ธุรกิจหนังสือถือว่าเป็นธุรกิจที่ดีเพราะสร้างความรู้ให้กับคนจำนวนมาก แต่ในยุคของโลกดิจิตอลที่ eBook ใน Amazon มียอดขายแซงหนังสือกระดาษไปแล้วนั้น ทำให้หลายคนเริ่มตั้งคำถามกับ “การมีอยู่” ของผู้พิมพ์ผู้จัดจำหน่ายแบบดั้งเดิม อย่าง Barnes & Noble ที่พยายามอย่างยิ่งยวดกับ Nook และอีกเจ้าที่โด่งดังแต่ในที่สุดก็ไปไม่รอด นั่นก็คือ “Borders”? ล่าสุดรายงานข่าวเผยว่าทางร้านกำลังจะปิดประตูลาโลกธุรกิจในสัปดาห์นี้แล้ว
รายงานข่าวจาก Wall Street Journal ระบุว่าที่ผ่านมาทาง Borders ก็เปิดประมูลขายกิจการต่อ แต่ก็ไม่สำเร็จ จนพ้นเส้นตายเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทาง Boders จึงต้องปิดร้านทั้งหมด 399 ร้าน และพนักงานอีกกว่า 11,000 คนจะไม่มีงานทำ
Borders ก่อตั้งขึ้นในปี 1971 โดยพี่น้อง Tom และ Louis Borders แห่ง Ann Arbor จาก Michigan ต่อมา Borders ถูกซื้อกิจการโดย Kmart ในปี 1992 และควบรวมกิจการกับ Waldenbooks สามปีต่อมา Amazon เปิดตัวและเริ่มขายหนังสือบนอินเทอร์เน็ต ทาง Borders จึงจับมือกับ Amazon ขายหนังสือ เพลง ดีวีดในปี 2001 to sell books, music and DVD
อย่างไรก็ตาม Borders ช้าเกินไปที่จะปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิตอล ทาง Amazon เปิดตัว Kindle ในปี 2007 ส่วน Barnes & Noble เปิดตัว Nook ในปี 2009 ส่วน Kobo ที่ทาง Borders หนุนหลังอยู่นั้นกว่าจะออกสู่ตลาดได้ก็กลางปี 2010 ซึ่งอาจช้าเกินไป
โดยส่วนตัวแล้วเคยมีโอกาสเดินเข้าไปซื้อหนังสือในร้าน Borders ครั้งสองครั้งเมื่อเดินทางไปสหรัฐฯ และในประเทศอื่นๆ ในร้าน Borders จะมีคนหนุ่มสาว ตลอดจนครอบครัวที่รักและหลงไหลตัวหนังสือเข้าไปอ่านหนังสือ นั่งจิบกาแฟอุ่นๆ ในวันที่หนาวเหน็บ บ้างก็เปิดคอมพิวเตอร์ใช้ Wi-Fi กันแน่นร้าน ในร้านเองพนักงานก็เสนอขายเครื่อง Sony Readers ดูน่ารักทันสมัย จนแทบนึกไม่ถึงว่าธุรกิจของ Borders จะถึงจุดจบเร็วเช่นนี้
ที่มา: Mashable