Bumble กลายเป็นแอปพลิเคชันหาคู่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยหลังเปิดขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรกเมื่อวันพฤหัส (11 ก.พ.) ที่ผ่านมา มูลค่าบริษัทพุ่งขึ้นสู่ระดับ 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 3.8 แสนล้านบาท
Bumble ก่อตั้งเมื่อปี 2014 โดย Whitney Wolfe Herd ภายใต้แนวคิดต้องการสร้างสังคมในอุดมคติ มีความเท่าเทียมทางเพศ ผู้หญิงสามารถ ‘make the first move’ ได้ โดยไม่ต้องเป็นฝ่ายรอ
เธอได้รับแรงบันดาลใจมาจากปัญหาความสัมพันธ์ที่ไม่เท่าเทียม ซึ่งส่งผลเสียต่อทุกๆ ด้านของชีวิต ซึ่งเธอต้องการเปลี่ยนแปลง mindset ของผู้หญิงให้กล้าเป็นฝ่ายเข้าหาผู้ชายก่อน จึงเป็นที่มาของแอปฯ Bumble
ฟีเจอร์เด่น คือ ผู้หญิงเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนา และผู้ชายไม่สามารถเริ่มต้นการสนทนากับผู้หญิงได้จนกว่าผู้หญิงจะเป็นฝ่ายทัก เมื่อแมทช์กันแล้วไม่มีการแชทภายใน 24 ชั่วโมง การจับคู่ก็จะหายไป
สถิติที่น่าสนใจคือ ปัจจุบัน Bumble มียอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันไปแล้วมากกว่า 100 ล้านครั้ง โดยมีผู้ใช้งานประจำ 12.3 ล้านบัญชีต่อเดือน มีสัดส่วนสมาชิกแบบพรีเมี่ยมหรือจ่ายเงินกว่า 1.2 ล้านบัญชี
อย่างไรก็ตามวิกฤตโควิด-19 ก็ทำให้ผลประกอบการไม่ดีนัก โดยในปี 2019 แอปพลิเคชันมีรายได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 35% และทำกำไรได้ 68.9 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ 9 เดือนแรกของปี 2020 อัตราเติบโตลดลงเหลือ 15% และขาดทุน 116 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ Bumble เปิดให้บริการในกว่า 150 ประเทศ มีผู้ใช้งาน 42 ล้านคนต่อเดือน ณ สิ้นเดือนกันยายน ซึ่ง 2.5 ล้านคนเป็นผู้ใช้ที่จ่ายเงินเพิ่มขึ้น 22% จากปีก่อน เติบโตอย่างรวดเร็วจากจำนวนคนโสดที่เปิดรับการหาคู่ออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นและพร้อมจ่ายสำหรับแพ็คเกจพรีเมี่ยม
ที่มา