เจ้าของแบรนด์ที่ใช้ Facebook เป็นช่องทางในการสื่อสารนั้นน่าจะต้องเคยมีการทำกิจกรรมบนหน้า Page กันบ้าง แต่สำหรับหลายแบรนด์ก็เลือกที่ทำ(จ้างบริษัท)พัฒนาแอพพลิเคชันบนหน้า Facebook ขึ้นมาเพื่อให้คนมาเล่น, ร่วมสนุก แกมดึงคนมาเป็น Fan บนหน้า Page บทความที่ผมแปลมานี้จะพูดถึงความแตกต่างของการใช้หน้า Timeline และ App ในการทำกิจกรรมบนหน้า Facebook Page ว่าเจ้าของ Page ควรเลือกใช้อะไรดีถึงจะเหมาะสม
Facebook Timeline (Wall Contest)
เป็นพื้นฐานในการใช้งานของหน้า Page เพราะผู้ที่เป็นเจ้าของ Page หรือผู้ที่มีสิทธิสามารถที่จะเขียนข้อความไปยังผู้ที่เข้ามาติดตามเราได้ โดยไม่ต้องเสียเงินหรือใช้เงินเพียงน้อยนิดในการซื้อโฆษณา
- วัตถุประสงค์เพื่อสร้าง Engagement ให้กับคนที่เป็น Fan ของเราในปัจจุบัน
- ค่าวัดความสำเร็จ ก็คือจำนวน Interaction ไม่ว่าจะเป็น Like, Comment, Share
- เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการจะถูกพูดถึงหรือถูกเห็นบ่อยขึ้นบนหน้า Facebook
Facebook App
เป็นแอพที่พัฒนาขึ้นโดยคนนักพัฒนาทั่วไป โดยเอามาใส่เพื่อใช้งานเป็นส่วนหนึ่งของหน้า Facebook Pages ถูกทำขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์หลายอย่าง แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะถูกเอามาใช้เพื่อการเอาข้อมูลต่างๆ เช่น ที่อยู่หรือ email เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป รวมทั้งการเรียกให้คนกด Like หน้า Page เพิ่มขึ้น (ซึ่งส่วนใหญ่นั้นจะใช้แผนการนี้ในการเรียก Like) หรือแม้กระทั่งในการขายสินค้า
- วัตถุประสงค์เพื่อเพิ่ม
- การวัดความสำเร็จ ก็คือจำนวน Like, จำนวนข้อมูลที่ email ที่กรอก, ยอดขาย
- เหมาะกับธุรกิจที่ใช้ Facebook, email เป็นหลัก
ข้อดี-ข้อเสียของการใช้งานทั้งสองประเภท
ข้อดีของการทำกิจกรรมผ่าน Facebook Timeline
- สร้าง Engagement ได้อย่างแนบเนียนผ่านข้อความที่จะไปปรากฎบนหน้า News Feed
- เปิดร่วมสนุกง่ายเพียงแค่กด Like, พิมพ์ Comment, คลิก Share แต่ห้าม Tag ชื่อเพื่่อนลงไป
- ใช้ Like แทนการลงคะแนน Vote
- เริ่มเล่นแบบง่ายๆ แค่หารูปกิจกรรมพร้อมข้อความที่จะพิมพ์ลงในโพสต์ก็เริ่มเล่นได้เลย
- ฟรี! สั้นๆ ได้ใจความ (ยกเว้นแต่ว่าหากต้องการให้คนเห็นเยอะขึ้นก็ต้องมีการซื้อ Promote Post กันด้วย)
- เล่นได้เรื่อยๆ อย่างใจและไอเดียต้องการครับ
ข้อเสียของการเล่นกิจกรรมบน Facebook Timeline
- สามารถมีและเกิดการโกงได้ง่ายด้วยการใช้บัญชีปลอมมาใช้ร่วมสนุกโดยเฉพาะการโหวต
- การจัดการทุกๆ อย่างโดยเฉพาะการหาผู้ชนะจะต้องทำด้วยแรงงานคนเท่านั้น
- ไม่ได้สร้าง Fan หน้าใหม่บนหน้า Page ได้โดยตรง แต่ก็อาจจะมีบ้าง เพราะหากเราทำกติกาให้ Tag ชื่อเพื่อนซึ่งก็เป็นไปได้ว่าจะอาจจะมีกติกาให้กด Like เพิ่มเติมได้
- แชร์กิจกรรมจากบนหน้า Page ไปยังหน้า Facebook ของผู้ใช้ทั่วไปไม่ได้ เพราะด้วยกฎของทาง Facebook เองที่ห้ามโดยตรง
…………..
มาถึงข้อดีของการทำกิจกรรมผ่าน Facebook App
- เกมที่ทำขึ้นมานั้นจะมีลูกเล่นมากมายให้เลือก ตามความต้องการและตามงบประมาณที่มี
- ได้ email จากการข้อมูลได้ง่าย ซึ่งสามารถเอาไปทำการตลาดได้ต่อในภายหลัง
- ได้ Fan มาสู่หน้า Facebook ใหม่ๆ จากการบังคับให้กด Like หรือ Like Gate
- ถึงแม้ว่า Facebook จะมีกติกาว่าไม่ให้แชร์ข้อความจากหน้า Facebook Wall ได้ แต่สำหรับแอพแล้วสามารถแชร์ขึ้นไปยังหน้าของผู้ใช้งานได้ แต่ทั้งนี้ต้องได้รับการอนุญาตให้โพสต์ข้อความจากผู้ใช้ด้วย (ด้วยหน้าจอเตือนการเขียนข้อความก่อนเข้าแอพ)
- มีการโกงได้น้อยกว่า (แต่ก็ยังมีให้เห็นกันบ้าง สำหรับในไทย สัก 2-3 ปีก่อนมีเกมบนหน้า Facebook ของคลื่นวิทยุหนึ่ง ก็มีคนเข้าไปโกงเกมเพื่อชิงรางวัลท่องเที่ยวจนมีการร้องเรียนและต้องยกเลิกการเล่นเกมนั้นไปในที่สุด)
ข้อเสียของการทำกิจกรรมผ่าน Facebook App
- มีกระบวนการขั้นตอนหลายอย่างสำหรับผู้ใช้งานกว่าที่จะเข้าร่วมเล่นเกมได้ เช่นต้องอนุญาตเข้าถึงข้อมูล, การให้โพสต์ข้อมูล, กรอกข้อมูล ฯลฯ
- มีค่าใช้จ่าย แน่นอนว่าการทำแอพขึ้นมาต้องผ่านมือเหล่านักพัฒนาแอพ ซึ่งเขาผู้นี้ก็ต้องกินข้าวเหมือนกับเราๆ ท่านๆ ดังนั้นก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ครับ
อ่านมาทั้งหมดแล้วก็สามารถสรุปได้ง่ายๆ ว่าเราควรจะเลือกอะไรในการทำกิจกรรมบน Facebook ด้วยการดูว่าตัวเองตรงกับข้อไหนครับ…
เลือก Facebook Timeline หากมีงบน้อย, ต้องการกระตุ้นแฟนๆ ที่ติดตามอยู่แล้วให้ร่วมสนุก, มีกติการ่วมสนุกไม่ซับซ้อน
เลือก Facebook App หากมีงบ(พอสมควร), ต้องการจำนวนแฟนเพิ่มมากขึ้น หรือ/และฐานข้อมูลที่ใช้ในการทำการตลาดต่อ
ลองเลือกใช้กันดูนะครับว่าแบรนด์ของคุณเหมาะกับอันไหน และควรเลือกใช้ในสถานการณ์ใด…
ที่มา: Antavo