Ben King เปิดตัวในบ้าน Google ประเทศไทยครั้งแรก เผย 4 กลยุทธ์มัดใจผู้ใช้งานและธุรกิจไทย • Thumbsup

หลังจากที่มีการประกาศตัว Country Head of business and operations of Thailand หรือ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำประเทศไทยของทั้งฝ่ายธุรกิจและฝ่ายปฏิบัติ ไปเมื่อช่วงปลายปี 2558 ที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหว ทาง Google ประเทศไทยเลยมีการจัดงานเปิดตัวคุณ Ben King อย่างเป็นทางการ โดยมีการพูดถึงทิศทางพร้อมกลยุทธที่จะนำ Google ประเทศไทยให้ประสบความสำเร็จและโดนใจผู้ใช้งานพร้อมสนับสนุนธุรกิจในประเทศไทย

เริ่มงานทางคุณ Ben King ได้กล่าวขอโทษที่เปิดตัวช้า ซึ่งจริงๆ แล้วตัวเขาได้เริ่มเข้ามาเริ่มงานที่ Google ประเทศไทยอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งช่วงเวลาที่ผ่านมาเป็นการเรียนรู้ธุรกิจและเตรียมตัวในเรื่องต่างๆ ความรู้สึกของคุณ Ben King และ Google ประเทศไทย เขามีความรู้สึกยินดีมากที่แพล็ตฟอร์มของ Google เป็นที่ยอมรับของผู้ใช้งานและพาร์ทเนอร์ สิ่งที่ทางคุณ Ben และ Google ประเทศไทยจะทำก็คือ ทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อตอบแทนความไว้วางใจของผู้ใช้งานทุกคน

กลยุทธ์ 4 เรื่องหลักที่ทั้ง Google ประเทศไทยและ Global จะให้ความสำคัญได้แก่

Great Online Experience

ทำให้เกิดผู้ใช้งานออนไลน์ที่มีคุณภาพให้ได้มากที่สุด ซึ่งตรงนี้เขาต้องได้รับประสบการณ์ (Online Experience) ที่ดีที่สุดด้วย ซึ่งปกติแล้วเราจะพูดกันแต่ว่าจำนวนผู้ใช้งานมากน้อยเป็นหลักสิบล้านร้อยล้าน จริงๆ มันเป็นเรื่องของขนาดของคนใช้งาน แต่อยากให้ดูความสำคัญของ Content เพื่อคุณภาพของการใช้ออนไลน์ ซึ่งตัวเลขเมื่อปีที่แล้ว (2015) พบว่าคนที่เข้ามาใช้บนออนไลน์ครั้งแรกประมาณ 300 ล้านคน ซึ่งนั่นก็คือสิ่งที่ต้องตอบคนกลุ่มนี้ว่า เขาจะได้ใช้อะไร ใช้อย่างไร ใช้อย่างถูกต้องไหม ด้วยพื้นฐานของผู้ใช้งานที่มี Character คล้ายกันทั่วโลก ไม่ว่าจะเชื้อชาติไหนก็ตาม

สิ่งที่คล้ายกัน ได้แก่

ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ เป็นเยาวชน
คนกลุ่มนี้เข้าถึงผ่านการใช้งานโมบายล์ สามารถเข้าถึงข้อมูล และสร้างความบันเทิงได้ในมือ และในประสบการณ์ที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งมาจากกล้องที่ติดกับตัวโมบายล์ แต่ปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้เกิดสิ่งนี่ก็คือกำลังทรัพย์ในการเข้าถึงของอุปกรณ์ และความเร็วของอินเทอร์เน็ต เพราะในตอนนี้คนต้องการเข้าถึงข้อมูลมากที่สุด และมีความเสถียรมากที่สุด

สำหรับการเข้าถึงข้อมูลบนโมบายล์ ตอนนี้ Google ใช้ Search Lite ในการค้นหา โดยสามารถใช้งานด้วยการด้วยปริมาณข้อมูลที่น้อยกว่าเดิม 10 เท่า และเร็วขึ้นกว่า 33% และการดูวิดีโอผ่าน YouTube การใช้ YouTube Offline เอื้อประโยชน์ให้กับการใช้ในพื้นที่ๆ ห่างไกล สามารถเข้าไปดู อีกเรื่องคือ Video Data Plan กำลังคุยกับ Operator ในการสร้าง Package สำหรับ YouTube โดยเฉพาะ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ YouTube ได้อย่างเต็มที่ด้วยค่าใช้จ่ายไม่มาก

Local Content

ทำอย่างไรให้เกิด Local Content หรือเนื้อหาของแต่ละท้องถิ่นนั้นให้ได้มากที่สุด เพื่อให้เข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคในประเทศไทย

Local First สร้างสภาพแวดล้อมเพื่อให้เกิด Content ที่เป็นท้องถิ่นมากที่สุด ส่วน YouTube จะมีโครงการ YouTube Partner Program ซึ่งจัดขึ้นให้กับพันธมิตรที่เป็นองค์กรธุรกิจ รวมไปถึงนักสร้าง Content รายบุคคลซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้สร้าง Content ออกมาได้เยอะขึ้น

และ Google มีโปรแกรม Love Your Language โดยให้นักเรียนที่ร่วมโครงการคนทั่วโลกไปเอา Content ช่วยกันแปล หนึ่งในนั้นคือ Voice Search ที่ถูกปรับให้เข้ากับท้องถิ่น

Educate Students on Digital

ทำอย่างไรจะให้ภาคการศึกษา โดยเฉพาะเยาวชนรุ่นใหม่มีโอกาสเข้าถึงและสร้างสรรค์โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยตลอดเวลา

การจะทำเอา Google เข้าไปเป็นเครื่องมือเพื่อเพิ่มการเรียนรู้ในเชิงสร้างสรรค์มากขึ้น และมีโครงการ Google Ignite โดยปีนี้มีเป้าหมายในการเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มนักศึกษามากกว่าแสนคน ผ่านการเข้าถึงข้อมูลและวิดีโอ รวมทั้งการสร้าง Partner ในมหาลัยในการสร้างสรรค์สื่อการเรียนการสอนให้ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

Bring SMEs Online

ทำอย่างไรให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศไทย สามารถที่จะใช้ประโยชน์ของ Digital Content, Digital Space ไปสร้างการแข่งขันในโลกธุรกิจได้

ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่มีความพร้อมด้านเทคโนโลยีทาง Google บอกว่ามีโอกาสทางธุรกิจสูงกว่า 80% นั่นคือหากว่าร้านค้าไม่นำตัวเองขึ้นมาบนออนไลน์ ก็จะไม่ถูกค้นหาจากคนที่ต้องการได้

คำถามที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ Google จะช่วยอย่างไรบ้าง เลยมีผลิตภัณฑ์ GMB: Google My Business เป็นแอปพลิเคชันให้เจ้าของธุรกิจสามารถเข้ามาใส่ข้อมูลเพือสร้างโอกาสในการถูกค้นหามากขึ้น สิ่งสำคัญก็คือ ได้ถูกค้นพบเมื่อคนๆ นั้นต้องการสินค้า ณ เวลานั้น ซึ่งสิ่งที่ Google ทำคือการให้เอเยนซี่ไปบอกกับคนทำธุรกิจถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการทำสิ่งนี้

โดยสรุปก็คือ พฤติกรรมของคนที่เปลี่ยนไปจากการใช้งาน Mobile ไม่ว่าจะเป็น Mobile Penetration, การซื้อของออนไลน์ของคนไทย ที่แซงหน้าคนทั่วโลก แม้แต่คนใน US และ UK ก็ยังน้อยกว่า และการเกิด Micro-moments ขึ้นมา (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ ปรากฎการณ์ Micro-Moments ที่มีผลกระทบกับการตลาดในแถบเอเชียรวมทั้งไทย)