Site icon Thumbsup

ซีอีโอ BlackBerry คาดอีก 5 ปีจะไม่มีใครอยากได้แท็บเล็ต

bbCEO

ซีอีโอ BlackBerry อย่าง Thorsten Heins แสดงความเห็นสวนทางนักวิเคราะห์แบบคนละขั้ว โดยเชื่อว่าความต้องการแท็บเล็ตจะหมดลงในอีก 5 ปีนับจากนี้ ถือเป็นความเชื่อที่นักการตลาดต้องฟังไว้เพื่อรับความเปลี่ยนแปลงของตลาดให้ทันท่วงที

BlackBerry หรือชื่อบริษัทเดิมคือ RIM นั้นถูกมองว่าไม่ประสบความสำเร็จในตลาดแท็บเล็ตเท่าที่ควร แต่บาดแผลเรื่องแท็บเล็ตของ BlackBerry นั้นดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยเมื่อซีอีโอ BlackBerry เชื่อว่าอีก 5 ปีนับจากนี้ จะไม่มีเหตุผลอะไรที่ทำให้คนอยากได้แท็บเล็ตไว้ใช้งาน

ซีอีโอ BlackBerry (ชายในภาพด้านบน) ใช้คำว่า “In five years I don’t think there’ll be a reason to have a tablet anymore” ซึ่งหมายความว่าตัวเขาเองไม่คิดว่าจะมีเหตุผลที่ทำให้คนอยากได้แท็บเล็ตไว้ใช้งานอีกต่อไป โดยคาดว่าอุปกรณ์ที่จะมีอิทธิพลแทนที่อาจเป็นอุปกรณ์หน้าจอใหญ่สำหรับการทำงาน แต่ไม่ใช่แท็บเล็ตแน่นอน

Thorsten Heins แสดงความเห็นนี้ระหว่างการให้สัมภาษณ์เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาที่สถาบัน Milken Institute รายงานจาก Bloomberg สะท้อนความเห็นของซีอีโอ BlackBerry ที่มองว่าแท็บเล็ตยังเป็นอุปกรณ์ที่ไม่เหมาะกับการทำงานและโมเดลธุรกิจ

ความเห็นของซีอีโอ BlackBerry ทำให้ทุกคนหันไปมองยอดจำหน่ายของเจ้าตลาดอย่าง Apple ที่ขายแท็บเล็ต iPad (ในภาพ) ได้มากกว่า 20 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ผ่านมา และยังมีการคาดว่าแท็บเล็ตจะทำยอดจำหน่ายแซงหน้าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในปีนี้ ขณะที่ BlackBerry กลับล้มไม่เป็นท่าในการทำตลาด BlackBerry Playbook แท็บเล็ตที่แจ้งเกิดในปี 2011 แต่ขาดคุณสมบัติหลักที่เป็นจุดขายของ BlackBerry อย่าง email ทำให้ BlackBerry ต้องลดราคาอย่างหนักจนสามารถจำหน่ายได้ 370,000 เครื่องในไตรมาสแรกปีนี้ (สิ้นสุดเดือนมีนาคม)

ในมุมของ Heins และ BlackBerry รายงานระบุว่าบริษัทแม่ของบีบียังชั่งใจอยู่ว่าจะเปิดตัวแท็บเล็ต BlackBerry Playbook รุ่น 2 หรือไม่ โดยในงานเปิดตัว BB10 เมื่อเดือนมกราคมที่๋ผ่านมา ซีอีโอ Heins บอกกับผู้สื่อข่าวว่า BlackBerry จะเปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นใหม่เมื่อ BlackBerry สามารถเสริมจุดขายที่แข็งแกร่ง ให้แท็บเล็ตนั้นไม่เป็นเพียงฮาร์ดแวร์ทั่วไป แต่สามารถเป็นประตูสู่ซอฟต์แวร์ที่ดีได้ด้วย

เรื่องแบบนี้่ต้องดูกันยาวๆ เพราะแต่ละปีนั้นกระแสการใช้งานก็ไม่เหมือนกัน แต่ดูแล้วการออกมาพูดแบบล้อฟรีของ CEO  Blacckberry ก็คงทำไปเพื่อเรียกกระแสตัวเองก็เท่านั่นเอง

ที่มา : Mashable