Site icon Thumbsup

เพิ่มประสิทธิภาพการซื้อแบนเนอร์โฆษณาด้วย Audience Centric Targeting

choosing-target-audience-for-cpa-offer

ในโลกออนไลน์ แบรนด์ที่อยากจะลงทุนซื้อป้ายโฆษณาที่เราเห็นกันตามทางด่วนเราคงจะต้องเลือกพิจารณาเกี่ยวกับทำเลที่ตั้ง ทิศทางในการแสดง และจะมีใครบ้างที่จะได้เห็น เช่นคนที่ต้องเดินทางไปทางนั้นๆ ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการหรือไม่ ส่วนบนโลกออนไลน์เราก็มีแบนเนอร์โฆษณา ซึ่งก็มีปัจจัยต่างๆ ให้พิจารณาเฉกเช่นเดียวกับโลกออนไลน์ เพียงแต่ว่าเราสามารถเลือกรายละเอียดที่จะดูได้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็น ใครบ้างที่จะเข้ามาดูเว็บไซต์นั้นๆ, ช่วงอายุเท่าไหร่, เพศไหน, เนื้อหาที่อยู่บนเว็บไซต์เกี่ยวกับอะไร, คนที่เข้ามาเขาต้องการอะไร เป็นต้น ซึ่งปกติแล้วบนโลกออนไลน์นั้นเราคงจะต้องอาศัยเลขสถิติที่ทางเว็บไซต์แจ้งมา เราจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าคนที่จะมาชมซึ่งคาดว่าจะเป็นผู้ซื้อ แต่จะดีกว่าไหมหากจะมีเครื่องมือที่จะสามารถซื้อผู้ชมที่เราคิดว่าจะกลายมาเป็นผู้ซื้อ โดยดูการใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์หรือ Lifestyle ในการใช้งานในช่วงเวลานั้นๆ  เพราะทุกวันนี้อายุไม่จำเป็นจะต้องสนใจในเรื่องของช่วงอายุนั้นๆ อีกต่อไป เช่น ครูอายุ 54 อาจจะชอบหรือสะสมตุ๊กตาบลายน์ แต่คนอายุ 17 ปีกำลังหาข้อมูลเพื่อกู้เงินลงทุนทำธุรกิจก็เป็นได้

จึงเป็นที่มาของการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่เรียกว่า Audience-Centric Targeting หรือการให้ผู้ที่จะเข้ามาดูเป็นศูนย์กลางในการตั้งเป็นกลุ่มเป้าหมายแทน โดยบริการที่จะพูดถึงวันนี้มีชื่อว่า Adboost (Performance-Driven Advertising Solution โซลูชั่นการลงโฆษณาเพื่อให้ได้ผลสูงสุด)

ด้วยบริการของ Adboost คุณสามารถที่จะทำ Target Strategy หรือวางกลยุทธ์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น โดยทั้งเจ้าของแบรนด์และนักโฆษณาสามารถจะปรับแต่ง หรือ Optimize เพื่อให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เนื่องจากว่า 1 การซื้อหรือใช้บริการจริง หรือ conversion ที่เกิดขึ้นสามารถเกิดได้จากการดูเว็บไซต์หลายๆ ครั้ง ไม่ใช่จะเกิดได้ภายในครั้งเดียว (มีเกิดแต่ก็น้อยมาก) โดยมีสถิติที่บอกว่า การซื้อ 1 ครั้งผู้ชมมักจะเห็นสื่อผ่านตามากกว่า 5 ช่องทาง

หากพูดถึงรูปแบบเดิมๆ ในการจะหา Target ก็คงหนีไม่พ้นการหาตาม IP, Location, เว็บไซต์ หรือวลาในการเข้า แต่สำหรับรูปแบบการเข้าถึงกลุ่มด้วยวิธี Audience-Centric Targeting ของ Adboost จะใช้วิธีต่างๆ ดังนี้

นอกจากนั้น Adboost ยังมีบริการ Report Real Time Dashboard ที่ให้เจ้าของแบรนด์และนักโฆษณาสามารถมอนิเตอร์วัดประสิทธิภาพของแคมเปญได้ทุกที่ ทุกเวลา รวมทั้งมี รายละเอียดที่สามารถบอกได้ว่าในแคมเปญของคุณนั้น มี conversion ที่ช่องทางไหน ซึ่งจะทำให้ผู้โฆษณาจะได้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าเส้นทางการมาของลูกค้าหรือ Consumer Journey เป็นมาอย่างไร, เริ่มที่สื่อไหน, จบด้วยสื่อไหน  เพื่อการออกแบบสื่อให้ตรงตามประสบการณ์และการใช้งานของลูกค้ามากที่สุด

ยกตัวอย่างภาพที่เห็นข้างต้น คือ Attribution Modeling ช่วยให้นักโฆษณาเห็นภาพรวมของแคมเปญที่มีหลายๆ สื่อว่าสื่อไหน Work/ไม่ Work หรือ สื่อไหนควรทำหน้าที่ไหน เช่น  PPC, SEO, Banner, Social นอกจากนี้ยังลงลึกไปถึงว่าสื่อเรามีคนเห็นสื่อไหนเป็นลำดับใดก่อน-หลัง และการตัดสินใจซื้อ/click/interact กับเวบเรา มักมากจากสื่อไหน อาทิเช่น

นอกจากนี้ Dashboard ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับ เพศ, อายุ และประเทศที่อยู่ของคนที่เข้ามาในเว็บไซต์ ช่วยให้คุณวิเคราะห์ผู้ชมบนเว็บได้ดีขึ้น รวมถึงกำหนดทิศทางในการวางกลยุทธ์ในการทำการตลาดบนโลกออนไลน์ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม เช่น หากคนที่เข้ามาในเว็บไซต์ส่วนใหญ่เป็น ผู้หญิงอายุ 15-20 ปีและ ผู้ชายอายุ 20-25 ปี ด้วยข้อมูลนี้เราสามารถที่จะกลับมาคิดและสร้างแคมเปญใน Facebook หรือ Google เพื่อเจาะหาคนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ

สำหรับความสามารถของ Dashboard ดังกล่าวนั้นยังมีอีกมาก นักการตลาดท่านใดที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  Syndacast หรืออีเมล info@syndacast.com

บทความนี้เป็น Advertorial