สั่นสะเทือนทั่ววงการสื่อออนไลน์ เมื่อ BuzzFeed ยักษ์ใหญ่สัญชาติสหรัฐฯประกาศลดพนักงาน 15% ในการปลดพนักงานรอบใหม่ มีผลกับหลายส่วนรวมถึงแผนกข่าว
สำนักข่าว CNN รายงานว่าการเตรียมปลดพนักงานรอบใหม่ของ BuzzFeed นั้น ถือเป็นตัวอย่างล่าสุดของบริษัทด้านสื่อที่กำลังพยายามตัดตอนปัญหาในสภาพอุตสาหกรรมที่ยากลำบาก กรณีของ BuzzFeed ซึ่งมีพนักงานประมาณ 1,450 คน พบว่าการปลดพนักงานจะมีผลกับพนักงานไม่ต่ำกว่า 220 คน
หลังจากมีรายงานข่าวนี้ ซีอีโอของ BuzzFeed อย่าง Jonah Peretti ยืนยันว่าบริษัทมีแผนการปลดพนักงานจริง โดยบอกว่าเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการวางรากฐานที่มั่นคง ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถลงทุนและเติบโตอย่างยั่งยืนในอีกหลายปีข้างหน้า
ลดคนช่วยลดต้นทุน
การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่บริษัทได้ศึกษาองค์กรอย่างละเอียดในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา จนตกผลึกได้ว่า BuzzFeed สามารถรวมทีมงานเพื่อให้ความสำคัญกับเนื้อหาได้ดีกว่าเดิม ขณะเดียวกันก็พยายามหาทางปรับโครงสร้างต้นทุนให้เหมาะสม เพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบรายได้หลากหลายของบริษัท ทั้งหมดนี้ทำให้ BuzzFeed ตัดสินใจปรับโครงสร้างบริษัท ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและปรับปรุงรูปแบบการดำเนินงานให้สามารถเจริญเติบโตได้ดีกว่า
ซีอีโอ BuzzFeed ย้ำว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะทำให้ BuzzFeed ควบคุมโชคชะตาของตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องระดมทุนอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็มั่นใจว่าการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริษัทจะทำให้บริษัทเป็นผู้ชนะอย่างชัดเจนในตลาด พร้อมกับที่อุตสาหกรรมสื่อดิจิทัลยังคงพัฒนาต่อไป
เบื้องต้น BuzzFeed ย้ำว่าจะประกาศข่าวการตัดสินใจครั้งนี้ให้พนักงานได้รับทราบอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า ซึ่งบรรณาธิการของ BuzzFeed News อย่าง Ben Smith ชี้แจงว่าจะไม่มีการให้ความเห็นเพิ่มเติมจนกว่ามีแถลงการณ์
การลดพนักงานของ BuzzFeed เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่เวอไรซอน (Verizon) ประกาศเมื่อวันพุธว่า จะลดพนักงาน 7% จากแผนกสื่อของตนซึ่งประกอบด้วยแบรนด์ใหญ่ทั้ง Yahoo, AOL และ HuffPost ยังมีต้นสังกัดหนังสือพิมพ์หลายฉบับในสหรัฐฯอย่าง Gannett ที่ประกาศปรับโครงสร้างบริษัทเช่นกัน ทั้งหมดนี้สะท้อนภาวะไม่สงบในอุตสาหกรรมสื่อดิจิทัลที่ไม่ธรรมดา
รายงานของ CNN วิเคราะห์สาเหตุของภาวะนี้ว่า เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจโฆษณาและพฤติกรรมผู้บริโภค ที่ทำให้เม็ดเงินสะพัดทั้งในสื่อเก่าและใหม่เกิดการเปลี่ยนแปลง หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นชัดคือการที่ Facebook และ Google ได้เปิดกว้างธุรกิจโฆษณา ทำให้เว็บไซต์รายย่อยทั่วไปสามารถรับรายได้จากหลายทางมากขึ้น
เมื่อเม็ดเงินไหลไปรายย่อย รายใหญ่อย่าง BuzzFeed จึงต้องปรับตัว ให้สามารถเติบโตได้ภายใต้แรงกดดันที่เพิ่มขึ้น ที่ผ่ามา BuzzFeed มีผู้ร่วมลงทุนที่ให้เงินทุนจำนวนมากเพื่อเจาะตลาดใหม่เช่น หนังสือ (BuzzFeed จับมือกับ Amazon ทำชมรมหนังสือซึ่ง BuzzFeed จะได้ค่าส่วนแบ่งจากการขายหนังสือด้วย) และอุปกรณ์ทำอาหาร (BuzzFeed เปิดขาย “เตาไฟฟ้าบลูทูธ” 149 เหรียญ) แต่ความพยายามนี้ไม่เห็นผลเพราะแม้ธุรกิจของ BuzzFeed จะเติบโตเป็น “ตัวเลขสองหลัก” ในปีที่ผ่านมา แต่บริษัทมองว่ารายได้ของ BuzzFeed ยังเติบโตไม่มากพอที่จะทำให้บริษัทประสบความสำเร็จในระยะยาว.
ที่มา: : CNN