเสียงประกอบ เมื่อสัมผัสแล้วจะเคลื่อนไหว มีข้อความให้อ่าน หรือมีเพลงพระราชนิพนธ์ และเสียงเอฟเฟคต่างๆ ในหน้าจอแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ ซึ่งเทคโนโลยีปัจจุบันนี้ใช้กันอย่างแพร่หลาย การนำมาใช้กับเด็กก็จะทำให้เรียนรู้และซึมซับไปโดยไม่รู้ตัว เปิดมุมมองดีๆ ให้กับเด็กรุ่นใหม่ได้”

“วิธีใช้ง่ายๆ คือนำสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตที่มีแอพพลิเคชั่นนั้นๆ เปิดส่องไปยังหน้าจอหนังสือที่แบนราบ ภาพก็จะปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอ พร้อมภาพเคลื่อนไหวให้เราสัมผัสได้เอง อย่างหนังสือฉันรักในหลวง จะมีเสียงนกร้อง เสียงเครื่องบินที่กำลังบินประกอบกับสายฝนที่กำลังตก เสียงทรงพระเจริญ หรือมีข้อความขึ้นมาให้อ่าน”

นอกจากนี้ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทางผู้จัดทำยังได้มีการจัดพิมพ์เพิ่มเติมจากเล่มเดิมคือการเพิ่มเนื้อหาส่วนพระราชประวัติ พระอัจฉริยภาพรอบด้านของพระองค์ และภาพบรรยากาศของการแสดงความอาลัยถวายหลังวันเสด็จสวรรคต โดยถือเป็นนิทาน AR ฉันรักในหลวงฉบับสมบูรณ์

สำหรับเด็ก ๆ หนังสือนิทาน AR เล่มนี้อาจเป็นหนึ่งในไม่กี่สื่อที่พวกเขาสามารถเข้าถึงเรื่องราวพระราชกรณียกิจได้อย่างมีความสุข แต่สำหรับวันที่หัวใจคนไทยร่ำไห้ มีถ้อยคำมากมายที่ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้นั้น ผู้เขียนหวังว่าความสุขเล็ก ๆ จากนิทาน AR ในโลกของเด็ก ๆ เล่มนี้อาจเป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่ดีสำหรับคนไทยทุกคนค่ะ