รู้ไหมว่า 7 ธุรกิจที่มีความยิ่งใหญ่และมีการเติบโตสูงที่สุดในปี 2013 คือธุรกิจใดบ้าง ไม่แน่ทั้ง 7 อันดับนี้นี้อาจจะเป็นแนวทางให้นักการตลาดอย่างคุณมองออกได้ว่าจะต้องเข้าหาแหล่งทุนจากธุรกิจไหนในอนาคต
การจัดอันดับครั้งนี้ดำเนินการโดยเว็บไซต์ Mycorporation.com ถือเป็นข้อมูลที่น่าสนใจมากเพราะบางธุรกิจใน 7 อันดับดาวรุ่งของปีนี้เป็นธุรกิจใหม่ที่ยังไม่เคยติดอันดับในปีใดมาก่อน
1. กลุ่มธุรกิจพลังงานสีเขียวและพลังงานทดแทน (Green and Sustainable Energy)
กลุ่มธุรกิจพลังงานสีเขียวและพลังงานทดแทน เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีเป้าหมายเพื่อต้องการกระตุ้นให้ผู้บริโภคและประชาชนหันมาให้ความสนใจในการอนุรักษ์และรักษาสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปีนี้ (2013) มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 20% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้ธุรกิจมีการเติบโตอย่างรวดเร็วเป็นสาเหตุมาจาก กระแสความนิยมในการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม รวมถึงกระแสการสร้างพลังงานทดแทนอย่างยั่งยืนที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนรูปแบบของธุรกิจสีเขียวที่ได้รับความนิยมในเวลานี้ประกอบด้วย การทำบ้านประหยัดพลังงาน (Green Home), แผงพลังงานแสงอาทิตย์และการออกแบบก่อสร้างอาคารที่ช่วยประหยัดพลังงาน
2. ธุรกิจเกี่ยวกับการดูแลตัวเอง (Personal Care)
จากกระแสความนิยมของคนส่วนใหญ่ในปัจจุบันที่เริ่มหันมาให้ความสนใจกับการดูแลตัวเองมากขึ้นทั้งในเรื่องสุขภาพและความงาม จึงส่งผลทำให้ธุรกิจเกี่ยวกับการดูแลตัวเองกลายเป็น 1 ใน 7 ธุรกิจที่มีการเติบโตสูงสุดในปี 2013 โดยในปีนี้ (2013) ธุรกิจมีการเติบโตอยู่ที่ 15% เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเวลาเดียวกับปีที่ผ่านมา ส่วนประเภทของธุรกิจซึ่งเกี่ยวข้องกับการดูแลตัวเองที่กำลังได้รับความนิยม ได้แก่ ธุรกิจเกี่ยวกับการออกกำลังกายทางเลือก (โยคะ, พิลาทิสและฟิตเนส) และผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผิว (Self-Tanning Product)
3. ธุรกิจการศึกษาออนไลน์ (Online and For-Profit Education)
จากอิทธิพลของการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน จึงส่งผลทำให้ช่องทางออนไลน์กลายเป็นทางเลือกอีกรูปแบบหนึ่งในการศึกษาที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยในแต่ละปีพบว่าธุรกิจการศึกษาออนไลน์มีการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 22% และคาดว่าจะสามารถทำรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2017 ส่วนสาเหตุสำคัญที่ทำให้ธุรกิจการศึกษาออนไลน์เป็นที่นิยมเนื่องจาก ความสะดวกและประหยัดเวลาในการเดินทาง
4. ธุรกิจเกมบนโซเชียลโซเชียลเน็ตเวิร์ค (Social Network Games)
สำหรับธุรกิจเกมบนโซเชียลเน็ตเวิร์คนับว่าเป็นธุรกิจประเภทใหม่ที่เกิดขึ้นโดยได้รับอานิสงส์จากการกระแสความนิยมของการใช้งานโซเชียลมีเดียที่กำลังมาแรงอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งในแต่ละปีมีมูลค่าเฉลี่ยการเติบโตอยู่ที่ 128% ส่วนในปี 2012 ที่ผ่านมาธุรกิจเกมบนโซเชียลเน็ตเวิร์คมีรายได้รวมกันเฉลี่ย 609 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2017 โดยบริษัทผู้ผลิตและออกแบบเกมชั้นนำในเวลานี้ ได้แก่ Zynga, Electronic Arts และ Walt Disney Company
5. ธุรกิจแอพลิเคชั่นบนมือถือ (Mobile Application)
ธุรกิจแอพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือก็นับว่าเป็นธุรกิจประเภทใหม่เช่นเดียวกับธุรกิจเกมบนโซเชียลเน็ตเวิร์ค แต่เป็นการอาศัยการเติบโตและเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ใช้งานอุปกรณ์เคลื่อนที่ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2013 พบว่ามียอดการดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นราว 11% และคาดว่าจะมีการเติบโตเฉลี่ยต่อปีสูงถึง 128%
6. ธุรกิจการพิมพ์แบบ 3 มิติ (3D Printing)
การพิมพ์แบบ 3 มิติ (3D) เป็นรูปแบบการพิมพ์แบบจำลองที่ข่วยให้ผู้ชมสามารถมองเห็นค่าต่างๆได้อย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็น ความกว้าง, ความสูงและความหนา ซึ่งเรียกได้ว่าการพิมพ์รูปแบบใหม่ในยุคดิจิตอลที่กำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยในระหว่างปี 2012-2017 มีการประเมินว่าธุรกิจการพิมพ์ในรูปแบบ 3 มิติจะมีการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 14% ต่อปี อีกทั้งยังคาดว่าจะสามารถทำรายได้สูงถึง 5,200 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2020
7. ธุรกิจยา (Generic Pharmacy)
ธุรกิจยานับว่าเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับความสนใจมาอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากยาเป็น 1 ในปัจจัย 4 ที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน โดยในปีแล้ว (2012) ธุรกิจยามีรายได้รวมกันอยู่ที่ 53,000 ล้านเหรียญสหรัฐและมีค่าเฉลี่ยในการเติบโตต่อปีอยู่ที่ 9.6%
ที่มา : Mycorporation.com