Site icon Thumbsup

Coca-Cola ชูเครื่องมือออนไลน์ใหม่ช่วยลูกค้าดื่มแล้วไม่อ้วน

ศึกน้ำดำในไทยตอนนี้กำลังระอุ แต่สำหรับที่อังกฤษนั้น มีกระแสการต่อต้านน้ำอัดลมที่ค่อนข้างมาก แต่ค่าย Coca-Cola ก็หาทางออกกรณีเกิดกระแสต่อต้านนี้กับประโยคที่ว่า “ดื่มโค้กเสี่ยงโรคอ้วน” ได้อย่างน่าสนใจ ด้วยการเปิดตัวเครื่องมือออนไลน์ใหม่ที่ช่วยคำนวณกิจกรรมที่จะ”เบิร์น”หรือเผาผลาญแคลเลอรี่จากโค้กรสชาติที่ลูกค้าชื่นชอบได้แม่นยำ แถมยังนำไปปฏิบัติตามได้ง่ายบนสุขภาพที่ดี

ไอเดียนี้มาจาก Coca-Cola Great Britain ซึ่งให้ชื่อเครื่องมือออนไลน์นี้ว่า ?Work It Out Calculator? งานนี้ Coca-Cola จับมือกับอดีตนักกีฬาโอลิมปิกส์และศาสตราจารย์ดอกเตอร์ Greg Whyte เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเห็นความสำคัญของการสร้างสมดุลย์ระหว่างการรับพลังงานจากอาหารเข้าสู่ร่างกาย และการเผาผลาญพลังงานนั้นออกมา

เครื่องมือออนไลน์นี้เปิดให้บริการที่ coca-cola.co.uk ผู้ใช้จะสามารถเลือกรสชาติเครื่องดื่ม Coca-Cola?ที่ชื่นชอบ เพื่อให้ระบบแนะนำกิจกรรมและการออกกำลังกายที่จะสามารถเบิร์นแคลเลอรี่ที่ได้รับจากการดื่มเครื่องดื่มนั้น?ตัวอย่างเช่น Coca-Cola กระป๋องรสชาติดั้งเดิมที่ให้พลังงาน 139 แคเลอรี่ หากมีลูกค้าเลือกชอบโค้กกระป๋องรสชาตินี้ ระบบจะแสดงว่าแคลเลอรี่เหล่านี้จะเผาผลาญหมดด้วยการเล่นเบสบอล 17 นาที หรือดูดฝุ่น 51 นาที แต่จะสามารถสลายไปใน 14 นาทีสำหรับการเต้นซัลซา (Salsa)

ตรงกันข้ามหากเลือกที่ Diet Coke ระบบจะแสดงว่าผู้ดื่มต้องทำกิจกรรม 0 นาที แปลว่าไม่ต้องทำกิจกรรมผลาญแคเลอรี่ใดๆ

นอกเหนือจากกิจกรรม ?Work It Out Calculator? ยังให้ความรู้เรื่องปริมาณแคลเลอรี่ที่ควรได้รับต่อวัน รวมถึงสารอาหารต่างๆที่เหมาะสม จุดนี้จะทำให้ผู้ใช้เข้าใจว่าสามารถดื่มโค้กปริมาณเท่าใดจึงจะไม่เป็นผลเสียต่อสุขภาพ ซึ่ง Helen Munday ประธานฝ่ายวิทยาศาสตร์ของ Coca Cola Great Britain ให้สัมภาษณ์ว่าบริษัทต้องการให้ความรู้ผู้บริโภคเรื่องการมีความสุขกับโค้กโดยที่ยังสามารถควบคุมอาหารได้อยู่

ทั้งหมดนี้ผู้บริหาร Coca Cola ย้ำว่าเครื่องมือนี้จะแสดงให้ลูกค้เห็นถึงความสำคัญของการสร้างสมดุลย์ในการควบคุมน้ำหนักซึ่งมีผลโดยตรงต่อไลฟ์สไตล์ที่แอคทีฟ โดยทิ้งท้ายว่า Coca Cola ต้องการให้เครื่องมือออนไลน์นี้เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ควบคุมน้ำหนักกลับมามีแรงแอคทีฟมากขึ้นแม้จะได้รับแรงกดดันหลายอย่างในชีวิตประจำวัน?ซึ่งก็แปลว่า Coca Cola (น่า)จะขายเครื่องดื่มได้มากขึ้นในอนาคต

ที่มา: PSFK