บมจ. เบทาโกร หรือ BTG ประกาศผลการดำเนินงานปี 2565 มีรายได้รวม 113,877 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.3% เมื่อเทียบกับปี 2564 และมีกำไรสุทธิ 7,938 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 7 เท่าตัวจากปี 2564 ชูความสำเร็จกลยุทธ์ World-Class Branded Food Company ดันการเติบโต 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ทั้งกลุ่มธุรกิจเกษตร กลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีน กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ และกลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยง
วสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. เบทาโกร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปี 2565 มีรายได้รวม 113,877 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 86,744 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 7,938 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 685.5% จากปีก่อน คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ 7.0 % ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 1.2% ในปี 2564 โดยในช่วงไตรมาส 4/2565 (ตุลาคม – ธันวาคม) บริษัทฯ มีรายได้รวม 30,052 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และหนุนกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 1,796 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 6.0% เพิ่มขึ้นจาก 3.8% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
ความสำเร็จปี 2565 มาจากการเติบโตของรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจหลักอย่างแข็งแกร่งและโดดเด่น ได้แก่
- กลุ่มธุรกิจเกษตร มีรายได้เพิ่มขึ้นจากราคาผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น
- กลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีน มีรายได้เพิ่มขึ้นจากปริมาณการขายและราคาผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ อาหารแปรรูปและเนื้อสัตว์แปรรูป ทั้งในประเทศและตลาดส่งออก
- กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ เติบโตจากการเพิ่มขึ้นของราคาขายของอาหารสัตว์ รวมทั้งราคาขายสัตว์ที่มีชีวิต ทั้งในประเทศกัมพูชาและประเทศลาวที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
- กลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยง เป็นธุรกิจที่เติบโตเพิ่มขึ้นทั้งปริมาณการขายและราคาขายอาหารสัตว์เลี้ยงที่ปรับขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของปริมาณการผลิต และการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ที่มีราคาขายสูงขึ้น
สำหรับกำไรสุทธิและอัตรากำไรสุทธิของบริษัทฯ ในปี 2565 ที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้และอัตรากำไรขั้นต้น รวมทั้งการควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยได้ประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale) ตามการเพิ่มขึ้นของปริมาณการขาย ทั้งนี้ กำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ในปี 2565 อยู่ที่ระดับ 21,731 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 94.7% จาก 11,164 ล้านบาทในปี 2564 โดยบริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 19.3% ในปี 2565 เพิ่มขึ้นจาก 13.1% ในปี 2564 โดยมีปัจจัยจากการปรับราคาสินค้าในกลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์หมู ไก่ ไข่ไก่ อาหารแปรรูปและเนื้อสัตว์แปรรูป รวมทั้งยังมาจากรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการที่มีปริมาณการขายเพิ่มขึ้น
“บริษัทพร้อมขับเคลื่อนธุรกิจต่อเนื่องในปี 2566 ภายใต้ ‘World-Class Branded Food Company’ เพื่อเติบโตอย่างแข็งแกร่งทั้งในประเทศ และต่างประเทศต่อไป” วสิษฐ กล่าวเสริม