จากการจั่วหัวข้ออาจจะงงๆ ว่าเราต้องการสื่ออะไรกันแน่… ถ้าคุณรู้จักจดหมายลูกโซ่ น่าจะทำให้คุณเข้าใจได้ง่ายขึ้นและเห็นภาพตามได้ง่าย (หากคุณเคยได้จดหมายหรือแม้แต่เขียนจดหมายด้วยลายมือน่าจะเข้าใจอย่างถ่องแท้) ยุคนี้แล้วมันคงไม่ใช่การเขียนเพื่อส่งต่อเพราะมันเมื่อย แต่มันเป็นการส่งต่อแบบดิจิทัล ที่ยังคงอยู่บนพื้นฐานความเชื่อของคนในแบบเดิมๆ อยู่…
วันก่อนที่จะเขียนเรื่องนี้เราได้เห็นและรับคำถามจากหลายๆ ท่านที่ถามถึงข้อความที่มีการส่งต่อและมีการแชร์อย่างสะพัด เกี่ยวกับการเรียกร้องสิทธิการใช้ข้อมูลของทาง Facebook ด้วยข้อความประมาณด้านบนนี้… ซึ่งเท่าที่ดูจากคนที่เป็น Friend อยู่ก็มีไม่น้อยเลยที่เชื่อและยินดีที่จะแก้วันที่และเวลาแล้วโพสต์บอก
ข้อมูลนี้เพื่อแจ้งFacebook
ณ วันนี้ 2 กรกฎาคม 2016 เวลา xxxx น. ข้าพเจ้าไม่อนุญาตให้ Facebook รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องของ Facebook สามารถใช้รูปภาพ ข้อมูลโพสต์ของข้าพเจ้าทั้งในอดีตที่ผ่านมาและในอนาคต หรือทั้งหมดที่อยู่ในProfile ของข้าพเจ้า ดังรายละเอียดที่ได้กล่าวมาตามข้อความข้างบนนี้ ข้าพเจ้ามีความประสงค์ต้องการแจ้งให้ทาง Facebook รับทราบว่าไม่มีสิทธิ์ ที่จะนำเอาข้อมูลของข้าพเจ้าไปเปิดเผย, คัดลอก , ทำสำเนา, แจกจ่าย หรือ ดำเนินการใดๆ โดยอ้างอิงจากข้อมูลส่วนตัวของข้าพเจ้า รวมถึงเนื้อหาของโพรไฟล์นี้
ข้อมูลดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นความลับส่วนบุคคล. การละเมิดความเป็นส่วนตัวจะมีบทลงโทษโดยกฎหมาย
*กรุณาอย่าแชร์* คุณต้องคัดลอกข้อความนี้และนำไปโพสต์ที่หน้า Facebookของคุณ และต้องเปลี่ยนวันที่และเวลา ก่อนที่คุณจะโพสต์
แต่ถ้าหากคุณอยากรู้ว่ามีคนแชร์มากเท่าไหร่ คุณคลิกดูได้ครับ… คลิกเบาๆ บอกเลยว่าโคตรเยอะ
เรื่องนี้ทำให้ต้องย้อนกลับไปถึงสิทธิส่วนบุคคลที่ใครหลายคนยังมีความเชื่อและชอบใช้การอ้างด้วยประโยคที่ว่า Social Media คือพื้นที่ส่วนตัว เจ้าของแพล็ตฟอร์มไม่ควรมายุ่ง…
คราวนี้มามองถึงเรื่องที่คุณจะต้องยอมรับตั้งแต่ก่อนที่คุณจะเข้ามาใช้ Facebook หรือแม้กระทั่ง Social Media ทั้งหมดระบุอยู่ใน Policy, T&C (Term and Condition) ของแต่ละแห่งอยู่แล้ว และเป็นสิ่งที่คุณมองข้ามเหมือนกับการกด install โปรแกรมเพื่อติดตั้ง next next next ok close ที่คุณไม่สนใจมัน
เมื่อลองมาดูเรื่องราวที่มีคนร้องเรียนตามที่แชร์ๆ กัน มาเทียบกัน Term ของ Facebook ที่ระบุไว้อย่างชัดเจนโดยสรุปเร็วๆ ดังนี้
- เนื้อหาที่อยู่ภายใน Facebook ที่ผู้ใช้เป็นคนโพสต์ ผู้ใช้มอบสิทธิให้กับ Facebook ในการใช้งานในแบบ non-exclusive, transferable, sub-licensable, royalty-free, worldwide license ในทุก content ที่โพสต์บน Facebook จะหมดสิทธิใช้เมื่อมีการลบจากผู้ใช้งาน
- การลบไปแล้ว อาจจะไม่ลบจริง เพราะยังมีการ backup ไว้ใช้อยู่โดย Facebook เพื่อใช้ในงานบางอย่าง แต่จะไม่มีการให้ใครคนอื่นใช้นอกจาก Facebook
- การเข้าถึงข้อมูลจากแอปพลิเคชัน จะมีการถามเรื่องสิทธิในการใช้งาน Permission ตั้งแต่ครั้งแรกว่าให้ใช้ข้อมูลหรือไม่ให้
จริงๆ มีอยู่หลายข้อ แต่เพียงข้อแรกก็น่าจะชัดเจนมากๆ สำหรับการเรียกร้อง
และ Facebook ก็ออกมาโพสด์ยืนยันเรื่องนี้ว่าไม่เป็นความจริง
https://www.facebook.com/fbfacts/1573108242983244
แล้วเรื่องนี้สรุปได้ว่า
อะไรที่อยู่บนออนไลน์ ไม่มีคำว่าสิทธิส่วนตัว
ดังนั้นจะเชื่ออะไรก็ตั้งสติ (ดึงสติ) คิดดีๆ ก่อนแชร์ครับ เพราะความเป็นส่วนตัวของคุณสิ้นสุดลงเมื่อคุณกด Enter หลังการพิมพ์ข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์