เป็นครั้งแรกที่บริษัทด้านบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย ได้สร้างเครือข่าย Blockchain ของตนเอง เพื่อเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีพาบริษัทสัญชาติไทยสู่ระดับโลก พร้อมการสร้าง Bitkub Coin (KUB) บน Bitkub Chain เครือข่ายบล็อกเชนฝีมือคนไทย ที่ออกแบบขึ้นมาเพื่อผลักดันให้เกิดการใช้งานบล็อกเชนบนภาคธุรกิจจริง พร้อมเผยรายชื่อพาร์ทเนอร์ร่วม 11 บริษัทชั้นนำเป็น Validator Node ในช่วงแรก (V1)
เหรียญ Bitkub Coin คืออะไร?
Bitkub Coin (KUB) คือ Native Coin ที่มีหน้าที่เป็น Utility Coin บน Bitkub Chain เครือข่ายบล็อกเชนที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด ลูกค้าทุกท่านบนกระดานซื้อขาย Bitkub.com สามารถนำเหรียญ KUB (ในเวอร์ชั่น V1) ไปแลกเป็น Fee Credit เพื่อลดค่าธรรมเนียมในการซื้อขายบนกระดานเทรดของ Bitkub ขณะที่ทางผู้พัฒนาที่สนใจสร้างแอปพลิเคชันบน Bitkub Chain ก็สามารถใช้เหรียญ KUB เป็น Gas Fee หรือเป็นค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมบนบล็อกเชนได้เช่นกัน
เครือข่าย Bitkub Chain คืออะไร?
Bitkub Chain คือเครือข่ายบล็อกเชนที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด เป็นบริษัทผู้ให้บริการด้าน Blockchain Full-solution Service และเป็นที่ปรึกษาด้าน ICO (Initial Coin Offering) แก่องค์กรหรือผู้ประกอบการที่ต้องการยกระดับธุรกิจด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน เป็นหนึ่งในเครือบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด เช่นเดียวกับบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ผู้ให้บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแนวหน้าของประเทศไทย
Bitkub Chain มีวัตถุประสงค์ที่จะเป็นเครือข่ายบล็อกเชนสำหรับทุกคน ให้นักพัฒนาสามารถเข้ามาสร้างสรรค์แอปพลิเคชัน เพื่อผลักดันให้เกิดการใช้งานบล็อกเชนในภาคอุตสาหกรรมให้เกิดขึ้นจริง (Real Business Use Case) ไม่ว่าจะเป็น Decentralized Exchange (DEX), Decentralized Finance (DeFi) หรือ Decentralized Application (DApp) เป็นต้น เบื้องต้นมีเป้าหมายเพื่อการใช้ในประเทศและสามารถใช้ได้อย่างเป็นสากลตามคุณสมบัติของบล็อกเชนที่จะช่วยทำให้เกิดกระบวนการต่าง ๆ ในการจัดการธุรกิจน้อยลง มีระยะเวลาที่สั้นลง จึงทำให้สามารถประหยัดงบประมาณและค่าใช้จ่ายในการบริหารงานได้
ตลอดจนสามารถทำให้เกิดสภาพคล่องในสินทรัพย์ต่าง ๆ ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า Tokenization เครือข่าย Bitkub Chain สามารถตรวจสอบและสร้างบล็อกใหม่ขึ้นบนเครือข่ายได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาที พร้อมกับรักษาค่าธรรมเนียมให้อยู่ในระดับต่ำต่อธุรกรรม ด้วยการใช้ระบบ Consensus Algorithm แบบ Proof of Authority
ทั้งนี้ เฟสแรกของ Bitkub Chain จะใช้ Consensus Algorithm แบบ Proof of Authority (PoA) โดยมีองค์กรที่ร่วมเป็น Validator Node แล้ว ดังนี้
- บริษัท ทีพีซีเอส จำกัด (มหาชน)
- บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน)
- บริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน)
- บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (มหาชน)
- บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
- บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ทูซีทูพี (ประเทศไทย) จำกัด
- บริษัท เก็ทลิงส์ (ไทยแลนด์) จำกัด
- บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด
- SIX Network PTE. Ltd.
- SmartContract Blockchain Studio
เมื่อเข้าสู่เฟสถัดไป Bitkub Chain จะเปลี่ยนจาก PoA ไปสู่ Proof of Staked Authority (PoSA) จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็น Proof of Stake (PoS) เต็มรูปแบบตามลำดับ
ความเป็นมาของ Bitkub
Bitkub Chain เกิดขึ้นจากแนวคิดของคุณสกลกรย์ สระกวี Co-founder และ Chairman เครือบริษัทบิทคับ ที่ต้องการให้คนไทยมีเครือข่ายบล็อกเชนที่เป็นของคนไทย เพราะที่ผ่านมานั้นเราใช้ Infrastruture ของต่างชาติมาโดยตลอด ทำให้ไม่สามารถสร้างสรรค์หรือตอบโจทย์การใช้งานได้ตลอดจนมีราคาแพง Bitkub Chain เป็นเครือข่ายที่สามารถทำให้เกิดการใช้งานในภาคธุรกิจขึ้นจริง ด้วยการทำให้เครือข่ายสามารถสร้างบล็อกใหม่ได้อย่างรวดเร็ว และรักษาให้มีค่าธรรมเนียม (Gas Fee) ต่ำ แทนที่จะต้องพึ่งพาเครือข่ายบล็อกเชนของต่างชาติที่มีค่าธรรมเนียมสูง
ล่าสุด มีโปรเจคต์ที่เกิดขึ้นบน Bitkub Chain แล้ว นั่นคือ Fans Token ที่เป็นการเปลี่ยนชื่อเสียงของเหล่า Influencers ให้อยู่ในรูปแบบของเหรียญดิจิทัล โดยมีผู้ร่วมก่อตั้งคือ Bie the Ska, VRZO Channel, Kyutae Oppa, Kaykai Salaider, และ Spriteder SPD ซึ่งผู้ร่วมก่อตั้งเหล่านี้เป็น Youtubers ที่มีผู้ติดตามรวมกันมากกว่า 40 ล้านบัญชี
นับเป็นครั้งแรกที่คนดูสามารถรับเหรียญได้จากการดูวีดีโอผ่าน Youtube และมีผู้ใช้มากกว่า 1 แสนบัญชี บนแพลตฟอร์ม Bitkub NEXT หลังจากการเปิดตัวเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และการแจกการ์ด NFT นักกีฬา Esport ชื่อดังจากการแข่งขัน PUBG Thailand Open Summer 2021 : Road to PCS 4 APAC presented by Bitkub ที่มีผู้เข้าชมมากกว่า 60,000 คนต่อครั้ง ทำให้มีผู้เข้ามาเปิดกระเป๋าบน Bitkub NEXT มากกว่า 1 แสนบัญชี และมีการสแกนเพื่อรับการ NFT ไปสะสมและแลกเปลี่ยนแล้วรวมกว่า 1.4 ล้านใบ
ในอนาคตจะมี NFT Marketplace ที่จะเป็นตลาดให้ผู้ใช้สามารถเข้าแลกเปลี่ยนของสะสมที่อยู่ในรูปแบบ NFTs ได้หลากหลายมากขึ้น สามารถรับชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากลิ้งค์นี้ https://www.youtube.com/watch?v=ceIjOvJ2tcA