ด้วยความปลอดภัยในการออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน ห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่ง ก็ได้เตรียมความพร้อมเรื่องความปลอดภัยไว้ให้แก่ผู้ใช้งานทุกคน และมีจดหมายเรียกความเชื่อมั่นออกมาทุกวัน มาดูกันสิว่ามาตรการของแต่ศูนย์ฯ เหล่านี้ มีอะไรกันบ้าง
แมคโคร (Makro)
เพื่อเตรียมการรองรับมาตรการผ่อนคลายของภาครัฐในระยะที่สอง แม็คโคร ได้ร่วมมือกับ กรมอนามัย ยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด เสริมจากแนวปฏิบัติหลักของภาครัฐ เพื่อพลิกโฉมการจับจ่ายวิถีใหม่ปลอดภัย ในสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งจะเน้นการเพิ่มระยะห่าง ลดความแออัดภายในสาขา ลดความเสี่ยงจากการสัมผัส พร้อมมีทีมรักษาระยะห่างคอยย้ำเตือนในพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของลูกค้า
คุณศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม็คโครตระหนักถึงความสำคัญของมาตรการทางสาธารณสุข และการปฏิบัติตามแนวทางของภาครัฐ จึงปรับเปลี่ยนและยกระดับการจัดการภายในสาขา เพื่อให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยเรายังคงมาตรการหลักที่ได้รับจากภาครัฐ และเพิ่มมาตรการเสริม ที่ได้รับคำแนะนำจากกรมอนามัย เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานใหม่ ในการจับจ่ายที่ปลอดภัยในทุกสาขา ประกอบด้วย
- กำหนดจำนวนลูกค้าเข้าสาขา (1 คนต่อ 5 ตางเมตร) โดยการนับจำนวนคนเข้า-ออก และรายงานจำนวนคนที่อยู่ภายในสาขาทุกครึ่งชั่วโมง พร้อมจัดที่นั่งรอห่างกัน 1 เมตรด้านหน้าสาขา เมื่อปริมาณคนในสาขาเกินจำนวนที่กำหนด
- ตีเส้นรักษาระยะห่างที่พื้น (Social distancing grid) เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการรักษาระยะห่างของแต่ละบุคคล ในจุดที่มีความหนาแน่น เช่น แผนกอาหารสด แผนกเนื้อสัตว์ และจุดชำระเงิน
- จัดทีมรักษาระยะห่าง 3-5 คนต่อสาขา คอยเดินประกาศ ย้ำเตือนเรื่องการรักษาระยะห่างให้ลูกค้าเกิดความเคยชิน และปฏิบัติจนเป็นความปรกติใหม่ (New normal)
- ลดพื้นที่ขายบางส่วน เพื่อเพิ่มพื้นที่สร้างระยะห่างให้กับลูกค้าในการเลือกสินค้าอย่างปลอดภัย ลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อ
- เน้นบริการชำระเงินแบบ Cashless payment เพื่อลดความเสี่ยงจากการสัมผัสเงินสดในทุกสาขา
ทั้งนี้ 5 มาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการเสริมที่แม็คโคร จับมือกับกรมอนามัยสร้างบรรทัดฐานใหม่เพิ่มเติมจากมาตรการหลักของรัฐบาล อันประกอบด้วย การตั้งจุดคัดกรองวัดอุณหภูมิร่างกายทุกคนที่จะเข้าสาขา, การกำหนดให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยก่อนเข้าสาขา, การเพิ่มจำนวนจุดวางแอลกอฮอล์เจลให้มากขึ้น, การทำความสะอาดพื้นที่ที่มีการสัมผัสบ่อย โดยเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดรถเข็นสินค้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 15 นาที รวมทั้ง เคาท์เตอร์บริการต่างๆ โทรศัพท์ ตู้เอทีเอ็ม รถวิลแชร์สำหรับลูกค้า เป็นต้น
เทสโก้ โลตัส (Tesco Lotus)
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่การเริ่มต้นของการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศไทย เทสโก้ โลตัส ให้ความสำคัญกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดภายในสาขาของเราทั้ง 2,000 แห่งทั่วประเทศ เพื่อดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของเพื่อนพนักงานและลูกค้า
คุณสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานกรรมการบริหาร เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า เรามีความพร้อมเต็มที่ในการเปิดให้บริการศูนย์การค้า โดยมีมาตรการหลัก 4 หมวดหมู่ตามที่ได้ปฏิบัติมาโดยตลอด กล่าวคือ 1. คัดกรองอย่างเข้มงวด (Extra screening) 2. ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ (Extra cleaning) 3. เว้นระยะห่างที่ปลอดภัย (Safe distancing) และ 4. ลดสัมผัส ลดเสี่ยง (Contactless experience) นอกจากนั้นยังมีมาตรการเสริมสำหรับร้านค้าแต่ละประเภทภายในศูนย์การค้าเพิ่มเติม ลูกค้าและประชาชนสามารถมั่นใจได้ในความปลอดภัย
- โดย 4 หมวดหมู่มาตรการหลัก มีดังนี้
1. คัดกรองอย่างเข้มงวด (Extra Screening)
□ ตรวจอุณหภูมิลูกค้า พนักงาน พนักงานขาย ลูกจ้างร้านค้า พนักงานส่งสินค้า หากอุณหภูมิเกิน 37.5 องศาเซลเซียส ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้า
□ ทุกคนต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ภายในเทสโก้ โลตัส
□ พนักงานที่สัมผัสอาหาร ทั้งในซุปเปอร์มาร์เก็ตและพื้นที่ศูนย์การค้า ต้องสวมหน้ากาก Face shield และถุงมือ
□ พนักงานที่ให้บริการลูกค้า อาทิ แคชเชียร์ ต้องสวมหน้ากาก Face shield และถุงมือ หรือมีฉากใสกั้น
□ ผู้ที่มาใช้บริการทุกคนต้องลงทะเบียนในระบบตามนโยบายภาครัฐ
□ ตรวจคัดกรองสุขภาพพนักงานทุกวัน หากอุณหภูมิเกิน 37.5 องศาเซลเซียส หรือมีอาการป่วย ไม่อนุญาตให้ปฏิบัติหน้าที่ - 2. ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ (Extra Cleaning)
□ จัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์สำหรับลูกค้าและพนักงาน
□ ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นผิวสัมผัสต่างๆ ทุกชั่วโมง
□ ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อตะกร้าและรถเข็นช้อปปิ้งตลอดทั้งวัน
□ ทำความสะอาดบัตรจอดรถและบัตรศูนย์อาหารก่อนและหลังการใช้ทุกครั้ง ทุกใบ
□ ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อห้องน้ำทุกชั่วโมง
□ ระบบหมุนเวียนอากาศมีอัตราการหมุนเวียน ไม่น้อยกว่า 10 เท่า
□ ทำความสะอาดไส้กรองระบบระบายอากาศและล้างคอยล์เย็นสม่ำเสมอ - 3. ห่ า ง อย่างหายห่วง (Safe Distancing)
□ เว้นระยะห่างที่ปลอดภัยอย่างน้อย 1 เมตรทั่วทั้งซุปเปอร์มาร์เก็ตและศูนย์การค้า
□ สัญลักษณ์บนพื้น เตือนลูกค้าให้เว้นระยะห่างที่ปลอดภัย ทั่วทุกแผนก และบริเวณที่มีการรอคิว
□ จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ ให้สามารถเว้นระยะห่างได้ตามข้อกำหนดของภาครัฐ สำหรับสาขาใหญ่และศูนย์การค้า
□ จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการไม่เกิน 15 คนต่อครั้ง สำหรับเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส
□ โต๊ะทานข้าวในศูนย์อาหารและร้านอาหาร ห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร และมีฉากกั้นตามความเหมาะสม - 4. ลดสัมผัส ลดเสี่ยง (Contactless Experience)
□ จ่ายเงินผ่าน QR Code ได้ทุกเคาน์เตอร์แคชเชียร์ของเทสโก้ โลตัส ทุกสาขา รวมถึงร้านค้าในพื้นที่เช่าบางส่วน ลูกค้าไม่ต้องสัมผัสเงินสดหรือบัตรเครดิต
□ บริการ Scan & Shop ให้ลูกค้าสแกนราคาสินค้าได้จากโทรศัพท์มือถือ โดยแคชเชียร์ไม่ต้องแสกนสินค้า ณ จุดชำระเงิน ที่ไฮเปอร์มาร์เก็ตทุกสาขา
□ ในศูนย์อาหาร ยกเลิกจุดวางช้อนส้อมในศูนย์อาหาร และเปลี่ยนมาใช้เครื่องปรุงแบบซอง แทนการใส่ในภาชนะตัก ลดการสัมผัส ลดการแพร่เชื้อ
ธัญญะพาร์ค (Tanya park)
คุณวันชัย จันทร์วัฒรังกูล กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้า ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ “ด้วยจุดเด่นทางด้านโครงสร้างของตัวอาคาร ที่ถูกออกแบบให้เป็น “กรีนโอเพ่นแอร์มอลล์” (Green Open-Air Mall) ตัวอาคารจัดวางแบบกระจายตัว ถูกออกแบบมาให้เปิดรับการถ่ายเทของลมธรรมชาติ ไม่มีการสะสมของเชื้อโรค มีพื้นที่ส่วนกลางกว่า 60% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เปิดโล่งและพื้นที่สีเขียว ช่วยลดความแออัดของกลุ่มคน รวมถึงการใช้สุขภัณฑ์ในห้องน้ำที่ลดการสัมผัส (Touchless) อย่างโถปัสสาวะชายนาโนเทคโนโลยี ที่นอกจากลดการสัมผัสแล้วยังช่วยเรื่องการประหยัดน้ำได้อีกด้วย และอีกหนึ่งจุดเด่นคือสวนลอยฟ้า (Roof Top Garden) พื้นที่ ออกกำลังกายกลางแจ้งพร้อมลู่วิ่งที่ได้มาตรฐาน ให้ผู้มาใช้บริการได้ออกกำลังกายสร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรง
นอกจากความพร้อมทางกายภาพทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วนั้น ทางศูนย์การค้า ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ ยังได้กำหนดมาตรการด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย “ธัญญาพาร์ค มั่นใจ ห่วงใย ปลอดภัย” เพื่อให้ผู้เช่า ร้านค้า พนักงาน และกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการได้รับความปลอดภัย ห่างไกลจาก โควิด-19 โดยมีมาตรการหลักที่นำมาใช้กับทุกพื้นที่ภายในศูนย์การค้า ได้แก่
- คัดกรองก่อนใช้บริการ ด้วยการกำหนดจุดคัดกรอง วัดอุณหภูมิก่อนเข้าศูนย์การค้า และยังมีการจัดหน่วยวัดอุณหภูมิเคลื่อนที่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้มาใช้บริการทั่วทั้งบริเวณศูนย์การค้าฯ
- เว้นระยะห่างเพื่อลดความแออัด กำหนดจุดเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1.5 เมตร ในทุกพื้นที่ของศูนย์การค้า, ติดตั้งฉากกั้นในทุกจุดที่จำเป็น, พนักงานทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย, Face Shield และถุงมือตลอดเวลา
- รักษาสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด โดยทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 1 ชั่วโมง และทำความสะอาดห้องน้ำทุก 30 นาที รวมทั้งทำความสะอาดบัตรจอดรถด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกครั้ง
- ลดการสัมผัส ลดความเสี่ยง รณรงค์ลดการชำระค่าบริการด้วยเงินสด เพิ่มการชำระเงินด้วยระบบ E-payment รับเงินสดและใบเสร็จผ่านภาชนะอื่นๆ แทนการสัมผัสตรงจากมือ
โรบินสัน (Robinson)
แม้ว่าสถาณการณ์ Covid-19 ในปัจจุบันมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ก็ยังอยู่ในการควบคุม คุณวุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในฐานะผู้นำค้าปลีก โรบินสัน ต้องทำการบ้านอย่างหนัก ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา เราได้ปรับโมเดลธุรกิจรูปแบบเดิม สู่รีเทลใหม่ที่มีความแกร่ง พร้อมให้บริการในทุกด้านบนมาตรการความปลอดภัย ภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 แผนแม่บท รัดกุม คุมเข้ม ป้องกัน Covid-19 (คัดกรองเข้มงวด, ลดความแออัด, ติดตามให้มั่นใจ, สะอาดทุกจุดในเชิงรุก, ลดการสัมผัส) ตอบรับ New Normal พร้อมชูนวัตกรรม “ตู้อบฆ่าเชื้อ 3 ระบบ ทำงานแบบ 360 องศา” ฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ได้มั่นใจทุกจุดสัมผัส เป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในไทย!!
- สำหรับลูกค้า สินค้าทุกชิ้น เมื่อช้อปแล้ว ก่อนนำกลับจะผ่านการฆ่าเชื้อด้วยการอบลมร้อนและฉายรังสี UV กำจัดไวรัสและแบคทีเรีย เพื่อความมั่นใจ
- สำหรับสินค้าทุกชิ้น ที่มีการทดลองสวมใส่ พนักงานจะนำไปฆ่าเชื้อในตู้อบหลังเวลาปิดให้บริการ 3 ระบบ คือ การอบลมร้อน, ฉายรังสี UV และปิดท้ายด้วยการอบโอโซน เพื่อให้มั่นใจว่า ปลอดเชื้อทุกซอกทุกมุมแบบ 360 องศา
โรบินสัน มีการคัดกรองเข้มงวดตั้งแต่ลูกค้าเข้าศูนย์ฯ ทุกคนต้องตรวจวัดอุณหภูมิ (ขอสงวนสิทธิ์ผู้มีอุณหภูมิเกิน 37.5 องศา งดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด) มีบริการเจลล้างมือ และเหยียบพรมเช็ดเท้าฆ่าเชื้อ นอกจากนี้ยังมีมาตรฐานรักษาระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing ทุกจุด
ทั้งในส่วนของการจำกัดจำนวนคนเข้าศูนย์การค้าและร้านค้าไม่เกิน 1 คน ต่อ 5 ตร.ม.ควบคุมด้วยระบบ People Counting แบบเรียลไทม์ สำหรับพื้นที่ส่วนกลาง ลิฟต์-บันไดเลื่อน-ห้องน้ำ – Rest Area – ห้อง V.I.P. LOUNGE ต้องรักษาระยะห่าง 1.5 – 2 ม. ทุกจุด รวมถึงการให้พนักงานที่มีความใกล้ชิดกับลูกค้าสวมใส่หน้ากากอนามัย Face Shield และถุงมือ ตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติงาน และทุกเคาน์เตอร์แคชเชียร์จะต้องมี Counter Shield ตลอดจนการส่งเสริมการใช้การชำระเงินแบบ Cashless และ E-payment, บริการถุงใส่เงินทอนที่จุดแคชเชียร์ทุกร้านค้า
ในส่วนของพนักงานทุกคน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ก็มีการสกรีนเข้มงวด ซึ่งได้มีการเรียกตัวพนักงานกลับมาเตรียมความพร้อมปฏิบัติงานด้วยสุขภาพแข็งแรง 100% โดยได้มีการตรวจประวัติประเมินความเสี่ยง COVID-19, การแสดงใบรับรองสุขภาพ ตลอดจนการอบรม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และในวันที่ห้างฯ เปิด ก็จะมีการคัดกรองคุมเข้ม ตามมาตรการฯ และตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าพื้นที่ ใช้เจลล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย สวม Face Shield และสำหรับแคชเชียร์และพนักงานที่บริการอาหาร จะสวมถุงมือ ตลอดเวลา รวมทั้งมีการรีเช็คตรวจวัดอุณหภูมิพนักงานทุก 3 ชม. อีกด้วย
นอกจากนี้ ตามที่ภาครัฐได้ประกาศให้กลุ่มห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าฯ สามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2563 นั้น ทางโรบินสันพร้อมเปิดตามเงื่อนไขของประกาศฯ ในทุกรูปแบบ โดยทั้ง 51 สาขาทั่วไทย จะเปิดบริการทุกวัน พร้อมจัดตั้ง แอพพลิเคชั่น “ไทยชนะ” เพื่อใช้บันทึกข้อมูลของผู้ที่มาใช้บริการตามแนวทางปฏิบัติการผ่อนปรนฯ ดังกล่าว อย่างเคร่งครัด และเดินหน้ามาตรการคุมเข้มป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ตามประกาศของภาครัฐและตามมาตรฐานของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
เซ็นทรัล เอ็มบาสซี (Central Embassy)
คุณบรม พิจารณ์จิตร กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เผยว่า “เพื่อเพิ่มความมั่นใจในสุขอนามัยและความปลอดภัยให้แก่ลูกค้า ผู้ประกอบการ พนักงานของร้านค้า และพนักงานขององค์กร เราได้มีการทำ Deep Cleaning รวมถึงได้เตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้านอย่างเต็มที่ โดยมุ่งเน้นให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการที่ภาครัฐประกาศและกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด รวมไปถึงการขอความร่วมมือจากพันธมิตรร้านค้าในพื้นที่ศูนย์การค้าฯ ร่วมดำเนินการตามแนวทาง ‘เซ็นทรัล เอ็มบาสซี สะอาด มั่นใจ ในทุกตารางเมตร’
ในลักษณะเดียวกันนี้อย่างเป็นระบบ พร้อมติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์การดำเนินการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อผ่านสถานการณ์ที่ท้าทายนี้ไปด้วยกันอย่างดีที่สุด”
สำหรับการทำ Deep Cleaning ได้มีการฉีดพ่นและเช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคชนิดเข้มข้นภายในอาคารศูนย์การค้าฯ ไม่ว่าจะเป็น ลานจอดรถ สนามเด็กเล่นและอุปกรณ์เครื่องเล่น รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกหลัก อาทิ ลิฟต์และปุ่มกดลิฟท์ ผนัง ราวจับและราวบันไดเลื่อน ที่จับประตู ตู้เอทีเอ็ม ห้องน้ำ โซฟา เปลี่ยนผ้าอ้อม ฯลฯ พร้อมทั้งการดูแลระบบปรับอากาศ โดยเพิ่มระบบการฆ่าเชื้อโรคด้วยแสงอัลตร้าไวโอเลต และการอบโอโซน ซึ่งที่ผ่านมาทางศูนย์การค้าฯ ได้ดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ด้วยการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อและเช็ดทำความสะอาดเป็นประจำทั่วทั้งศูนย์การค้าฯ
พร้อมกันนี้ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ให้ความสำคัญต่อสุขภาพและพฤติกรรมการใช้ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) โดยเตรียมดำเนินการมาตรการ 5 แกนหลัก ที่ครอบคลุมในเรื่องความสะอาดและความปลอดภัย และสุขอนามัยที่ดี ตามแผนปฎิบัติการเชิงรุก “เซ็นทรัล เอ็มบาสซี สะอาด มั่นใจ ในทุกตารางเมตร” ทั้งการคัดกรองอย่างเข้มงวด (Extra Screening) , ลดความแออัด (Social Distancing), ติดตามให้มั่นใจ (Safety Tracking),
สะอาดทุกจุดในเชิงรุก (Extra Cleaning) และ ลดการสัมผัส (Touchless Experience) พร้อมชูนวัตกรรม Handrail UV Sterilizer เครื่องฆ่าเชื้อโรคด้วยแสง UV บนราวจับบันไดเลื่อนขึ้นลงทุกตัว สอดรับแผนแม่บทของกลุ่มเซ็นทรัล ‘ทุกคน ทุกศูนย์ ทุกจุด ไม่ว่าร้านไหน บริการใด ไร้กังวล’ สอดคล้องกับมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังการแพร่กระจายเชื้อไวรัส COVID-19 ตามที่ภาครัฐกำหนดแนวปฏิบัติไว้โดยเคร่งครัด
อิเกีย (IKEA)
สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศไทยตอนนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อิเกียต้องขอขอบคุณทีมบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นกำลังสำคัญในการรับมือกับโรคนี้มาโดยตลอด และขอบคุณความร่วมมือร่วมใจของคนไทยในทุกๆ ด้าน
คุณลาเซีย เชอร์ล็อก ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจค้าปลีก อิเกีย ประเทศไทย และฟิลิปปินส์ กล่าวว่า อิเกีย ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เปิดสโตร์ต้อนรับลูกค้าอีกครั้ง พร้อมให้ความเชื่อมั่นในมาตรการดูแลลูกค้าและพนักงาน ซึ่งเราจัดเตรียมไว้อย่างดีที่สุดทั้งในเรื่องการดูแลความปลอดภัย สุขภาพ และสุขอนามัย เพื่อให้ทุกคนช้อปปิ้งและทำงานได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย พนักงานของเราและลูกค้าจะต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่อยู่ในสโตร์
ขณะที่ร้านอาหารอิเกียเองก็จะกลับมาเปิดให้บริการนั่งทานที่ร้านอีกครั้ง โดยมีมาตรการป้องกันต่างๆ อย่างรัดกุม และยังมีทางเลือกให้ลูกค้าซื้ออาหารกลับบ้านและสั่งเดลิเวอรีได้เหมือนช่วงที่ผ่านมา
- มาตรการของอิเกียเพื่อการช้อปอย่างอุ่นใจและปลอดภัย มีดังนี้
– รักษาระยะห่างทางสังคม ช้อปได้อย่างอุ่นใจ เมื่อมีการเว้นระยะห่างกันอย่างน้อยหนึ่งเมตรทุกพื้นที่ในสโตร์
– ตรวจอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าสโตร์ ทั้งพนักงานและลูกค้าที่เข้ามาในสโตร์ต้องมีอุณหภูมิร่างกายไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส
– บริการเจลล้างมือในจุดต่างๆ ทั่วทั้งสโตร์อิเกีย
– สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในสโตร์ ลูกค้าต้องสวมใส่หน้ากากขณะที่อยู่ในสโตร์ของเรา ขณะที่พนักงานอิเกียจะสวมหน้ากากอนามัยคู่กับหน้ากากป้องกันใบหน้าหรือ Face Shield ตลอดเวลา
– จำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการ เพื่อเป็นการป้องกันและดูแลรักษาระยะห่างอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉลี่ยผู้ใช้บริการหนึ่งท่านต่อพื้นที่ประมาณ 8 ตร.ม.
– ปิดให้บริการสมอลล์แลนด์ เพื่อรักษาความปลอดภัยและสุขภาพของลูกค้าตัวน้อยของเรา
บางกอกแลนด์
คุณปีเตอร์ กาญจนพาสน์ รองประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทางบริษัทฯ ในฐานะผู้บริหารศูนย์การค้า 3 แห่งในพื้นที่เมืองทองธานี ประกอบด้วย คอสโม บาซาร์, บีไฮฟ ไลฟ์สไตล์ มอลล์ และ เดอะ พอร์ทอล รวมถึงช้อปปิ้งมอลล์ ป็อปปูล่า วอร์ค และเอาท์เล็ต สแควร์ พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันและเวลาดังกล่าว ยกเว้น เดอะ พอร์ทอล จะเปิดบริการภายหลังด้วยสถานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกับ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ด้วยความห่วงใยสุขภาพและความปลอดภัยของลูกค้า พันธมิตรธุรกิจ ร้านค้า พนักงานผู้ปฏิบัติหน้าที่ประจำ บริษัทฯ ยังคงวางมาตรการเฝ้าระวังและป้องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และยืนยันถึงการปฎิบัติตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข อย่างต่อเนื่อง ภายใต้มาตรการหลัก 5 ข้อ ได้แก่
- การคัดกรองอย่างเข้มงวด
- การเว้นระยะห่าง (Social Distancing)
- ลดการสัมผัส
- เพิ่มความถี่ทำความสะอาด
- การติดตามเพื่อปลอดภัย
ซึ่งเคร่งครัดในทุกข้อและครอบคลุมพื้นที่ให้บริการทั้งหมดของศูนย์การค้า นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือร้านค้าต่างๆ ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติของตัวเองเพื่อให้เหมาะสมกับประเภทการบริการ ประเภทของสินค้า โดยนำเสนอเพื่อพิจารณารับทราบและวางแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมร่วมกัน ตระหนักถึงความปลอดภัยสูงสูง สำหรับลูกค้า ผู้ประกอบการเอง พนักงานร้านค้า พนักงานขององค์กร ซึ่งต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดและไม่ประมาท เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19