งานบิ๊กเมาน์เท่น มิวสิคเฟสติวัล หรือ Big Mountain Music Festival (BMMF) ถือเป็นงานเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จัดโดยบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ และจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 แล้ว ซึ่งมีศิลปินจากทุกสังกัด รวมทั้งศิลปินอิสระเข้าร่วมอย่างล้นหลามทุกปี
แต่ในปีนี้เป็นครั้งแรกที่งาน BMMF ต้องยุติคอนเสิร์ตก่อนกำหนด หลังผู้ว่าราชการจังหวัด (ผวจ.) นครราชสีมาสั่งให้ยุติงาน เนื่องจากเสี่ยงต่อการแพร่โรคติดต่อ เรื่องราวทั้งหมดเป็นอย่างไร เกิดเหตุการณ์อะไรขึนบ้าง Thumbsup ขออธิบายจบในโพสต์เดียว
1) ย้อนกลับไปเมื่อเดือนสิงหาคม นายยุทธนา บุญอ้อม หรือป๋าเต็ด ผู้จัดงาน บิ๊กเมาน์เท่น มิวสิกเฟสติวัล 11 ประกาศว่าปีนี้กำหนดจัดงาน Big Mountain Music Festival 11 ขึ้นวันที่ 12-13 ธันวาคม นี้ ที่ดิโอเชี่ยน เขาใหญ่ อ.ปากช่อง ซึ่งพื้นที่สามารถจุผู้ชมได้ 1.5 แสนคน แต่จำกัดจำนวนผู้เข้าชมไม่เกิน 5 หมื่นคน เพื่อการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
2) สำหรับกระบวนการเตรียมงานผู้จัดงานได้ชี้แจงมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อาทิ จุดบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ สวมหน้ากาก การจำกัดจำนวนคนเข้าพื้นที่ การเว้นระยะห่าง ตรวจวัดอุณหภูมิ รวมถึงการเช็คอินแอปพลิเคชั่นไทยชนะ ให้กับนายวีเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้รับอนุญาตจัดงานตามขั้นตอน
3) หลังจากนั้นผู้จัดได้เริ่มประกาศในต้นเดือนตุลาคมและสามารถขายบัตรคอนเสิร์ตล่วงหน้าจนหมด จนกระทั่งต้นเดือนธันวาคม เริ่มพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศอีกครั้ง เนื่องจากมีหญิงสาวจากพม่าได้ลักลอบเข้าไทยโดยช่องทางธรรมชาติ และไม่กักตัว ทำให้การท่องเที่ยวเชียงใหม่-เชียงรายได้รับผลกระทบในช่วงไฮซีซั่น
และศิลปินอีกคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบคือ อิ้งค์-วรันธร ที่ต้องกักตัว 14 วันและยกเลิกงานทั้งหมดในช่วงกักตัว เนื่องจากพบว่าเธอนั่งเครื่องบินลำเดียวกันกับหญิงสาวที่ติดเชื้อโควิด-19
4) ด้าน ‘ป๋าเต็ด’ ได้ออกมาโพสต์ยืนยันว่าจะจัดงาน BMMF แน่นอน ไม่เลื่อน โดยระบุข้อความว่า “กว่าจะจัดงานได้แต่ละงาน ตรวจแล้วตรวจอีก ต้องผ่านไม่รู้กี่ด่าน เพื่อให้ผู้อนุมัติพอใจ แล้วก็มีคนมักง่ายไม่กี่คนทำให้พังกันเป็นแถบ เซ็ง #BMMFไม่แคนเซิลนะขอให้สบายใจ #ขาดใครไม่ขาดมาขาดน้องอิงค์ #โกรธมาก”
5) จากนั้นวันที่ 13 ธ.ค. หลังจากงานไปได้ 1 วัน ผวจ.นครราชสีมา ได้รับการร้องเรียนว่า BMMF ไม่จํากัดจํานวนผู้เข้าร่วมงาน ทําให้เกิดความแออัดของผู้เข้าชม รวมทั้งผู้เข้าร่วมงานไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย และตะโกนร่วมร้องเพลงตลอดเวลา มีความสุ่มเสี่ยงในการแพร่ระบาด จึงมีมติสั่งให้ปิดสถานที่และยุติการแสดงคอนเสิร์ต Big Mountain Music Festival ที่ยังเหลือการแสดงอีก 1 วัน
6) เย็นวันเดียวกัน ผู้จัดงานได้ขอยื่นอุทธรณ์แก่คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ โดยยืนยันว่าได้มีมาตรการดูแลและป้องกันอย่างดี และทำเกินกว่าที่ทางจังหวัดกำหนดไว้ แต่ผวจ. แถลงให้ยึดคำสั่งเดิมที่ออกไป ถึงแม้ทางผู้จัดงานจะมีมาตรการตีช่องเพื่อเว้นระยะห่าง และยังไม่พบรายงานผู้ติดเชื้อภายในงานก็ตาม
7) อย่างไรก็ตามวันที่ 14 ธ.ค. ศิลปินได้ขึ้นแสดงบนเวทีตามปกติ จนกระทั่งทีมงานบิ๊กเมาเท่น ประกาศยุติการจัดงานภายใน เวลา 22.00 น. พร้อมขอบคุณและขออภัยผู้ร่วมงาน รวมถึงเปิดให้ผู้ที่ต้องการให้คืนเงินค่าบัตร สามารถแจ้งความประสงค์ขอคืนเงินได้ ด้าน ‘ป๋าเต็ด’ ก็ได้แชร์โพสต์แถลง พร้อมระบุข้อความว่า “ขอโทษที่ทำได้แค่นี้ครับ” ซึ่งมีผู้เข้ามาร่วมงานมาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก
8) สำหรับในทวิตเตอร์ขึ้นเทรนด์ตลอดทั้งวันด้วยแฮชแท็ก #bigmountain2020 กระแสดราม่าส่วนหนึ่งระบุว่าการสั่งยกเลิกงานด้วยเหตุผลทางการเมือง เนื่องจากบรรยากาศการแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินต่าง ๆ รวมถึงผู้ชม เป็นไปอย่างคึกคัก มีการชู 3 นิ้ว เป็ดเหลือง แซะผู้มีอำนาจรัฐ รวมถึงการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์บนเวทีคอนเสิร์ต และเนื้อหาบางส่วนมีการหยิบยกกรณีจัดงานกาชาด และรับเสด็จมาเปรียบเทียบ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมไม่สวมหน้ากากอนามัย และผู้คนแออัด แต่สามารถจัดได้ปกติ ไม่มีคำสั่งปิดแต่อย่างใด
9) หลังยุติงาน มีการขึ้นป้ายข้อความ “ขอโทษที่ทำได้แค่นี้ ขอให้ทุกท่านเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ” โดยผู้ร่วมงานต่างพร้อมใจกันชู 3 นิ้ว และร่วมร้องท่อนฮุคของเพลง “12345 I Love You” ของ The Bottom Blues ในเวอร์ชั่นม็อบราษฎร ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งได้เข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อยภายในงาน
10) ล่าสุดเช้าวันนี้ (14 ธ.ค.) ทวิตเตอร์เกิดแฮชแท็ก #bmmf11ไร้จิตสำนึก ผู้ใช้บางส่วนระบุว่าผู้จัดงานไม่ได้แสดงให้เห็นว่าทำได้ตามที่ขออนุญาตไว้ และยังยืนยันจัดงานต่อ ฝ่าฝืนคำสั่งของทางราชการ และเรียกร้องให้ทางบริษัท และสปอนเซอร์ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย
https://www.facebook.com/ted.yuthana/posts/10159076132251477