เรื่องของการจับตลาดลูกค้าชาวจีนของนักธุรกิจไทยนัก ยังคงเป็นที่สนใจอย่างต่อเนื่อง จากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มีกว่า 700 ล้านคนนั้น เพิ่มโอกาสทางการซื้อขายได้เป็นอย่างดี ยิ่งชาวจีนหลงใหลในอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวและวัฒนธรรมของชาวไทย ยิ่งเป็นโอกาสทางการขายที่ดีกว่าเดิม
ทางด้านของโอกาสในความร่วมมือนั้น จะช่วยให้ธุรกิจขนาดใหญ่ของไทยที่สนใจจะบุกตลาดประเทศจีน มีโอกาสในการเข้าถึงมากขึ้นผ่าน 3 บริการหลักของ Baidu Access ประกอบด้วย
1. บริการการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ (Media Publish service ) บริการ บริการทำประชาสัมพัน์สำหรับสินค้าและบริการของผู้ประกอบการไทยและเผยแพร่ลงในแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงของประเทศจีน อาทิ Sohu, Sina ,Xinhua ,Weibo และ WeChat เป็นต้น
2. บริการการสร้างเนื้อหาโฆษณาผ่านกลุ่มผุ้มีอิทธิพลประเภทต่างๆ (Key Opinion Leader or KOL) บริการสร้างเนื้อหาหรือสอดแทรกสินค้าหรือบริการของผู้ประกอบการไทย ผ่านเนื้อเรื่องและวิฑีการนำเสนอของผุ้มีอิทธิพลทางสื่อออนไลน์
3. บริการการตลาดเชิงผลประกอบการ (Performance Marketing) คือ การทำการตลาดออนไลน์ผ่านเครื่องมือค้นหาทางอินเตอร์เน็ต หรือที่รู้จักกันดีในชื่อย่อ SEM (Search engine marketing) เพื่อทำให้สินค้าและบริการของผู้ประกอบการไทยเป็นที่รู้จักของคนจีนอันนำไปสู่ยอดขายที่มากขึ้น โดยมี Baidu.com เสิรช์เอนจินอันดับหนึ่งของจีน เป็นช่องทางการสื่อสารหลัก
แม้ว่าในปีที่ผ่านมา ผลประกอบการของ Baidu จะมีการเติบโตไม่น้อยกว่า 50% และมีลูกค้าในมือ 180 รายแล้ว หลังจากเดินหน้ารุกตลาดดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งเต็มตัวในกลุ่มธุรกิจประเภทสินค้าอุปโภคบริโภค สถานท่ีท่องเที่ยวและโรงแรม เป็นต้น
การร่วมมือกับทาง TCC Network นั้น น่าจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงองค์กรขนาดใหญ่กว่า 500 รายที่เป็นกลุ่ม Tier 1 และมีโอกาสประสบความสำเร็จได้ไม่น้อยกว่า 80% เพราะนายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นั้น นอกจากจะเป็นประธานกรรมการบริษัท TCC Network technology แล้ว ยังเป็นประธานหอการค้าไทย-จีนอีกด้วย ซึ่งมีสมาชิกในกลุ่มหอการค้าไทย-จีนไม่น้อยกว่าหลักพันราย และบริษัทต่างๆ ก็ให้ความสนใจในการทำตลาดออนไลน์สู่จีน
นายหัว เซี่ย CEO ศูนย์บริการธุรกิจไทย-จีน กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าการทำ E-commerce แบบเดิม หรือนำสินค้าของตนไปวางขายในแพลตฟอร์มของจีนเพียงอย่างเดียวอาจไม่ประสบความสำเร็จอีกแล้ว ดังนั้นหากเป็นธุรกิจที่วางแผนจริงจังในการทำตลาดสู่จีน ลองทำเองน่าจะมีแนวโน้มประสบความสำเร็จได้ดีกว่า เพราะทางไป่ตู้เองค่อนข้างแข็งแรงมากในจีน รวมทั้งไม่ว่าจะวางแผนบุกตลาดจีนผ่านเอเจนซี่ใด ก็ต้องใช้เครื่องมือของ Baidu อยู่ดี
ดังนั้น การเลือกใช้เครื่องมือของบริษัทที่ผลิตและมีข้อมูลโดยตรงเลยน่าจะช่วยเพิ่มโอกาสทางการขายได้ดีกว่า รวมทั้ง Baidu เอง ก็มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยี
ทางด้านแพคเกจที่ทำร่วมกับ TCC หรือ Baidu ไม่ได้มีความต่างกันมากนัก แต่หากติดต่อผ่านทาง TCC จะมีความพิเศษเพิ่มขึ้น 3 อย่างคือ Landing Page สำหรับธุรกิจที่ยังไม่มีเว็บไซต์ไว้เป็นหน้าร้าน, Call Center และการทำ Business Matching เพิ่มช่วยให้เข้าถึงตลาดจีนอย่างแข็งแรง
การค้าไทย-จีน
จากข้อมูลของทางหอการค้าไทย-จีน มีข้อมูลเกี่ยวกับการค้าขายร่วมกันมาประกอบความน่าสนใจเพิ่มเติม คือ จีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยติดต่อกันเป็นปีที่ 5 แล้ว ซึ่งในปี 2560 ไทยขยับขึ้นมาเป็นคู่ค้าอันดับ 3 ของจีนในภูมิภาคอาเซียน มูลค่าการค้าระหว่างประเทศของไทย-จีน เท่ากับ 73,670 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตร้อยละ 11.91 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยไทยส่งออกไปจีน 29,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 23.6% และนำเข้าจากจีนประมาณ 44,230 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.2% ตัวเลขดังกล่าวถือว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจที่ยังไม่ขยับออกไปจับตลาดจีนอย่างจริงจัง
นอกจากนี้ ทางไป่ตู้ ยังเสริมว่า แนวโน้มการค้าระหว่างไทยและจีนปี 2561 คาดว่าจะขยายตัวราว 10.4% มูลค่าอยู่ที่ประมาณ 81,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หากผู้ประกอบการไทยได้เล็งเห็นโอกาสและเรียนรู้ที่จะทำความเข้าใจอย่างถูกต้องกับกลุ่มเป้าหมายเพื่อที่จะวางแผนในการทำการตาดและสื่อสารที่ถูกต้องนับว่าโอกาสทองอยู่ไม่ไกล