การแข่งขันเพื่อให้ผู้บริโภคมองเห็นนั้นเกิดขึ้นอยู่เสมอ ผลการศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้พบว่าคนทั่วไปสามารถเห็นโฆษณาได้มากถึง 10,000 ชิ้นต่อวัน เพราะมีช่องทางสื่อดิจิทัลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมกับเนื้อหาที่ท่วมท้นผู้บริโภคด้วยตราสินค้าไม่ว่าจะบนการค้นหาของ Google แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย หรือ บริการสตรีมมิ่ง
ส่วนมากผู้บริโภคกำลังประสบกับความเหนื่อยล้าในการตัดสินใจเลือก อีกทั้งการกำหนดทิศทางของโฆษณาที่เป็นไปได้ยากแล้วนั้น การพิจารณาว่าความชอบในการซื้อของผู้บริโภคนั้นกำลังเปลี่ยนไป การทำให้ผู้บริโภคแสดงความภักดีต่อแบรนด์จึงจะต้องมีความสอดคล้องกับค่านิยมและความใส่ใจต่อตัวพวกเขามักขึ้น ซึ่งนั่นชัดเจนว่าแบรนด์ต้องปรับกลยุทธ์
สิ่งที่จำเป็นที่สุดคือการรักษาลูกค้า สร้างความสัมพันธ์ในการซื้อในระยะยาว ซึ่งเทคโนโลยีอาจช่วยให้การเข้าถึงลูกค้านั้นง่ายก็จริง แต่มันก็เป็นอุปสรรคสำหรับการเชื่อมโยงกันอย่างแท้จริง เพราะฉะนั้นแบรนด์ควรหาโอกาสในการรวมแบรนด์ของเข้ากับชุมชนที่ต้องการสร้างฐานลูกค้าและจากนั้นทำสร้างการรับรู้ของผลิตภัณฑ์โดยตรงผ่านช่องทางนั้น
ซึ่งต้องไม่เพียงแค่เข้าไปอยู่ในชุมชน แต่แบรนด์ควรเป็นส่วนหนึ่งกับมัน พิจารณาตัวเลือกต่างๆ เช่น การสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ อะไรก็ได้ที่ช่วยให้ผู้บริโภคเห็นแบรนด์ของคุณเป็นส่วนความสุขที่พวกเขาจะมีตลอดทั้งสัปดาห์ Survey Monkey รายงานว่า 55% บอกว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะซื้อจากบริษัทที่แบ่งปันคุณค่าของพวกเขา ผู้บริโภคไม่เพียงแต่ใส่ใจในสิ่งที่แบรนด์ขายเท่านั้น แต่ยังสนใจเกี่ยวกับวิธีดำเนินธุรกิจและใครที่ได้รับผลกระทบด้วย
ต้องทำให้แน่ใจว่าสามารถการเชื่อมต่อกับผู้บริโภคเป้าหมายได้และทำให้พวกเขาจดจำแบรนด์ได้ การจดจำแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญเพราะสามารถแสดงประสิทธิภาพของการตลาดได้ การนึกถึงแบรนด์ในเชิงบวกยังช่วยเพิ่มโอกาสในการแนะนำต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อแบรนด์เป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้น เป้าหมายของแบรนด์ไม่ควรเป็นเพียงการพยายามเข้าถึงผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด แต่แบรนด์ควรมุ่งเน้นที่การสร้างการเชื่อมต่อที่ชัดเจนกับกลุ่มเป้าหมาย โดยควรมุ่งเน้นว่าจะสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างแบรนด์และผู้คนที่นำไปสู่การซื้อและความภักดีในระยะยาว
ที่มา : shipbob.com