ถือเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์อเมริกา ที่พบว่าเด็กซึ่งครอบครองโทรศัพท์มือถือนั้นมีจำนวนลดลง เนื่องจากวันนี้เด็กน้อยไม่รบเร้าให้พ่อแม่ซื้อโทรศัพท์มือถือแล้ว แต่อยากให้ซื้อแท็บเล็ตให้แทน
การสำรวจจากบริษัทวิจัย Ofcom พบว่าสถิติการถือครองโทรศัพท์มือถือของเยาวชนอเมริกันลดลงเป็นครั้งแรก โดยสถิติเหล่านี้ถูกรวบรวมจากตัวเลขของหน่วยงานกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมอเมริกัน
การสำรวจพบว่า วันนี้ 43% ของเยาวชนอเมริกันอายุ 5-15 ปีนั้นมีโทรศัพท์มือถือเป็นของตัวเอง ลดลงจาก 49% ที่เคยสำรวจได้ในปี 2012 ที่ผ่านมา ผลการสำรวจนี้ไม่ได้แปลว่าเยาวชนอเมริกันหันไปเล่นกีฬากลางแจ้งหรือกระดานเกมเศรษฐี แต่ส่วนใหญ่หันไปหาแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นชัดเจน
Ofcom พบว่าแท็บเล็ตกลายเป็นอุปกรณ์ “a must have device” หรืออุปกรณ์ที่เด็กทุกวัย “ต้องมี” ตัวเลขสนับสนุนสมมติฐานนี้คือสัดส่วนการครอบครองแท็บเล็ตของเยาวชน ที่วันนี้ครองสัดส่วนมากกว่า 26% ของกลุ่มเด็กที่มีอายุระหว่าง 12-15 ปี
สัดส่วนเยาวชนที่ครอบครองแท็บเล็ต 26% นี้เพิ่มจาก 7% ที่เคยมีการสำรวจได้ในปี 2012 ถือเป็นจุดเปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าตัว
ที่สำคัญ การสำรวจพบว่าเด็กยุคต่อไปจะมีความเคยชินกับเทคโนโลยีตั้งแต่แบเบาะ โดยเด็กอ่อน 28% ในสหรัฐฯซึ่งมีอายุระหว่าง 3-4 ปีล้วนยกนิ้วจิ้มแท็บเล็ตที่บ้านทั้งสิ้น คาดว่าสัดส่วนนี้จะเติบโตขึ้นสวนทางตัวเลขการพกพาโทรศัพท์มือถือที่อาจลดลงต่อเนื่องในประเทศอื่นเช่นกัน
ความเห็น: ปัจจุบันแนวโน้มที่เด็กจะใช้งานแท็บเล็ตมีสูงขึ้นจริง และในเอเชียและประเทศไทยก็มีแนวโน้มที่จะเป็นแบบเดียวกัน เพราะผู้ปกครองหลายคนใช้แท็บเล็ตในการเลี้ยงลูก ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องฝากไปถึงนักพัฒนา Content ต่างๆ ว่าควรจะพัฒนา Content บนแท็บเล็ตเพิ่มกันสักหน่อยก็ดี เพราะ 1 ใน 5 ของผู้ปกครองที่ไม่อนุญาตให้ลูกเล่นแท็บเล็ต กล่าวว่าจะเลิกห้ามถ้ามีการเพิ่มเนื้อหาเกี่ยวกับการศึกษาให้มากกว่าเดิม
ที่มา: BBC