ทุกวันนี้ในโลกของธุรกิจ IT คงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จัก Cloud Computing เนื่องจาก Cloud Computing ได้เข้ามามีบทบาทต่อองค์กรต่างๆ ทั้งในด้านการบริหารจัดการทรัพยากรต่างๆทางด้านคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ขององค์กร ไม่ว่าจะเป็น เครื่อง Server, พื้นที่เก็บข้อมูล, ระบบปฏิบัตการ, ฐานข้อมูล, และโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ สำหรับการให้บริการขององค์กร และยังช่วยให้เกิดการใช้ทรัพยากรได้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดอีกด้วย
ทั้งนี้การเข้าถึงบริการ Cloud Computing ในปัจจุบันนั้น ได้ถูกจำกัดอยู่ที่อุปกรณ์เพียงไม่กี่อย่าง คือ PC, Smart Phone, Tablet, และ Thin Client ซึ่งข้อจำกัดนี้ไม่เพียงแต่มีผลต่อการออกแบบการให้บริการผ่าน Cloud เท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงต้นทุนค่าใช้จ่ายในกรณีที่ต้องอาศัยอุปกรณ์เหล่านั้นเป็นส่วนหนึ่งของ Solution นั้นๆด้วย? โดยจะเห็นได้ว่าอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อกับบริการทาง Cloud ที่กล่าวมาข้างต้นนั้นมีราคาต้นทุนที่สูงมาก อันเนื่องมาจากอุปกรณ์เหล่านั้นมีคุณสมบัติที่สูงเกินความจำเป็นต่อการใช้งาน (เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้งานที่เป็นแค่เพียง Cloud Client)
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในกรณีนี้ก็คือ การใช้ PC หรือ Thin Client เพื่อเชื่อมต่อกับบริการ Application ต่างๆที่อยู่บน Cloud ซึ่งโดยธรรมชาติของการให้บริการเหล่านี้นั้น การประมวลผลทั้งหมดจะเกิดที่ Cloud จึงทำให้ตัว Cloud Client ทำหน้าที่เพียงแค่ ส่งข้อมูลที่ต้องการประมวลผลไปยัง Cloud และ รับผลการประมวลผลที่มาจาก Cloud มาแสดงต่อผู้ใช้งานเท่านั้น ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับความสามารถของ PC ที่ต้องใช้ในการทำงานลักษณะนี้นั้น นับเป็นการใช้ทรัพยากรเพียง 10% ของเครื่อง PC เท่านั้นเอง? และแม้แต่ Thin Client เอง ก็เกิดขึ้นเพื่อที่จะถูกนำมาใช้ทดแทน PC สำหรับงานในลักษณะนี้ แต่จนแล้วจนรอด? Thin Client ในปัจจุบัน ก็ยังมีราคาที่สูงจนเกือบจะไม่ต่างกับ PC อีกทั้ง Solution ของ Thin Client เองก็ยังมีประเด็น ตรงที่การแสดงผลของภาพและเสียงผ่าน Remote Desktop Protocol ที่ได้นั้นยังไม่สมบูรณ์แบบ และนอกจากการเสียค่าใช้จ่ายที่เกินความจำเป็นต่ออุปกรณ์เหล่านี้ในตอนเริ่มต้นแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปค่าการบำรุงรักษา PC และ Thin Client นั้นก็นับเป็นตัวเลขที่สูงที่ต้องพิจารณากันให้ดีเลยทีเดียว เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนที่มีแนวโน้มของการสึกหรอที่สูงอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย และการสำรองเครื่องไว้ใช้ทดแทนยามฉุกเฉินก็เป็นไปได้น้อยเนื่องจากราคาที่สูงของอุปกรณ์ จึงส่งผลให้โดยรวมแล้ว Cloud Client ที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้นไม่ได้ตอบโจทย์ที่มีทั้งหมดขององค์กรไปได้
ข้อจำกัดอีกอย่างหนึ่งของ Cloud Client ที่มีอยู่ในตลาดขณะนี้ที่เห็นได้ชัดก็คือ การจำกัดรูปแบบการใช้งานของ Cloud Client ไว้เพียงแค่การใช้บริการผ่าน Cloud เพียงรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น ปัจจุบันนี้เรามีผู้ให้บริการ IPTV ที่สามารถให้บริการผ่านทาง IPTV box ได้แล้ว แต่ทว่า IPTV Box เหล่านี้กลับไม่สามารถถูกนำมาใช้เพื่อเชื่อมต่อกับบริการ Microsoft Office 365 ผ่านทาง Cloud ของ Microsoft ได้ หรือถ้าหากมีผู้ให้บริการอื่นๆผ่านทาง Cloud อยู่ก่อนแล้ว เช่น ระบบ Home Security & Control เป็นต้น ผู้ให้บริการนั้นๆก็มักจะเลือกใช้อุปกรณ์เฉพาะทางของตนเพื่อเชื่อมต่อบริการของตนออกไปสู่ผู้ใช้ แทนที่อุปกรณ์ Cloud Client? ของผู้ใช้มีอยู่ก่อนแล้วจะสามารถใช้บริการนั้นๆได้ในทันที
เมื่อรวมประเด็นของ ข้อจำกัด และ ราคา ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว สิ่งที่ตอบโจทย์ในทุกปัญหานี้ได้ก็คือ Penta Cloud Client ที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1. เชื่อมต่อบริการจาก Cloud ผ่านทาง Web Browser และ RDP ได้อย่างสมบูรณ์
2. รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกได้หลากหลาย ผ่านทาง USB, Ethernet, WiFi, HDMI,? และ VGA
3. รองรับการเชื่อมต่อ Internet ได้อย่างน้อยผ่านทาง Ethernet และ WiFi
4. รองรับการใช้งาน Video และ Audio ได้หลากหลายรูปแบบ
5. มี Application Framework เพื่อช่วยในการพัฒนา Software สำหรับเชื่อมต่อการให้บริการผ่านทาง Cloud
6. มีชิ้นส่วนประกอบของ Hardware ที่มีแนวโน้มการสึกหรอต่ำ และมีราคาตัวอุปกรณ์ที่ต่ำกว่า Cloud Client ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
Penta Cloud Client ไม่เพียงแต่จะช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายของ Solution ต่างๆแต่เพียงเท่านั้น แต่ Penta Cloud Client ยังนับเป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่ผู้ให้บริการต่างๆสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดออกเป็น Solution อื่นๆได้อีกด้วย โดยอาศัย Application Framework ที่ทางผู้ผลิต Penta จัดเตรียมไว้ให้? และความสามารถของ Penta ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นๆได้อย่างหลากหลาย อีกทั้งการเพิ่มความสามารถในอนาคตได้อย่างไม่จำกัดของ Penta Cloud Client นั้น นับเป็นส่วนช่วยเสริมสร้างให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆมีทำงานร่วมกับสถาปัตยกรรมของ Cloud Computing ได้อย่างดีเลยทีเดียว Penta Cloud Client จึงนับเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการสร้าง Solution ต่างๆแห่งทศวรรษต่อไป ในอดีตเราเคยอยู่ใต้ Cloud แล้วก็มองขึ้นมา ตอนนี้เรากำลังอยู่บน Cloud แล้วจินตนาการถึงสิ่งต่างๆที่จะเกิดจากมัน? สำหรับอนาคตแล้วเราคงต้องขึ้นไปอยู่ให้เหนือ Cloud แล้วมองลงมาเพื่อคิดค้นและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆอย่างไร้ขีดจำกัดต่อไป
สำหรับใครที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมขณะนี้มีคอมมูนิตี้สำหรับนักพัฒนา Cloud Client โดยเฉพาะ เข้าไปร่วมแลกเปลี่ยน แสดงความคิดเห็น พูดคุยถึงกรณีศึกษาต่างๆ ได้ที่?Penta Cloud Client Group บน Facebook?และ Penta Cloud Client บน Linkedin Group