Big Data ถือเป็นสิ่งที่ได้ยินกันมากในช่วงปีที่ผ่านมา เเต่เนื่องจากข้อมูลที่มากก็มาพร้อมกับการวิเคราะห์เเละเก็บรักษามหาศาล ทำให้ไม่ได้มีเเบรนด์ไหนพูดถึง Big Data กันอย่างชัดเจน วันนี้เราเลยจะมาอธิบายให้เข้าใจถึงความสำคญเเละเหตุผลที่เเบรนด์ควรใช้ Big Data ในการวิเคราะห์กลยุทธ์
Big Data สำคัญกว่าที่คิด
Big Data คือข้อมูลชุดใหญ่ของบริษัทไม่ว่าจะภายในภายนอกเช่น ข้อมูลพนักงาน ข้อมูลยอดขาย ข้อมูลลูกค้า ซึ่งการจะจัดข้อมูลชุดใหญ่ขนาดนี้ได้ อาจต้องใช้ Data Analyst หรือผู้ที่มีความชำนาญในเรื่องข้อมูล เพราะต้องใช้ทักษะเฉพาะในการดูเเล จัดการ เเละนำไปวิเคราะห์ เเละที่สำคัญคือราคาที่สูงลิบลิ่ว
โดย Big Data มีหลายเครื่องมือในการวิเคราะห์คือ Hadoop NoSQL โดยข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ก็เพื่อไปพัฒนาธุรกิจให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เนื่องจากความต้องการของลูกค้ามีหลากหลาย เเละยิ่งเเบรนด์ใหญ่ ความต้องการยิ่งกระจาย
เเต่ในการคิดกลยุทธ์จะมีพ้อยหลักเพียงไม่กี่ข้อ การจะรู้ว่าประเด็นใดสำคัญที่สุด จึงต้องใช้ฐานข้อมูลมหาศาลเพื่อครอบคลุมถึงความต้องการกลุ่มลูกค้าให้มากที่สุด เพื่อคิดกลยุทธ์ให้ตอบสนองเเละตรงใจกลุ่มลูกค้าอย่างเเม่นยำ
ข้อมูลเเบ่งได้หลายประเภท
ข้อมูลที่เกิดขึ้นในองค์กร มีหลายเเบบ เนื่องจากเกิดทั้งในเเละนอกองค์กร โดยเเบ่งออกเป็น 5 โครงสร้างคือ
- Volume คือ ข้อมูลจำนวนมหาศาลที่เกิดขึ้นกับองค์กร ซึ่งปัจจุบันหลายธุรกิจมีข้อมูลจำนวนมากเเต่ไม่รู้ว่าจะนำมาประยุกต์ใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์ต่อเเบรนด์สูงสุด
- Velocity คือ ข้อมูลที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว เช่น ลูกค้าพูดถึงเราอย่างไรใน Social Network กระเเสต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเบรนด์
- Variety คือ ไฟล์ข้อมูลพื้นฐานเช่น ข้อความ ภาพ ตัวเลข
- Veracity คือ ข้อมูลที่ต้องมีมาตรฐานสูงเนื่องจาก เป็นข้อมูลที่นำไปต่อยอดในการวิเคราะห์กลยุทธ์ จึงต้องมีความน่าเชื่อถือเพียงพอ
- Value คือ ผลตอบรับ ที่ได้รับจากการนำข้อมูลไปใช้
Big Data ทำให้กลยุทธ์เเม่นยำขึ้น
ถึงเเม้ว่า Big Data จะเกิดขึ้นกับองค์กรใหญ่ๆ เเต่เเท้จริงเเล้วหัวใจหลักของ Big Data ก็คือการให้เเบรนด์วิเคราะห์กลยุทธ์ภายใต้ข้อมูล เพื่อจะได้คิดกลยุทธ์ได้ตรงกลุ่มเป้าหมายจริงๆ หรือหากเป็นองค์ใหญ่ข้อมูลคือการกำหนดทิศทางขององค์กรเลยด้วยซ้ำ
เป็นเหตุผลที่ทำไมเเบรนด์ถึงต้องมี Data เป็นพื้นฐานในการขยับของเเบรนด์ทุกก้าว เเต่จะวิเคราะห์ข้อมูลได้ตรงจุดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคุณภาพของข้อมูลเเละนักวิเคราะห์ข้อมูลต่อจากนั้น ซึ่งเหตุผลหลักๆ คือ
ทำให้เข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าอย่างเเท้จริง
พฤติกรรมของลูกค้า ไม่ได้อยู่เเค่เเบบสอบถามอย่างเดียว เเต่กระจายอยู่ในทุกที่เช่น รีวิวที่ลูกค้าเขียนถึงเเบรนด์ คำถามต่างๆ ที่ลูกค้าถามมาที่เเบรนด์ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับลุกค้าทั้งพูดถึงเเละไม่พูดถึง ล้วนเป็น Insight ที่เเบรนด์ต้องรู้
เมื่อเรามีข้อมูลทั้งหมดเเล้ว เราจะสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าได้อย่างเเท้จริง เผลอๆ อาจจะมากกว่าลูกค้ารู้จักตัวเองอีก เพราะข้อมูลที่ได้มาสามารถบอกได้ว่าลูกค้ามีเเนวโน้มว่าจะชอบอะไรเพิ่มอีก ช่วยให้เเบรนด์คิดสินค้าตัวใหม่ได้ง่ายขึ้น
ทำให้บริษัทรู้ทิศทางการเติบโต
ข้อมูลที่ได้รับจากการวิเคราะห์ในส่วนของยอดขาย ภาพลักษณ์ ประสิทธิภาพของพนักงาน สามารถเชื่อมโยงเเละบอกทิศทางอนาคตของเเบรนด์ใด ว่าจะไปทิศทางไหน จะเติบโตมั้ย หรือจะร่วง เเละถ้าจะเเก้มีช่องโหว่อะไรที่เเบรนด์สามารถเข้าไปเล่นได้ ที่จะช่วยเเก้เกมให้กับเเบรนด์มีทิศทางการเติบโตตามเป้าหมาย
สร้างยอดขายให้มีเเนวโน้มที่ดีขึ้น
ข้อมูลยอดขายส่วนใหญ่จะเป็นนักการตลาดที่ต้องวิเคราะห์ออกมา ถ้าเป็นเเบรนด์เล็ก มีลูกค้าไม่มากทุกอย่างก็จบที่นักการตลาด เเต่หากเป็นเเบรนด์ใหญ่ การจะสร้างข้อมูลเพื่อไปคิดกลยุทธ์ต่อ ภายใต้ข้อมูลมหาศาลที่มีถือเป็นเรื่องยาก เเต่หากนักการตลาดมีชุดข้อมูลที่ถูกสรุปมาให้เเล้วส่วนนึง จะช่วยให้การคิดกลยุทธ์เพื่อสร้างยอดขายในอนาคตมีเเนวโน้มที่ดีขึ้น
ไม่ว่าเเบรนด์ของคุณจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่ การสร้างกลยุทธ์จากการวิเคราะห์ข้อมูลจะมีความเเม่นยำมากกว่า การ “คิด” ว่าลูกค้าต้องชอบเเน่ๆ เพราะข้อมูลมาจากลูกค้าจริงๆ การคิดกลยุธ์ภายใต้ข้อมูลที่เกิดจากลูกค้าเองจึงเเม่นยำเเละมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า