“บ้านรวยแน่ๆ” “คอนเนคชั่นดีแหละถึงเข้าไปรีวิวได้” คำกล่าวถึงมากมายเมื่อยามที่เรานึกถึงหนุ่มหล่อนักรีวิวอสังหาริมทรัพย์หลักร้อยล้านอย่าง บูม-ธริศร ธรณวิกรัย เจ้าของช่อง BoomTharis ไม่ว่าใครที่เคยรับชมการรีวิวของเขา ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียมหลักร้อยล้าน โอมากาเสะเซ็ทละหมื่น หรือแม้แต่การนั่ง Front Row ในงานแฟชั่นโชว์ของ POEM แต่ละคอนเทนต์ของเขาเรียกได้ว่าไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เขาทำการบ้านก่อนเริ่มงานทุกครั้ง
คุณบูม ได้แนะนำเส้นทางการมาเป็นยูทูปเบอร์ของเขาให้ฟังว่า เขาเริ่มต้นการเป็นยูทูปเบอร์ด้วยการทำคอนเทนต์ด้านอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังอย่าง Think of living รายการรีวิวสินค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์มานานถึง 5 ปีก่อนจะออกมาทำรายการตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง และนั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของ BoomTharis ที่เรารู้จักในทุกวันนี้
“ผมเลือกทำคอนเทนต์จากสิ่งที่ตัวเองสนใจก่อน โดยรูปแบบจะเป็นการเล่าเรื่องในแง่มุมที่ตัวเองอยากเล่า และต้องตอบโจทย์คนดูด้วยว่าเขาอยากเห็นเรานำเสนออะไร เราจะรีวิวแบบอวยสินค้าเต็มที่ก็ไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้อยากเห็นเราขายของ แต่คนดูอยากให้เราแนะนำความจริง”
การทำคอนเทนต์ให้กับแบรนด์ก็ต้องมีการพูดคุยกันให้ชัดเจนก่อนทุกครั้ง เพื่อให้เข้าใจจุดร่วมกันก่อนว่าแบรนด์ต้องการสื่อสารอะไร และเราอยากจะสื่อสารแบบไหน สุดท้ายก็ต้องคำนึงถึงคนดูเป็นหลักว่าเขาอยากเห็นอะไร จนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ช่องอื่นไม่สามารถเลียนแบบได้
นอกจากนี้ การรีวิวคอนโด อสังหาริมทรัพย์ หรือแม้แต่งานอีเว้นท์ สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงคือรายละเอียดที่ถูกต้อง แม้ว่าโจทย์คือการนำเสนอให้น่าสนใจ เรียบเรียงให้ดี คัดประเด็นที่อยากจะนำเสนอ โดยมองกลุ่มคนดูให้มากกว่าคนที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์ เพราะคนส่วนใหญ่อยากดู อยากเห็น แต่ไม่ได้อยากซื้อทุกคน นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าเขาอยากเห็นอะไร เมื่อถึงเวลาที่เค้าต้องการซื้อเค้าจะกลับมาอีกครั้ง
นอกจากนี้ การเจรจากับแบรนด์ คือ ต้องชัดเจนตั้งเเต่เเรกเริ่ม ต้องอธิบายลักษณะของกลุ่มคนดูเราให้แบรนด์เข้าใจ ต้องรู้จักกลุ่มคนดูของเราว่าเค้าอยากดูคอนเทนต์แบบไหน พร้อมบอก Feedback หากทำแบบนี้ผลตอบรับจะเป็นอย่างไร เพราะแชนแนลเป็นของเรา คนดูเป็นของเรา เราต้องเข้าใจคนกลุ่มนี้ได้ดีที่สุด
“ผมเชื่อว่าแบรนด์เองเขาก็รับฟังนะ ในแง่ของคนทำคอนเทนต์เราต้องซื่อสัตย์กับทั้งสองฝ่าย ในแต่ละคอนเทนต์ที่ผมปล่อยออกไปต้องใช้เวลาในการเก็บข้อมูลก่อน เช่น ไปดูสถานที่จริงให้ละเอียด ทำความเข้าใจกับโครงการหรือสินค้าที่เราต้องการจะนำเสนอ กลับมาตีโจทย์ว่าเราอยากนำเสนอแบบไหนและแบรนด์ต้องการให้เรานำเสนอในแง่มุมไหน ถ้าทุกอย่างเชื่อมโยงกันได้ ก็จะจบออกมาเป็นคลิปที่เราเห็นกัน”
สุดท้ายสิ่งที่อยากให้แบรนด์เข้าใจคือ พรีเซนเตอร์กับครีเอเตอร์ไม่เหมือนกัน พรีเซนเตอร์คือคนที่สื่อสารภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ส่วนครีเอเตอร์คือคนที่เล่าเรื่องให้กับลูกค้าเป็นตัวแทนของฝั่งลูกค้า การดีลงานแต่ละครั้งจึงต้องเข้าใจซึ่งกันและกันด้วย เนื้องานถึงจะออกมาได้ดีอย่างที่ทุกฝ่ายต้องการ
แม้ว่า BoomTharis จะเป็นอินฟลูเอเซอร์ที่ติดภาพแบรนด์ Luxury ในสายตาหลายๆ คน และเขาสร้างคลิปไปแล้วไม่น้อยกว่า 200 คลิป มียอดคนติดตามทุกช่องทางรวมกันไม่น้อยกว่า 5 แสนยูสเซอร์ที่เคยพบเจอเขาในแชนแนลต่างๆ แต่ถ้าใครได้รับชมคอนเทนต์ทั้งหมดของเขา บอกได้เลยว่า BoomTharis ไม่ได้มีดีแค่ความรวย แต่การนำเสนอคอนเทนต์ของเขายังสนุกมากๆ ด้วย