YDM Thailand เผยกลยุทธ์ใหม่ “Data & AI Technology” ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีในการวางแผนและซื้อสื่อดิจิทัล ที่จะช่วยให้วางแผนซื้อสื่อดิจิทัลได้อย่างคุ้มค่า และสามารถเก็บข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ สามารถนำมาต่อยอดพัฒนาธุรกิจให้ก้าวหน้าสร้างยอดขายได้อย่างยั่งยืน พร้อมกับพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำของโลก ทั้ง Google, Facebook, Youtube, Instagram, TikTok ฯลฯ ตั้งเป้ากวาดรายได้เพิ่ม 200 ล้านบาทในปีนี้
คุณธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ ซีอีโอ YDM Thailand กล่าวว่า ในฐานะที่เรามีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งมานานกว่า 10 ปี ได้ให้คำปรึกษาและช่วยวางแผนการซื้อสื่อให้ลูกค้าแทบจะทุกบิสซิเนสไลน์ ทั้ง อสังหาริมทรัพย์ ยานยนต์ การเงินการธนาคาร เกมส์ ไปจนถึงสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีจำหน่ายไปทั่วโลก รวมแล้วหลายร้อยแบรนด์
เราเชื่อว่า Digital Media ไม่ได้เป็นเพียงแค่ Tool ที่ใช้ในการสร้างการรับรู้ให้คนเห็น หากแต่ Digital Media เป็น Tool ที่สามารถใช้ในการสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่จับต้องได้จริง ด้วยเหตุนี้ ทาง YDM Thailand จึงได้พัฒนากลยุทธ์ใหม่ล่าสุด “Data & AI Technology” ที่จะมาช่วยตอบโจทย์ให้ลูกค้าสามารถวางแผนซื้อสื่อได้อย่างคุ้มค่า และยังสามารถเก็บข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะในส่วนของข้อมูลลูกค้า ซึ่งนับเป็นฟันเฟืองที่สำคัญมากในการพัฒนาแบรนด์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน
“เราใช้ AI Technology เข้ามาช่วย และล่าสุดได้นำ Data technology ซึ่งก็คือ AI technology ที่สามารถทำได้ตั้งแต่การเก็บ social media ต่างๆ และจับพฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อที่จะนำมากำหนด segmentation อย่างเป็นระบบ เพื่อที่นักการตลาด หรือCreative สามารถนำมาใช้วิเคราะห์ต่อยอดในการวางแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ด้านคุณณัฐพล เกียรติสารพิภพ Media Director-YDM Thailand กล่าวเพิ่มเติมว่า การนำ “Data & AI Technology” มาใช้งาน นอกจากจะช่วยสร้างยอดขายให้กับลูกค้าได้จริงแล้ว ยังมีส่วนช่วยสร้างแบรนดิ้งไปพร้อมๆ กันด้วย นั่นเพราะ Data Technology สามารถช่วยให้นักการตลาดเข้าใจกลุ่มผู้บริโภคได้ดีขึ้นกว่าเดิม เราสามารถรู้ได้ทันทีว่า ลูกค้าตกอยู่ใน Segment ย่อยไหน
ยิ่งไปกว่านั้น นักการตลาดยังจะสามารถรับรู้ได้ด้วยว่า ผู้บริโภคในแต่ละ Segment ย่อยนั้น อยู่ในช่วงไหนของการตัดสินใจซื้อ ซึ่งนั่นหมายความว่า นักการตลาด หรือ Creative จะสามารถวางแผนการสื่อสารได้ตรงใจผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดยอดขายได้มากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า
ความล้ำหน้าของ Data Technology อยู่ที่ ความสามารถในการ tracking การวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคในทุก Touch Points เช่น Google, Website, Social Media, Mobile App ฯลฯ และนำมารวมศูนย์อยู่ในที่เดียว เพื่อใช้ในการ Re-Marketing ในเชิงการวางกลยุทธ์มีเดีย
เราอาจจะเก็บพฤติกรรมการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคใน Social Media ในแต่ละโพสต์ แล้วนำมารวมกับพฤติกรรมการเข้าเว็บไซต์ และการเปิด Mobile App เพื่อทำการวิเคราะห์ว่าลูกค้ารายไหนมีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าของเราจริงๆ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ทาง YDM Thailand เราได้สร้าง Database พร้อมใช้ที่พัฒนาขึ้นมาเอง เพื่อลูกค้าจะไม่ต้องเสียเวลาสร้างขึ้นใหม่ เช่น Database ของผู้ที่จะซื้อรถยนต์ในปีนี้, Database ของผู้ที่ใช้เครื่องสำอาง, Database ของกลุ่มคนเล่นเกมส์ เป็นต้น โดยทุกๆ Data ที่ทาง YDM Thailand เก็บ ได้เก็บอย่างถูกต้องตาม พ.ร.บ. PDPA ที่จะประกาศใช้งานเร็วๆนี้ด้วย
ส่วนแพลตฟอร์มแบบใดเหมาะกับลูกค้าแบบไหนนั้น เราไม่ได้ยึดติด เราดูคอนเทนต์มากกว่าว่าเหมาะสมกับแพลตฟอร์ม หรือ ทาร์เก็ตที่ตั้งสมมติฐานไว้หรือไม่ และจะทำการ Optimize มีเดีย ตาม Performance ที่เกิดขึ้นจริง ๆ ในระหว่างที่มีเดียกำลังทำงานอยู่
ซึ่งในส่วนนี้ทาง YDM Thailand เล็งเห็นถึงความสำคัญ จึงได้มีการนำ AI technology มาช่วยในการทำ optimization ซึ่งจะเป็นการทำ Dynamic media optimization แบบ 360 องศา ทั้งการทำ platform optimization, content optimization และ target optimization เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดให้กับลูกค้า
ส่วนภาพรวมและเม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลมีเดียในช่วงปี 2020 นั้น ตามที่สมาคมโฆษณาดิจิทัล (DATT) ได้เคยประเมินไว้ว่าในปีนี้เม็ดเงินที่จะลงทุนผ่านสื่อดิจิทัลจะมีมากถึง 22,000 ล้านบาท ซึ่งงบโฆษณาในทุกๆ สื่อน่าจะมีแนวโน้มลดลงเนื่องจากสถานการณ์ โควิด-19 แต่ถ้าเจาะลึกลงไปในส่วนของสื่อดิจิทัลอาจจะไม่ได้ลดลงมาก สถานการณ์โควิด-19 จะส่งผลให้ผู้บริโภคมีพฤติกรรมและทัศนคติที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะพฤติกรรมการซื้อสินค้า จะหันมาซื้อสินค้าผ่านสื่อออนไลน์กันเพิ่มขึ้น
ในขณะที่ภาคธุรกิจ ก็ต้องมีการปรับตัวตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป อาจจะต้องหันมาโฟกัสการทำการตลาด Online มากขึ้น หรือ นำสินค้าขึ้น E-commerce ให้มากขึ้น และที่สำคัญ การใช้งบทางการตลาดจะต้องทำอย่างรัดกุม มองในเรื่อง ROI ให้มากขึ้นมากเดิม ซึ่งในส่วนนี้การนำ Data Technology มาช่วยในการลง Media นั้น จะช่วยธุรกิจสามารถเดินต่อไปได้อย่างมั่นคง ไม่ตำน้ำพริก ละลายแม่น้ำแบบในอดีตอีกต่อไป