นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ พบว่า กำลังไฟฟ้าที่ใช้ขุดบิตคอยน์ทั่วโลกนั้นมากถึง 121.36 เทราวัตต์ต่อชั่วโมง และไม่มีแนวโน้มที่จะลดลงหากมูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลยังคงสูงขึ้น
รวมถึงเหตุการณ์ล่าสุดที่ Tesla บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกประกาศลงทุนกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในบิตคอยน์ ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากขัดกับภาพลักษณ์เพื่อสิ่งแวดล้อมของบริษัท
สัปดาห์ที่ผ่านมา (12 ก.พ.) มูลค่าบิตคอยน์พุ่งทะยานแตะระดับ 48,000 ดอลลาร์สหรัฐทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังการประกาศลงทุนดังกล่าวของบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่
แต่มูลค่าที่เพิ่มขึ้นนั้นทำให้นักขุดบิตคอยน์อยากที่จะเพิ่มกำลังขุด รวมถึงเพิ่มจำนวนเครื่องจักร ซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้ามหาศาล
อ้างอิงจากดัชนีการใช้ไฟฟ้าของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์จะพบว่า ปริมาณไฟฟ้าที่ใช้ขุดบิตคอยน์นั้นมากกว่าปริมาณการใช้ไฟฟ้าของอาร์เจนติน่าทั้งประเทศ ซึ่งมีประชากรราว 45 ล้านคน
ฝ่ายสนับสนุนการขุดบิตคอยน์อ้างว่า “ปัจจุบันฮาร์ดแวร์มีประสิทธิภาพมากขึ้น นั่นทำให้การใช้พลังงานไฟฟ้าที่น้อยลงในการทำธุรกรรม Blockchain”
ส่วนอีกฝ่ายนึงก็โต้ว่า “ฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นไม่มีผลอะไรกับพลังงานไฟฟ้า เพราะยังต้องแข่งขันกับนักขุดคนอื่นๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งบิตคอยน์ พร้อมเรียกร้องให้เก็บภาษีคาร์บอนในสกุลเงินดิจิทัล เพื่อปรับสมดุลการขุดบิตคอยน์ที่มากเกินไป”
ที่มา