โดยปกติแล้วแอพบนสมาร์ทโฟนที่เราได้จากการดาวน์โหลดผ่าน Store ของระบบปฏิบัติการนั้นๆ ไม่ว่าจะเสียเงินหรือไม่เสียเงิน ก็สามารถเปิดและใช้งานได้ทันที แต่สำหรับแอพที่ผมเพิ่งจะรู้จักได้ไม่นานนี้แตกต่างออกไป เพราะว่าแอพนี้ถึงแม้จะดาวน์โหลดไปแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถใช้งานได้ทันที โดยต้องรอจนกว่าจะถึงคิว เลยเป็นที่มาที่ผมจะเขียนถึงแอพนี้ครับ Mailbox
อันที่จริงแล้วแอพสำหรับการใช้เชคอีเมลบนเครื่องสมาร์ทโฟนก็จะมีให้เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว ซึ่งก็ใช้งานได้ตามความสามารถของมันอย่างที่ควรจะเป็น แต่ก็มีนักพัฒนาแอพหลายๆ คนที่พยายามทำให้มันดูดีขึ้นและใช้งานง่ายขึ้น เลยทำให้มีแอพทางเลือกต่างๆ ออกมาให้ใช้งานกัน แต่สำหรับแอพ Mailbox นั้นดูในตอนแรกอาจจะเหมือนกับแอพที่ผมบอกไปเมื่อสักครู่ นั่นก็คือเป็นอีกทางเลือกสำหรับการเชคเมล โดยทาง Mailbox ได้ทำหน้าเว็บรวมทั้งมีวิดิโอแนะนำหน้าตาและการใช้งานว่าเป็นอย่างไร ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเมื่อผมเปิดดูแล้วตื่นเต้นและอยากใช้มากจริงๆ
ลองดูวิดิโอดูครับว่าเป็นอย่างไร
http://www.youtube.com/watch?v=CICMxwgm274
หลังจากที่ผมดูแล้วก็รีบหาที่ดาวน์โหลดทันทีเพราะน่าใช้มากกกกก (ในความคิดของผม) แต่ก็สะดุดกับคำคำนึงบนหน้าเว็บที่บอกว่า Reserve Your Mailbox ผมก็งงๆ ว่าจะจองไปทำไมหนอ ในเมื่อโหลดมาก็ควรจะใช้ได้ทันที พอผมลงใส่เครื่องไปแล้วก็พบว่า อ๋อนี่มันเป็นแผน ที่ทำให้แอพใช้งานทันทีไม่ได้ ต้องรอคิว ซึ่งคิวก็มีมากกว่า 500,000 คิว (ณ เวลาที่ผมเข้าไป)
สิ่งที่เจอกับ Mailbox ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกสำหรับผมและเข้าใจว่าเป็นครั้งแรกๆ สำหรับการเปิดตัวแอพเพื่อการใช้งานนี้ด้วย เพราะคงไม่มีใครพิเรนพอที่จะยอมให้คนมารอใช้แอพ โดยที่ไม่มีโฆษณา (iAd) อีกต่างหาก
เมื่อได้ลองอ่านที่มาที่ไปของ Mailbox แล้วก็พบว่า ผู้พัฒนาได้ทำแอพช่วยจดจำงานต่างๆ (To-Do) ที่ชื่อว่า Orchestra To-Do มาก่อนแล้ว แต่ปัญหาก็คือว่าเราจะทำอย่างไรให้สิ่งที่เราจดมาอยู่ในกล่องจดหมายหรือ inbox ของเรา เพราะทางทีมงานเชื่อว่ากล่องจดหมายคือสิ่งที่เราจะเปิดดูอยู่บ่อยๆ จึงเป็นที่มาในการพัฒนาแอพที่สามารถทำอะไรได้ต่างๆ มากมายภายในแอพอีเมลเพียงอันเดียว นั่นก็คือ Mailbox
ความสามารถของมันอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่อยากให้ใช้งาน แต่สิ่งที่น่าสนใจคือวิธีการในการเปิดให้ใช้งาน โดยใช้การทยอยเปิดให้ใช้งานตามหลักการ มาก่อน ได้ก่อน “First come, First Serve” โดยที่จะมีระบบบอกถึงจำนวนคิวที่จะถึงคิวของเรา และจำนวนคนที่อยู่หลังคิวของเรา แสดงผลตัวเลขในแบบ real-time ซึ่งถ้ารวมทั้งหมดก็คือคิวของคนที่สนใจทั้งหมด ไม่รวมคนที่ได้ใช้งานไปบ้างแล้วบางส่วน
การแสดงตัวเลขคิวนั้นผมมองว่ามันช่วยให้เราตื่นเต้น, รู้สึกอยากจะใช้งานเสียให้ได้ และถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยประชาสัมพันธ์แอพได้อย่างดี เพราะนี่คือจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร ทั้งๆ ที่ต้องมารอคิวใช้งานอีกเป็นแสนๆ คน แต่เพราะวิดิโอแนะนำตัวที่ทำออกมาได้น่าใช้มากๆ เลยทำให้คนนับแสน “(จำ)ยอม” รอใช้งาน แม้มันจะนานขนาดไหนก็ตาม ซึ่งผลก็คือตอนนี้มีคนรอใช้งานในคิวกว่า 750,000 คนแล้ว (วันที่ 12 ก.พ. 2556) และมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ (ผมสมัครไปเมื่อ 4 วันที่แล้ว และมียอดของคนที่เข้ามารอคิวหลังจากผม 300,000 กว่าคนเข้าให้แล้ว
จุดนี้ทำให้มองว่า วิดิโอแนะนำตัวมีส่วนสำคัญอย่างมากในการเปิดตัวแอพครับ ซึ่งถ้าได้ดูวิดิโอกันแล้วจะเห็นว่าความสามารถต่างๆ ถูกดึงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน
ผู้พัฒนาได้บอกในเว็บไซต์ถึงการเปิดตัวในรูปแบบนี้เพื่อที่จะค่อยๆ ทดสอบการรองรับระบบไปในตัว ซึ่งผมมองว่าการทดสอบด้วยการทยอยเปิดระบบนี้กลายเป็นจุดขายที่ดึงดูดความสนใจได้ รวมทั้งเป็นมิติใหม่ในการเปิดตัวแอพพลิเคชันในรูปแบบใหม่นอกเหนือจากการเปิดแจกแอพพลิเคชันฟรีอย่างที่หลายๆ แอพทำกัน นอกจากนั้นยังถือเป็นการทำให้เป็นการสร้างความผูกพันกับผู้ใช้ไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวด้วยการที่ต้องเปิดเข้ามาเชคแอพทุกๆ วันหลายๆ เวลา ก่อนและหลังอาหาร?ซึ่งนี่ก็เป็นจุดที่ทำให้เป็นสิ่งที่สนใจขึ้นกับคนอื่นรอบข้าง และก่อให้เกิดเป็นการบอกต่อ (Buzz) รวมทั้งปากต่อปาก (Word of Mouth) ทั้งบนโลกออฟไลน์และออนไลน์ ซึ่งได้ผลอย่างที่เห็นจากตัวเลขที่รอคอยการใช้แอพ
ตอนนี้ Mailbox เปิดให้ดาวน์โหลดไป “รอใช้งาน” เฉพาะ?App Store สำหรับ iOS?เพื่อใช้งานกับ Gmail เท่านั้น โดยทางผู้พัฒนาบอกว่าจะมีการรองรับระบบอื่นๆ รวมทั้งอีเมลเจ้าอื่นๆ ในเร็วๆ นี้แน่นอนครับ
สิ่งที่ Mailbox ทำ น่าจะกลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่เราน่าจะได้เห็นหลายๆ แอพทำในรูปแบบนี้ หรือในรูปแบบที่ “คล้ายๆ” กัน โลดแล่นอยู่ใน App Store, Google Play และ Store อื่นๆ อย่างแน่นอนในปีนี้
จะมีกลเม็ดไหนที่นักพัฒนาจะเผยไต๋ออกมาเพื่อใช้เปิดตัวได้อีกหนอ…