ที่ผ่านมา รายงานจากสื่อหลายแห่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญและการขยายตัวก้าวกระโดดของตลาดแดนมังกรมาตลอด ล่าสุดบริษัทวิจัย Flurry ได้ออกมาประกาศย้ำอีกรอบ ว่าตลาดอุปกรณ์พกพาในประเทศจีนกำลังจะโตแซงหน้าอเมริกาแล้วในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้
Flurry ได้เผยรายงานที่แสดงให้เห็นว่าตลาดอุปกรณ์พกพาในจีนกำลังจะมีขนาดใหญ่กว่าอเมริกาในไม่กี่สัปดาห์นับจากนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนคาดการณ์กันไว้ว่าจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน รายงานนี้เผยให้เห็นตัวเลขของอุปกรณ์ที่ถูกใช้งานเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยตลาดทั้งสองแห่งมีจำนวนแทบจะเท่ากัน คืออเมริกามีจำนวนอยู่ที่ 222 ล้านเครื่อง และจีนอยู่ที่ 221 ล้านเครื่อง
Flurry คาดว่าภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2013 ตัวเลขจะเปลี่ยนเป็น 230 ล้านเครื่องสำหรับตลาดสหรัฐฯ และ 246 ล้านเครื่องสำหรับตลาดจีน ตัวเลขนี้จะทำให้จีนขึ้นเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกบนสังเวียนอุปกรณ์พกพา
Flurry คาดว่าหลังจากนี้ ตลาดในจีนจะยังโตขึ้นไปอีกเรื่อยๆ ในขณะที่ตลาดในสหรัฐฯจะชะลอการเติบโตลง โดยมีปัจจัยหลักมาจากจำนวนประชากร ที่อเมริกามีประชากรราว 310 ล้านคน ในขณะที่จีนมีประชากรราว 1,300 ล้านคน
Flurry มองว่าตลาดเดียวที่มีศักยภาพพอจะต่อกรกับจีนได้ก็คืออินเดีย ที่มีประชากรราว 1,200 ล้านคน แต่ก็คงต้องใช้เวลาอีกนาน เพราะตัวเลขอุปกรณ์พกพาในอินเดียมีเพียง 19 ล้านเครื่องเท่านั้น และด้วยอัตราการเติบโตที่ยังตามหลังจีนอยู่ ก็ยิ่งทำให้เป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น โดยในรายงานแสดงอัตราการเติบโตของในแต่ละประเทศในช่วงเดือนมกราคมปีที่แล้ว (2012) จนถึงมกราคมปีนี้ (2013) จีนมีอัตราเติบโตอยู่ที่ 209% ในขณะที่อินเดียอยู่ที่ 189%
สำหรับตลาดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สามคืออังกฤษ ที่มีอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่ราว 43 ล้านเครื่อง ต่อมาคือเกาหลีใต้เป็นอันดับที่สี่ ด้วยจำนวนอุปกรณ์ที่ 30 ล้านเครื่อง และญี่ปุ่นในอันดับที่ 5 กับอุปกรณ์จำนวน 29 ล้านเครื่อง
ดูจากตัวเลขจำนวนอุปกรณ์ในแต่ละอันดับแล้วคงจะเห็นว่าตลาดจีนยิ่งใหญ่มากขนาดไหน เมื่อเทียบกับอังกฤษแล้ว ตลาดจีนใหญ่กว่า 5 เท่าเลยทีเดียว ไม่แปลกใจที่ใครๆ ต่างกระโจนลงไปมีส่วนร่วมในตลาดแห่งนี้ ไม่เว้นแม้แต่แอปเปิล ที่ให้ความสำคัญกับจีนมาก ถึงขนาดแยกตลาดจีนออกจากกลุ่มเอเซียแปซิฟิคเลยทีเดียว
ที่มา: Mashable