เมื่อต้องกลับมาเข้าสู่ภาวะ Work From Home อีกครั้ง แน่นอนว่ามนุษย์เงินเดือนอย่างเราที่เคยผ่ายจุดนี้มาย่อมเดินหน้าทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่คนจะทำงานทั้งทีก็ต้องหาอุปกรณ์เสริมช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานให้ดีขึ้นกว่าเดิม
จัดโซนทำงานในบ้านอย่างจริงจัง
ถ้าโควิดรอบที่แล้วยังไม่ได้ลงทุนจัดเตรียมอะไร รอบนี้ก็คงต้องจัดบ้านอย่างจริงจังแยกมุมทำงานกับมุมพักผ่อนให้ชัดเจนขึ้น แม้ว่าจะอยู่ภายในห้องนอน ห้องรับแขก หรือห้องอาหาร ก็คงต้องมีโซนท่ีชัดเจนว่าใช้ทำงานเพื่อกระตุ้นให้จริงจังกับการใช้ชีวิตกับโซนนั้น อาจจะซื้อบอร์ดงานเพื่อบันทึกข้อมูลสิ่งที่ต้องทำหรือบันทึกในการทำงานแต่ละวัน เพื่อให้รู้ลำดับความสำคัญของงาน
แม้คุณจะรู้สึกว่าการมีบันทึกนั้นทำบนเครื่องคอมพิวเตอร์ก็ได้ แต่ความเป็นจริงแล้วการจดแบบออฟไลน์จะเป็นหลักฐานให้คุณเข้าใจถึงความสำคัญของแต่ละงานได้ดีกว่านะคะ อาจวางปฏิทินหรือนาฬิกาไว้ข้างๆ เพื่อกดดันให้คุณกระตือรือร้นในการทำงานมากขึ้นก็ยิ่งดีนะคะ
จัดตารางการทำงานในแต่ละสัปดาห์และกำหนด Deadline ให้ชัด
หากเราไม่มีเป้าหมายก็เหมือนว่าเราไม่มีการวางแผนในชีวิต จริงอยู่ว่าเราอาจจะทำงานแบบเดิมซ้ำๆ แต่การวางแผนไว้ทั้งเดือนก่อน และเพิ่มเป็นระดับรายสัปดาห์ เจาะลึกถึงรายวัน จะช่วยให้เราละเอียดรอบคอบในการวางแผนงานใดๆ
แม้ว่าจะมีงานแทรกจากลูกค้าที่รักในแต่ละวัน แต่การจัดเตรียม To do list ที่ยืดหยุ่นได้ ก็อาจส่งผลให้งานไม่สำเร็จตามเป้าหมายได้ ดังนั้น การวางแผนงานแบบกำหนดเดดไลน์จแม้จะกดดันไปนิดแต่ก็ทำให้รู้ลำดับความสำคัญของงานว่าจะต้องเสร็จก่อนเพื่อส่งต่อให้ฝ่ายอื่นๆ รับช่วงต่อ ไม่ปล่อยให้ต้องกลายเป็นงานดองไปเสีย
ติดต่อได้ตลอด ไม่ได้หมายถึง 24 ชั่วโมง
แม้ว่าการทำงานในออฟฟิศจะอยู่ในขอบเขต 8 ชั่วโมง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพอเลิกเวลางานและมีเรื่องฉุกเฉินจะติดต่อไม่ได้ เรื่องที่น่าสนใจคือบางครั้งไม่ด่วนก็มักโดนติดต่อมาตลอด แล้วเราจะคุมอย่างไรให้การทำงานไม่สะดุดแม้จะนอกเวลางานแล้ว
ถึงเราจะมีเทคโนโลยีไว้คอยสื่อสารและคุยเรื่องงานกันง่ายขึ้น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่มีเวลาเป็นส่วนตัวเลย ดังนั้นระบุอีเมล์สำหรับการติดต่องานและแจ้งกลับลูกค้าหรือเพื่อนร่วมงานให้ชัดเจนผ่านอีเมล์ตอบกลับว่านี่คือนอกเวลางาน แต่ถ้ามีเรื่องด่วนมากแนะนำให้โทรหาทันที อย่าติดต่อผ่านโซเชียลมีเดีย เพราะหลังเวลาเลิกงานเป็นช่วงที่คุณควรได้พัก
แบ่งแอปสำหรับทำงานออกจากชีวิตส่วนตัว
จริงอยู่ว่าชีวิตทำงานที่ดี มนุษย์ทำงานควรสื่อสารกันได้ทุกช่องทางแต่การแบ่งช่องทางการสื่อสารให้ชัดเจนว่าแอปไหนสำหรับสื่อสารเรื่องการทำงานและแอปไหนใช้สำหรับชีวิตส่วนตัวน่าจะช่วยให้ชัดเจนในการแบ่งแยกทั้งสองเรื่อง รวมทั้งเป็นเครื่องมือในการส่งต่อข้อมูลได้ดีกว่าด้วย
- Slack : แชทและส่งไฟล์ ภาพ วีดีโอและลิงก์ต่างๆ ได้ดีกว่า เพราะรองรับไฟล์จากทั้ง Google Docs และ Dropbox
- Basecamp : โปรแกรมบริหารจัดการโครงการ (Project Management) ซึ่งมีฟีเจอร์ให้ทำงานร่วมกับทีมต่างๆ ได้ และภายในแอปยังมี interface เครื่องมืออื่นๆ ให้ใช้เพิ่มอีกด้วย
- Todolist : ซอฟต์แวร์ที่จะช่วยจัดการระเบียบการทำงานและกระตุ้นให้ทำตามเป้าที่ตั้งไว้จนสำเร็จและยังสามารถจดบันทึกงานที่มีอยู่ให้เรียบร้อยได้ด้วย
- Trello : จัดระเบียบการทำงานกับทีมได้ง่ายขึ้น Interface คล้ายเฟซบุ๊กจึงเข้าใจง่ายต่อการใช้งานร่วมกับทีมสามารถมองเห็นเป็นภาพแยกเป็น Board ได้ง่ายขึ้น
การกลับมา Work from home อีกครั้ง ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรสำหรับคนที่เตรียมตัวมาดี และเชื่อว่าเหตุการณ์ทุกอย่างจะคลี่คลายไปอย่างรวดเร็ว ถึงอย่างไรการอยู่บ้าน ลดเชื้อและรักษาสุขภาพอย่างเคร่งครัดก็เป็นการดูแลตนเองที่ดีที่สุดนะคะ