Location-based advertising บนโทรศัพท์มือถือยังคงเป็นประเด็นสุดฮอทอย่างต่อเนื่อง มีบริษัทเริ่มใหม่ทั่วโลกได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อยู่ไม่เว้นแต่ละวัน เช่น บริการ ShopAlert ของ AT&T
ในวันนี้ได้มีอีกบริษัทจากประเทศเพื่อนบ้านของเรา อย่าง Chalkboard ซึ่งตั้งอยู่ในกัวลาลัมโปร์, สิงคโปร์, และสหรัฐอเมริกา ก็เข้ามานำเสนอโฆษณาบนมือถือ และประสบความสำเร็จในการเพิ่มปริมาณลูกค้าที่จะเข้ามาเยี่ยมร้านค้า
Chalkboard ได้รับความนิยมอย่างมาก ภายใน 6 เดือนสามารถดึงดูดร้านค้า 1,373 รายในสิงคโปร์ และ 1,170 รายในกัวลาลัมโปร์ นอกจากนี้ Chalkboard ยังได้รับเงินลงทุนจาก บริษัทในสิงคโปร์อย่าง?Neoteny Labs และจะขยายพื้นที่ให้บริการในสหรัฐอเมริกา หลังงาน SXSW 2011
สำหรับตลาดสหรัฐฯ Chalkboard กล่าวว่ามีผู้ผลิตแอพลิเคชั่นบนมือถือหลายรายที่เซ็นต์สัญญาร่วมงานกันเป็นที่เรียบร้อย ที่สำคัญคือ Chalkboard ได้ร่วมมือกับ?Oecoway (ผู้ผลิต?Friendly – Facebook app สำหรับ iPad ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง) คาดว่าโฆษณาและโปรโมชั่นจะถูกผูกรวมกับฟังค์ชั่น Place ของ Friendly เร็วๆ นี้
อ่านมาถึงตรงนี้ คงอยากรู้แล้วเจ้า Chalkboard ตัวนี้มีหน้าตาและการใช้งานเป็นอย่างไร ตามมาดูกันเลยค่ะ
วัตถุประสงค์หลักของ Chalkboard คือ เจ้าของธุรกิจต้องการให้ผู้ที่เดินผ่านไปมาได้เห็นโฆษณาและโปรโมชั่นจากแอพฯบนมือถือ เพื่อจูงใจให้เข้ามาเป็นลูกค้าต่อไป
ด้วยการสมัครเป็นสมาชิกและใส่ข้อมูลโปรโมชั่น (160 ตัวอักษร) ก็ทำให้ข้อมูลของร้านค้าที่คุณต้องการปรากฏอยู่ใน Chalkboard Network โดยโปรโมชั่นต่างๆ จะแสดงโดยอัตโนมัติบนโทรศัพท์มือถือ เมื่อลูกค้าอยู่ในรัศมี 1 กม. หรือ 1 ไมล์ ของร้านค้า
ผู้ใข้งานสามารถคลิกเข้าไปดูรายละเอียดของโปรโมชั่น แผนที่ หรือแชร์ข้อมูลให้เพื่อนบน Twitter และ Facebook ได้ด้วย
เจ้าของร้านสามารถใส่ข้อมูลโปรโมชั่นได้ไม่จำกัด (ด้วย Dashboard, Twitter หรือ SMS) และส่งให้ลูกค้าได้แบบไม่จำกัดจำนวน โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $0.99 ต่อวัน
Location-based advertising นี้ เป็นรูปแบบเดียวกันกับสิ่งที่ Location-based app ตัวอื่นๆ ต้องการจะทำ เช่น Foursquare, Gowalla, ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเคยมีบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ทำโฆษณาผ่าน Location-based app เช่น Starbuck, GAP แต่ก็ผลตอบรับก็ไม่เป็นที่น่าพอใจนัก
บางทีโมเดลทางธุรกิจของ Location-based advertising นี้อาจจะให้ผลที่ดีกับร้านค้าเปิดใหม่ หรือร้านค้าที่ต้องการจะเป็นที่รู้จักมากขึ้น มากกว่าการทำกิจกรรมการตลาดให้กับร้านค้าที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วก็เป็นได้ แต่ที่แน่ๆ คือ โมเดลทางธุรกิจของ Chalkboard นี้จะเป็นกรณีศึกษาที่ดีให้กับ Location-based app ตัวอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี
แล้วคุณผู้อ่านล่ะคะ คิดว่าอย่างไร??
ที่มา: TechCrunch