Lee Iacocca อดีต CEO บริษัทรถยนต์ชื่อดัง ผู้เอ่ยวลีเด็ดด้านธุรกิจให้โลกได้เรียนรู้มากมาย ครั้งหนึ่ง Iacocca บอกว่าท้ายที่สุดแล้ว การดำเนินธุรกิจจะเกี่ยวข้องกับคำแค่ 3 คำ นั่นคือผู้คน ผลิตภัณฑ์ และผลกำไร การสรุปสุดเรียบง่ายนี้สะท้อนว่า Iacocca มองที่แก่นของการบริหารแบบตรงไปตรงมา จนไม่แปลกใจเลยที่เขาเคยพูดว่า “ผมจ้างคนที่ฉลาดกว่าผม”
น่าเสียดายที่ Lee Iacocca เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อต้นกรกฎาคม 2019 ด้วยอายุ 94 ปี ผลงานของ Lee Iacocca จึงถูกโลกหยิบขึ้นมาย้อนมองอีกครั้ง ซึ่งแม้จะมีทั้งความสำเร็จผ่านแบรนด์ Mustang และความล้มเหลวกับรถ K-cars แต่สิ่งที่สำคัญคือภูมิปัญญาของ Iacocca ที่ทำให้เขาได้รับตำแหน่ง “Celebrity Manager” ผู้บริหารคนดังดุจเซเลบคนแรกที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก
ความน่าสนใจของ Iacocca คือการไม่ได้เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท และไม่ได้เป็น entrepreneur เลยในชีวิต สิ่งที่ Iacocca ทำคือการร่วมเขียนหนังสือ 3 เล่ม ได้แก่หนังสืออัตชีวประวัติของ Iacocca ในปี 1984 ที่กลายเป็นหนังสือปกแข็งที่ขายดีที่สุดในกลุ่ม non-fiction ต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน ยังมีเรื่อง Talking Straight ในปี 1988 ที่มีเนื้อหาเน้นการพัฒนานวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ของอเมริกา เล่มสุดท้ายคือปี 2007 เรื่อง “Where Have All the Leaders Gone?” หรือผู้นำหายไปไหนกันหมด สะท้อนความผิดหวังของเขาต่อนักการเมืองสหรัฐฯจากทั้ง 2 พรรค
ทุกงานเขียนแสดงถึงความคิดล้ำเลิศของ Iacocca ผู้บริหารเซเลบฯมักเขียนเรื่องลงนิตยสารโดยตั้งหัวข้อบทความให้ชวนสงสัย เช่น “I gotta tell ya” หรือ “ฉันต้องบอกคุณ…” ข้อเขียนไม่ธรรมดาของเขาทำให้ทุกส่วนของสหรัฐอเมริการอฟังความคิดของผู้บริหารรายนี้ตลอดเวลา เช่นเดียวกับที่โลกธุรกิจพยายามเรียนรู้ภูมิปัญญาจาก CEO เซเลบรายนี้
1. การจัดการไม่ใช่เรื่องซับซ้อน
คำพูดว่า “ท้ายที่สุด การดำเนินธุรกิจจะเกี่ยวข้องกับคำแค่ 3 คำ” คือผู้คน ผลิตภัณฑ์ และกำไร แสดงว่า Lee Iacocca พยายามลดสิ่งฟุ่มเฟือยจนเหลือแกนหลักในการบริหาร เช่นเดียวกับการบอกว่า “ผมจ้างคนที่ฉลาดกว่า” แล้วออกจากทางของพวกเขา ก็แปลว่า Lee Iacocca มีปรัชญาการจัดการแสนง่าย คือการเปิดทางให้ทุกอย่างดูแลตัวเอง โดยที่เขาหันไปแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจที่มีความสำคัญซึ่งกระทบต่อแกนหลักของบริษัทอย่างแท้จริง
จากประวัติ พบว่า Iacocca เดินตามความเชื่อมั่นนี้ด้วยการให้รางวัลแก่พนักงานที่แก้ปัญหา หรือดำเนินการด้วยหลักการที่อิงบนเซนส์ หรือสามัญสำนึกที่ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับลูกค้า พนักงานกลุ่มนี้เองที่เป็นฟันเฟืองสำคัญให้ Iacocca จัดการทุกอย่างได้ง่ายขึ้น
2. ทำงานให้เร็ว และค่อยๆแก้กันไป
Lee Iacocca บอกว่าความเร็วของหัวหน้า จะเป็นความเร็วของทีมด้วย และคำเดียวที่จะทำให้ผู้บริหารกลายเป็นผู้จัดการที่ดี ก็คือ “ความเด็ดขาด” แนวคิดการบริหารของ Lee Iacocca คือการไม่รอจนกว่าจะได้โซลูชันที่พอใจที่สุด เนื่องจากการรออาจจะทำให้สายเกินไป
Iacocca ยังมองว่าการคว้าโอกาสไว้เป็นเรื่องดีกว่าการมองแต่ปัญหาที่แก้ไม่ได้ แนวคิดนี้สอดคล้องกับสตาร์ทอัปที่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ด้วยการสลับไปมาระหว่างการทำผิดพลาดและแก้ไขอย่างรวดเร็วโดยทันทีเมื่อมีข้อมูลที่ชัดเจน การจัดการองค์กรลักษณะนี้ไม่ต่างกับกัปตันเรือที่ต้องขับเคลื่อนไปข้างหน้าตลอด แต่ต้องคิดหาวิธีซิกแซก หรือปรับเปลี่ยนรูปแบบการขับเรือเพื่อจัดการกับความหลากหลายของสายลม คลื่น และกระแสน้ำ
ที่สำคัญ Lee Iacocca เตือนให้ทุกคนรู้คุณค่าของการก้าวไปข้างหน้าเพื่อรวบรวมข้อมูลใหม่ และทบทวนการตัดสินใจที่เคยทำไปแล้วก่อนหน้านี้
3. ปล่อยให้คนอื่นเป็นผู้นำบ้าง
Lee Iacocca ย้ำว่ามีหลายครั้งที่แม้แต่ผู้จัดการที่ดีที่สุดก็ยังเป็นเหมือนเด็กตัวเล็กที่ต้องการสุนัขตัวใหญ่นำทางไป ความคิดนี้ตรงกับปรัชญา “ผู้นำจากด้านหลัง” หรือ leading from behind สะท้อนว่าบางครั้ง ธุรกิจก็ควรเปิดโอกาสให้ทีมหรือการบวนการหนึ่งไหลไปตามน้ำอย่างสมเหตุสมผล ซึ่งผู้นำที่ยอดเยี่ยม นั้นควรต้องรู้ว่าเมื่อใดต้องรอ และเมื่อใดที่จะต้องผลักดันอย่างเด็ดขาด
4. ต้องนำด้วยแรงบันดาลใจ ไม่ใช่การข่มขู่
Lee Iacocca เคยย่อยง่ายเรื่องหลักการบริหารว่า การจัดการหรือ Management นั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าการสร้างแรงจูงใจให้กับคน โดยย้ำว่าแรงจูงใจคือทุกสิ่ง
“เราสามารถทำงานของคน 2 คนได้ แต่ไม่สามารถเป็น 2 คนได้ ดังนั้นจงสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกน้อง เพื่อให้เขาไปสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนของเขาต่อไป” Lee Iacocca ระบุ
5. ให้ความสำคัญกับชีวิต
สมัยนี้คือการ Work-Life Balance แต่ Iacocca บอกเล่าผ่านคำสอนของพ่อที่ระบุว่า “พ่อของผมมักจะบอกว่า เมื่อไหร่ที่ตาย แล้วมีเพื่อนแท้อยู่ 5 คน คนนั้นก็จะมีชีวิตที่ดีมาก”
แน่นอนว่า Iacocca ลาจากโลกนี้ไปพร้อมกับเพื่อนฝูงและผู้ชื่นชมมากมาย เชื่อว่าภูมิปัญญาการจัดการที่มีมานานหลายสิบปีจะถูกขุดขึ้นมาเพื่ออธิบายให้คนรุ่นต่อไป
ที่มา: : Forbes