ถ้าหนังสือ Business Model Generation คือเครื่องมือช่วยในการพัฒนาโมเดลธุรกิจให้กับบริษัท Business Model You ก็เป็นเสมือนเครื่องมือในการค้นหาตัวตน และพัฒนาศักยภาพเพื่อความก้าวหน้าในสายอาชีพการงานของคุณเอง
Business Model You นำแนวคิดของ Business Model Canvas มาปรับและประยุกต์ใช้ให้กลายเป็นเสมือนเครื่องมือแผนที่นำทางส่วนบุคคล ถ้าใครเคยติดตามบทความเรื่อง Business Model Canvas คงพอจำกันได้ถึงองค์ประกอบต่างๆ ในการสร้างโมเดลธุรกิจขึ้นมา อันได้แก่ Key Resources, Key Activities, Value Provided, Customers, Revenue and Benefits, Channels, Customer Relationships, Costs และ Key Partners
และเมื่อนำองค์ประกอบเหล่านี้มาดัดแปลงแล้ว Personal Business Model Canvas จึงกลายเป็น?
- จาก Key Resources กลายเป็น Who you are / What you have? – คุณมีความสามารถทักษะในด้านใด มีความรู้ ประสบการณ์ในด้านไหน
- จาก Key Activities กลายเป็น What you do – คุณทำอะไร
- จาก Customers กลายเป็น Who you help – คนที่เกี่ยวข้องกับคุณในการทำงานและคุณให้การช่วยเหลืออยู่
- จาก Value Provided กลายเป็น How you help ? ?คุณช่วยเหลือคนเหล่านั้นอย่างไร ถ้าคิดไม่ออกลองถามคำถามตัวเองว่า คนที่อยู่ในกล่อง Who you help นั้น งานที่คุณทำให้อยู่คืองานอะไร, และประโยชน์อะไรที่เขาได้รับจากงานนั้นๆ
เมื่อคุณกำหนด 4 หัวข้อข้างต้นได้ก็จะทำให้กรอกข้อมูล 4 ข้อที่เหลือตามมาได้
- จาก Channels กลายเป็น How they know you/ How you deliver ?ช่องทางที่คนในช่อง Who you help ค้นพบคุณ และคุณส่งมอบคุณค่างานของคุณผ่านทางใด
- จาก Customer Relationships กลายเป็น How you interact ?สายสัมพันธ์กับคนเหล่านั้นเป็นอย่างไร เช่น สื่อสารกันในรูปแบบออนไลน์, แบบพบเจอกัน เป็นต้น
- จาก Key Partners กลายเป็น Who helps you ? ใครเป็นคนช่วยสนับสนุนคุณในงานนั้นๆ
- จาก Revenues and Benefits กลายเป็น What you get – เงินเดือน, ค่าจ้าง, รายได้อื่นๆ
- จาก Costs กลายเป็น What you give – เวลาที่ต้องเสียไป, พลังงานที่ต้องใช้ไปกับงานนั้นๆ, ค่าใช้จ่าย เป็นต้น
การนำรายละเอียดเหล่านี้มาแจกแจงอีกที จะช่วยทำให้คุณเห็นปัญหาที่คุณอาจไม่ทันรู้ตัว เช่น ทักษะและสิ่งที่คุณมีความรู้อยู่ (Who you are/what you have) ได้ถูกนำมาใช้? (What you do) เพื่อช่วยเหลือใคร (Who you help) สอดคล้องกันหรือไม่
คุณอาจจะพบว่าสิ่งที่คุณมีความสามารถ สิ่งที่คุณรักและสนใจบางที กลับไม่ตรงกับสิ่งที่คุณทำอยู่ก็ได้ ยกตัวอย่างภาพด้านล่าง Sales Man ขายของ รายหนึ่งที่มีทักษะ กับงานที่ทำไม่สอดคล้องกัน
และเมื่อปรับเปลี่ยนโมเดลใหม่ทำให้เขาสามารถใช้ศักยภาพที่มีอยู่ได้อย่างเต็มที่
หรือบางรายอาจมีทักษะกับงานที่ตรงกันแล้ว แต่มองไม่เห็นว่าจะเพิ่มคุณค่าให้กับตนเองได้อย่างไร เช่น ตัวอย่างด้านล่าง กับผู้หญิงคนหนึ่งที่มีหน้าที่คอยช่วยแก้ไขปรับปรุงบทความวิจัยในมหาวิทยาลัย แต่ถ้าเธอมองคุณค่าของเธอให้สูงกว่านั้น จริงๆ แล้วเธอกำลังช่วยลูกค้าของเธอในการที่จะทำให้งานวิจัยต่างๆ มีคุณค่า, ได้รับการยอมรับและตีพิมพ์ใน Journals ได้ โดยปรับ Key Message เพิ่มการโปรโมตลักษณะงานของเธอใหม่ และเพิ่มการทำงานวิจัย
Business Model You? คือหนังสือดีอีกเล่ม ที่ไม่ว่าคุณจะทำงานอะไรก็อยู่ก็ตาม แนะนำว่าควรมีติดไว้ มันคือเครื่องมือที่จะช่วยดึงศักยภาพของคุณออกมาให้เติบโตในสายอาชีพไปพร้อมๆ กับได้ทำงานในสิ่งที่คุณรัก