ขณะที่การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตทำได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น ทั้งจากคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน ทำให้เหล่าักช็อปมีแนวโนมว่าจะหันมาศึกษาหาข้อมูลสินค้า และซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นการซื้อของด้วยการเข้าไปที่ร้านอย่างปกตินั้นก็ยังคงเป็นวิธีการซื้อของที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักช็อปอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง
จากการคาดการณ์ของกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจอีคอมเมิร์ซทั่วโลกพวกกเขาคาดว่าในปี 2014 นี้พวกเขาจะสามารถสร้างรายได้โดยรวมอยู่ที่ 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ราวๆ 48 ล้านล้านบาท) ซึ่งคาดว่ายอดขายดังกล่าวจะเติบโตจากปี 2013 มากถึง 20.1% แต่จากข้อมูลล่าสุดอาจทำให้พวกเขาต้องคิดใหม่เสียแล้ว
เพราะจากรายงานของ Piper Jaffray ในรายงานที่ชื่อว่า Taking Stock With Teens อันเป็นรายงานครึ่งปี ครั้งที่ 27 พบว่า 74% ของวัยรุ่นหญิงในสหรัฐ และ 53% ของวัยรุ่นชาวในสหรัฐฯ นั้นยังนิยมการซื้อของผ่านร้านค้าจริงมากกว่าการซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์อยู่ดี
แม้ตัวเลขดังกล่าวจะเป็นตัวเลขที่บ่งบอกพฤติกรรมการซื้อของพวกเขาที่ยังนิยมการซื้อของแบบดั้งเดิมอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นตัวเลขเหล่านั้นก็มีแนวโน้มว่าจะลดลงอย่างรวดเร็ว โดยเมื่อปีก่อนวัยรุ่นหญิงที่ยังนิยมการซื้อของด้วยวิธีการดั้งเดิมนั้นคือ 80% และวัยรุ่นชายนั้นอยู่ที่ 82% ถือว่าตัวเลขความนิยมการซื้อของที่หน้าร้านนั้นลดลงเร็วเป็นอย่างมาก ซึ่งเราจะเห็นได้จากกราฟที่สร้างโดย Statista ด้านล่าง
ที่มา : Mashable