Computerlogy เปิดตัว “SocialEnable 4.0” จัดการโซเชียลมีเดียครบวงจร แถมมอนิเตอร์ภาพรวมได้ทุกช่องทาง ที่สำคัญรองรับการใช้งานผ่านอุปกรณ์สมาร์ทโฟนตอบโจทย์ยุค Anywhere – Anytime
“วัชระ เอมวัฒน์” ผู้ก่อตั้ง Computerlogy เผยถึงความเป็นมาของ SocialEnable 4.0 ว่า “เราเปิดตัวโปรดักซ์ตัวแรกของเราในปี 2010 ตอนนั้นเราทำเกี่ยวกับพวกแอปพลิเคชันบน Facebook และพบว่า ในจังหวะปี 2010 เองเนี่ย ทุกแบรนด์พากันเข้าไปอยู่บนโซเชียลมีเดีย เข้าไปแล้วทำอะไร มีปริมาณแฟนแล้วจะจัดการอย่างไร เราจึงส่ง SocialEnable เวอร์ชันแรกออกมา บอกว่าเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการ Social Media”
“จากนั้นเราก็คุยกับลูกค้ามากขึ้น ซึ่งเราก็บอกลูกค้าไปว่า เราจะ Customize ทุกอย่างให้ฟรี ขอเพียงบอกมาว่าต้องการอะไร เราก็ได้คอมเม้นท์จาก Marketing Expert หลาย ๆ ท่าน จนเราเปิดตัว SocialEnable 2.0 ออกไปในปี 2012”
แต่นั่นยังไม่พอ เพราะ Computerlogy มีการเปิดตัว Social Listening Tools ตามมาอีกตัวในปี 2014 ก็คือ TH3RE อีกทั้งยังมีฐานข้อมูลแมสเซสขนาดใหญ่มากกว่า 300 ล้านเรคคอร์ด โดยทุกวันนี้ ทั้ง Social Enable และ There มีผู้ใช้งานอยู่บนทั้งสองระบบไม่ต่ำกว่า 100 ราย และใช้เวลามากกว่าวันละ 2 ชั่วโมง ซึ่งเป็นสถิติที่บริษัทบอกว่ารู้สึกภูมิใจ
อย่างไรก็ดี คุณวัชระเผยว่า จะหยุดการบันทึกสถิตินี้ลงแล้ว เนื่องจากทั้งสอง Tools นี้จะรวมกัน กลายเป็นโปรดักซ์ใหม่ SocialEnable 4.0 จุดเด่นของระบบคือรวมทุกอย่างไว้ในหน้าจอเดียว ทำให้เอเจนซีสามารถดูภาพรวมกระแสการตลาดของแบรนด์ผ่านทางโซเชียลแพลตฟอร์มต่างๆ ได้ทุกช่องทาง ทั้งช่องทางของแบรนด์เอง และช่องทางที่แบรนด์ไปซื้อมา
จุดเด่นใน SocialEnable 4.0 นี้หลักๆ ประกอบด้วย
- การ Monitor Paid Owned Earned ของ Social Media ได้ครบสมบูรณ์แบบในเครื่องมือเดียว
- ครั้งแรกกับการเปิดตัว SocialEnable Store เพื่อให้นักการตลาดและเอเยนซี่สามารถมาสร้าง Dashboard บนแพลตฟอร์มนี้ได้ ซึ่งแบรนด์สามารถนำ Dashboard สำเร็จรูปนี้ไปใช้ต่อได้อีกที
- Report และ Dashboard ที่ผูกกับเป้าหมายทางธุรกิจและ KPI จริงของนักการตลาด
- Machine Learning วิเคราะห์ Content ไหนกำลังฮอตฮิตอินเทรนด์ในภาคธุรกิจนั้นๆ เพื่อการวางกลยุทธ์ และ Real Time Marketing ให้ทันท่วงที
- ระบบ Workflow สมบูรณ์แบบสำหรับ Call Center ทีม วัดประสิทธิภาพของทีมงาน และดูเรื่อง SLA โดยตรง
“เราไม่เชื่อใน One-size-fit-all เราเชื่อว่าแต่ละแบรนด์มีอัตลักษณ์ที่ต่างกัน เราจึงดีไซน์หน้าจอการมอนิเตอร์ออกมาให้ผู้ใช้งานสามารถปรับได้ตามต้องการ จะแบ่งเป็น 4 – 3 – 2 คอลัมน์ก็ได้ หรือจะเลือกให้ Own media กับ Earn Media อยู่ด้วยกันก็ได้ ซึ่งนี่คือสิ่งที่เราเชื่อว่าจะถูกใจผู้ใช้งานครับ”
ที่มา: Computerlogy, SocialEnable
