เพิ่งได้ข้อสรุปชัดเจนสำหรับการเดินหน้าธุรกิจตลาดเพื่อสุขภาพของ “เจียเม้งมาร์เก็ตติ้ง” ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวหงษ์ทอง ในการเข้าซื้อกิจการร้าน “ใบเมี่ยง” ร้านสินค้าเพื่อสุขภาพ เพราะมองเห็นว่าสินค้าเกี่ยวกับข้าวนั้น สามารถนำมาแปรรูปและพัฒนาเป็นโปรดักส์ใหม่ๆ ได้ จากพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้กินแต่ “ข้าว” เป็นอาหารหลักอีกต่อไปแต่กลับชอบสินค้าเกี่ยวกับข้าวที่หลากหลายและขนมปังมากขึ้น
เรียกได้ว่าหลายธุรกิจเก่าแก่นั้น เริ่มส่งไม้ต่อให้ลูกหลานคนรุ่นใหม่มองหาโอกาสใหม่ๆ ในการรักษาธุรกิจมากขึ้น อย่างบริษัทเจียเม้งมาร์เก็ตติ้ง ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวหงษ์ทองเอง ก็มีการต่อยอดธุรกิจทั้งแปรรูปสินค้าและขายในช่องทางออนไลน์มากขึ้น เพราะหลังจากนำข้าวขายผ่านเว็บไซต์และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซก็มีการเติบโตแบบ 100% ปีต่อปี
ทางด้านธุรกิจร้าน “ใบเมี่ยง” ซึ่งเป็นสินค้าเพื่อสุขภาพ ที่บริษัทเข้าไปเทคโอเวอร์มา 4 สาขาจากทั้งหมด 10 สาขา เพื่อเดินหน้าขยายสาขาในครอบคลุมกรุงเทพและปริมณฑล ที่ตั้งเป้าการเติบโตไว้ปีละ 30%
แคทลียา มานะธัญญา ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจค้าปลีก บริษัท เจียเม้งมาร์เก็ตติ้ง จำกัด เล่าว่า นโยบายของผู้บริหารมองว่าเรื่องของสุขภาพมีการเติบโต ซึ่งเราไม่ได้เข้าไปเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจเดิมทั้งหมดแค่เข้าไปปรับให้เหมาะสมกับการเป็นร้านค้าปลีกด้านสุขภาพและสามารถขยายต่อไปได้
“นโยบายของบริษัทคือการมุ่งมั่นสร้างสุขภาพที่ดีให้กับคนไทย ทำให้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับข้าวมีประโยชน์ที่สุดและการต่อยอดอาหารสุขภาพเพราะเชื่อว่าข้าวไม่ใช่สิ่งเดียวที่คนรับประทานกัน จึงต้องหาช่องทางนำสินค้าเพื่อสุขภาพมารวมกันเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้าที่รักสุขภาพ ทำให้ก่อนหน้านี้มีร้านสินค้าเพื่อสุขภาพชื่อว่า Hongthong Health Station”
ทั้งนี้ Hongthong Health Station ได้รับผลตอบรับอย่างดีจากกลุ่มคนรักสุขภาพ แต่ด้วยจำนวนสาขาเพียง 3 สาขา ทำให้ไม่เพียงพอต่อการตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่อยู่ห่างไกล จึงวางแผนที่จะขยายไลน์ของสินค้าเพื่อสุขภาพให้มากขึ้น โดยการเข้าซื้อกิจการร้าน ‘ใบเมี่ยง’ เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2560 ที่ผ่านมา
โอกาสในกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ
สำหรับ ร้านใบเมี่ยง เป็นร้านขายสินค้าเพื่อสุขภาพ ที่มีชื่อเสียงในกลุ่มของคนรักสุขภาพในประเทศไทย มีสาขาอยู่หลายสาขาทั่วกรุงเทพและเขตปริมณฑล จุดเด่นของร้านใบเมี่ยง คือชื่อเสียงและฐานลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าระดับบนที่มีกำลังซื้อสูง อยู่ในช่วงอายุ 20-40 ปี มีไลฟ์สไตล์ที่ชอบออกกำลังกาย, เลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และชอบอัพเดทเทรนด์สุขภาพแนวใหม่ๆ จุดเด่นอีกอย่างคือ สินค้าภายในร้านที่มีครบวงจร ตั้งแต่ของกิน, ของใช้, รวมไปถึงสินค้าแม่และเด็ก นับว่าตอบโจทย์ความต้องการของคนรักสุขภาพได้อย่างตรงจุด
“หลังจากบริษัทได้ซื้อกิจการร้านใบเมี่ยงแล้ว ก็ได้มีการปรับปรุงระบบการขาย รวมถึงปรับกลุ่มสินค้าในร้านให้เป็นแบบแผนและมีมาตรฐานมากขึ้น รวมไปถึงวางแผนการตลาดที่เน้นในทางเชิงรุก ซึ่งเราวางแผนการเติบโตของร้านใบเมี่ยงไว้ปีละประมาณ 20-30% ขึ้นอยู่กับแผนการขยายสาขา”
นอกจากนี้ บริษัทจะเน้นสร้างสาขาในทำเลที่เหมาะสม เริ่มจากการขยายสาขาเพิ่มอีก 2 แห่ง ทำให้ตอนนี้มีร้านใบเมี่ยงในเครือของเจียเม้งมาร์เก็ตติ้ง อยู่ทั้งหมด 6 สาขา คือ The circle ราชพฤกษ์, Nawamin City Avanue, Homepro พระราม 2, The up พระราม 3, พาราไดซ์พาร์ค ศรีนครินทร์ ชั้น G ใกล้ฝั่งวิลล่า และเมกาบางนา ชั้น 1 Zone Big C และยังวางแผนขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วกรุงเทพและเขตปริมณฑล เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงได้สะดวก สร้างฐานลูกค้าใหม่ๆ ให้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
ช่องทางออนไลน์
ในส่วนของช่องทางการจัดจำหน่ายได้เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าในช่องทาง online ไม่ว่าจะเป็นทาง Line: @baimiang หรือ market place ต่างๆ รวมไปถึงช่องทางของ Official Shop @ shopee Mall ที่พร้อมจัดส่งสินค้าได้ทั่วประเทศ รวมไปถึงสิทธิประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้จากช่องทางนี้ ไม่ว่าเป็นส่วนลดค่าจัดส่ง, สินค้าราคาพิเศษ และการจัดส่งที่รวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีบริการสั่งสินค้าผ่าน honest bee ซึ่งเป็น Grocery shopping website ให้บริการจัดส่งสินค้าสดถึงบ้านภายใน 1 ชม. หรือลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการจัดส่งของ Lineman ก็ได้เช่นกัน
การผลักดันให้ร้านค้าปลีกอย่าง ร้านใบเมี่ยง สามารถเติบโตขึ้นได้นั้น ต้องอาศัยเครือข่ายของลูกค้า และผู้ผลิตที่เข้มแข็ง เจียเม้งมาร์เก็ตติ้ง จึงหวังสร้าง Urban healthy community ในระยะยาว เพื่อเป็นการสร้างความสมดุลใน demand และ supply ผ่านความเชื่อมั่นที่ร้านใบเมี่ยงมีมาตรฐานที่ดีในการคัดสรรสินค้าและการให้บริการ ทำให้เกิดความไว้วางใจทั้งในลูกค้าและคู่ค้าของร้าน
อย่างไรก็ตาม ตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีหลังที่มีร้านสินค้าเพื่อสุขภาพเกิดขึ้นใหม่มากมาย บริษัทจึงเดินหน้าพื่อสร้างความแตกต่างและยกระดับมาตรฐานทั้งเรื่องการคัดสรรสินค้าและในด้านการให้บริการเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มสุขภาพให้ดีขึ้นด้วย