ในช่วงที่หลายสถานการณ์กำลังถาโถมแบบนี้ Belink media บริษัทให้บริการสื่อนอกบ้านประเภท Targeted Platform ยอมรับว่าการทำตลาดในยุคนี้ต้องช่วยลูกค้ามองรอบด้านมากขึ้น เพราะเม็ดเงินที่แบรนด์จะยอมจ่ายนั้นลดลง จากเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งปัญหามลภาวะ ปัญหาด้านสุขภาพอย่างไวรัสโควิด-19 และปัญหาฝุ่นควัน ต่างก็ถาโถมเข้ามาตลอดตั้งแต่ต้นปี ทำให้การใช้จ่ายในสื่อ ไม่ว่าจะเป็น ออนไลน์หรือออฟไลน์ก็ต้องคิดหนักมากขึ้น
คุณกฤษณะ ถนอมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท บีลิงค์ มีเดีย จำกัด เล่าว่า ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนถึงวันนี้เรามีการปรับเปลี่ยนเยอะมาก ทั้งทีมบริหารที่จะเข้ามาช่วยเสริมกำลังการทำงานที่ตรงจุดมากขึ้น เพราะเรามองเห็นว่าสื่อ out of home ได้รับผลกระทบมาสักพักแล้ว ซึ่งบีลิงค์ มีเดียมีจุดแข็งคือสื่อในบริเวณสถานศึกษาและสถาบันกวดวิชาต่างๆ เช่น อาคารสยามกิตติ์ อาคารวรรณสรณ์และมหาวิทยาลัยชั้นนำกว่า 55 แห่งทั่วประเทศ
“เราเป็นสื่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วประเทศ เป็นสื่อท่ีเข้าถึงกลุ่มนักเรียน นักศึกษากว่า 1 ล้านคน รวมทั้งป้ายโฆษณาที่ติดอยู่ตามออฟฟิศย่าน CBD ผ่านป้ายโฆษณาภายใน 38 ตลาดนัด ศูนย์อาหารเจาะกลุ่มคนทำงาน รวมทั้งป้ายโฆษณาในอาคารศูนย์รวมสำนักงาน ซึ่งสามารถเจาะกลุ่มคนทำงาน ได้มากกว่า 500,000 คนต่อวัน”
ทั้งนี้ กลยุทธ์ที่เราจะใช้ผ่านแกนแนวคิด Right Target (กลุ่มเป้าหมายชัดเจน) ด้วยเศรษฐกิจที่ไม่ได้ดีมากเหมือนในอดีตทำให้การใช้เงินทำตลาดจะไม่เป็นแบบเหวี่ยงแหโดยที่ไม่รู้กลุ่มเป้าหมาย แต่กลยุทธ์ของเราจะขับเคลื่อนด้วย 4C คือ
- Coverage
- Campaign
- Competitive
- Cross Advantage
เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้ดีที่สุด ยกตัวอย่าง ในการทำแคมเปญ จะมีการใช้กรอบที่เรียกว่า 4O ประกอบด้วย On Media (เลือกคอนเทนต์ให้ตรงกับสื่อ) Online (ทำงานควบคู่ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ก็ไม่ทิ้ง) Onground event (นำเสนอสินค้าในพื้นที่จริงเพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองใช้สินค้าจริงก่อน) On Shelf (เป็นการเพิ่มโอกาสในการมองเห็นสินค้าที่มากกว่าเดิม)
ซึ่งการทำตลาดด้วยกลยุทธ์ดังกล่าวนั้น ทำให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าได้ดีกว่าเพราะไม่รบกวน เลือกรับสื่อในช่วงที่ตนเองต้องการ และจับต้องได้
“เราเคยมีเคสทำป้ายโฆษณาวางไว้ที่จุดโฆษณาและกลุ่มแฟนคลับนำป้ายของเราไปด้วยนะครับ เป็นกรณีที่แบรนด์และเรามองว่ามีการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสื่อสาร ทำให้กลุ่มลูกค้า FMCG, Telco บริการออนไลน์ต่างๆ เลือกใช้บริการสื่อของเรามากขึ้น”
นอกจากนี้ ทางบริษัทยังมีการทำผลสำรวจเกี่ยวกับการรับรู้ (Awareness) ของสื่อนอกบ้านของเรากับสื่อออนไลน์ พบว่า เด็กรุ่นใหม่จะเลือกเปิดรับสื่อที่ right for them, right time right place โดยจะเป็นการเลือกรับสื่อที่ตรงกับความต้องการ สั้นๆ ง่ายๆ และถ้าอยากรู้อะไรจะไปหาดูเอง ไม่ชอบการยัดเยียด
หากเทียบเป็นคะแนน นักศึกษาที่มองเห็นสื่อโฆษณานั้น ให้คะแนนป้ายโฆษณาในสถาบันศึกษา 84 คะแนน Facebook 73 คะแนน Youtube 46 คะแนน ที่คะแนนสื่อป้ายโฆษณาดีนั้น เป็นเพราะไม่รบกวนในช่วงความเป็นส่วนตัว และการมองป้ายโฆษณาที่ไม่เคลื่อนไหวก็ทำให้เกิด Positive Feeling ได้
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังบอกอีกว่าการทำสื่อยุคใหม่ที่ลูกค้าชอบ คือ
- บอกมาตรงๆ เลยว่ากำลังขายอะไรและนำเสนอข้อมูลที่ตรงเป็นความจริง ไม่ต้องอ้อมค้อม
- เนื้อหาต้องกระชับ ดูดี ได้ใจความ
- อยากให้ซื้อก็บอกไม่ต้องอ้อมค้อม
- แจกของให้ทดลองใช้ก่อน เพิ่มโอกาสตัดสินใจซื้อ
- ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเป็นคนออกมาบอกดีกว่าพรีเซนเตอร์
ทางด้านของค่าใช้จ่ายของคนส่วนใหญ่ไปกับสิ่งต่างๆ ในแต่ละเดือน ประกอบด้วย
- ค่าอาหารและเครื่องดื่ม อยู่ที่ 3,000+ บาท
- ค่าเช่าบ้านหรือหอพัก 2,888 บาท
- เครื่องประดับใช้จ่ายทั่วไป 1,055 บาท
- การเดินทาง 928 บาท
แม้ว่าสถานการณ์ต่างๆ ยังไม่เอื้อต่อการใช้จ่ายมากนัก ทำให้แบรนด์ต้องชะลอในการจับจ่าย ซึ่งคอนซูเมอร์โปรดักส์ได้รับผลกระทบเยอะที่สุด แต่นักการตลาดยังต้องขายของจึงต้องช่วยแบรนด์ผลักดันโอกาสใหม่ให้มากที่สุด เราจึงต้องทำงานหนักขึ้น โดยไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 15% ซึ่งเราก็ทำได้แตะ 200 ล้านบาทแล้ว จึงเชื่อว่าปิดไตรมาสแรกปีนี้จะทำได้ตามเป้า