Connection คำนี้เป็นทั้งแง่บวกและแง่ลบในเวลาเดียวกัน แต่เมื่อจะก้าวเข้าสู่ธุรกิจแล้วการมีคอนเนคชั่นที่ดี จะมีพลังมากว่าการใช้งานครั้งไหนๆ ซึ่งในบทความนี้จะขอพูดการนำ Connection มาใช้งานจริง ในทิศทางที่เป็นบวกเพื่อให้ผู้อ่านทุกท่านได้เห็นความสำคัญและสร้าง Connection ในรูปแบบของตัวเองขึ้นมา
Connection คืออะไรบ้าง
คอนเนคชั่นเปรียบเสมือนเครื่องมือที่ช่วยให้สิ่งที่เจ้าของธุรกิจต้องการเกิดขึ้นได้ง่ายในพริบตา หรือเหมือนทางลัดที่ทำให้ถึงปลายทางที่เร็ว ยกตัวอย่าง Connection ง่ายๆ พบเจอบ่อยคือ ไปขายงานลูกค้าซึ่งมีเจ้าอื่นมาพิชแข่งด้วย โดยลูกค้าคือแบรนด์ที่เคยทำงานกับเรามาก่อน แสดงว่าเคยเห็นฝีมือมาก่อนหน้านี้แล้ว
ฉะนั้นจุดเริ่มต้นของเราและคู่แข่งก็ไม่เท่ากันแล้ว อันนี้เรียกว่าภาษีเราดีกว่าคู่แข่งก็ได้ ซึ่งถามว่าทำไมเราได้แต้มต่อ เพราะว่าการทำงานจริงมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการขายไอเดียกัน แต่คือขั้นตอนระหว่างทำว่าราบรื่นแค่ไหน ซึ่งส่วนนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่อยากลุ้นหน้างานอยู่แล้ว หรืออีกความหมายของ Connection ก็คือ
การเข้าถึงทรัพยากรที่มีคุณค่าที่หาตัวได้ยากเช่น เรากำลังจะทำเว็บไซต์หนึ่งขึ้นมา ซึ่งบอกก่อนว่าในวงการทำเว็บไซต์ราคาการจัดทำเว็บจะค่อนข้างมีจุดที่ต่างกันมาก ตั้งแต่หลักพันไปถึงล้าน ซึ่งมูลค่าของเว็บนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับเว็บใช้งานยากหรือง่ายเพียงอย่างเดียวแต่ขึ้นอยู่ว่าจะใช้เว็บสื่อสารกับใคร นั่นจึงเป็นที่มาของราคาที่ต้องจ่ายแตกต่างกัน หากรู้จักกับคนทำเว็บโดยตรงก็มีแนวโน้มจะได้ส่วนลดหรือข้อเสนอพิเศษ (แต่ไม่ควรกดราคาคนรู้จักกัน)
ฉะนั้นเมื่อเรามีคอนเนคชั่นจะหยิบจับอะไรก็จะดูง่ายกว่าการไม่มีเลย เพราะในโลกธุรกิจ ทุกอย่างไม่ได้เสิร์ชหาง่ายบน Google อย่างเดียว
เปรียบเทียบมีและไม่มี Connection
เมื่อเข้าใจความหมายของ Connection เบื้องต้นแล้ว ลองมาขยายภาพให้เห็นชัดกันดีกว่าว่ามีกับไม่มี Connection แตกต่างกันอย่างไร
- บุคลากรมืออาชีพ
คนเก่งในสายอาชีพเช่น กราฟฟฟิคดีไซน์เนอร์ คอนเทนต์ Developer ไม่ได้หาเจอกันง่ายๆ ตามเว็บสมัครงานเสมอไปนะคะ เพราะเราต้องการหาคนที่มีทักษะจริงๆ ฉะนั้นถ้าเรารู้จักคนเก่งหรือคนที่รู้ว่าคนเก่งอยู่ไหนเลย จะทำให้เราหาคนได้ไวขึ้น เช่น เราทักพี่ที่สนิทว่ามีกราฟฟิคดีไซน์เทพๆ ที่ขึ้น Ads สวยๆ เป็นมั้ย ทำ Motion Graphic ได้ยิ่งดี ตามงานได้ ไม่หนีหาย
สิ่งเหล่านี้คือความต้องการจริงๆ ในการหาคนมาทำงานค่ะ ซึ่งถ้าเรามี Connection ก็จะมีคนบอกว่าทักคนนี้ไปเลยทำได้ตามที่เราต้องการเป๊ะ แต่ถ้าเราไม่มี Connection เราก็ต้องเริ่มจาก 0 โดยการหาเว็บสมัครงานหรือแหล่งรวมกลุ่มคนเหล่านี้ แล้วเราก็ต้องมาคัดอีกเพราะต้องดูฝีมือจริงๆ แถมไม่มีใครมาการันตีให้อีก
- คุณภาพงาน
คุณภาพงานคือสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในเรซูเม่ อย่างเด็กจบใหม่ซึ่งเราก็น่าจะพอรู้ว่าการแข่งขันในรั้วมหาลัยต่างๆ คือการทำเป็นทีม อาจจะไม่ใช่สกิลเพียวๆ ต้องมาขัดเกลาอีก หรือแม้กระทั่งตำแหน่งซีเนียร์ก็ตามใช่ว่าจะทำงานดีทุกคน การมี Connection จะช่วยให้เราสามารถเจอเพชรใมหาสมุทรได้โดยง่ายไม่ต้องไปงมเอง ถ้าใครทำงานมาสักพักจะรู้ว่าสกิลบนเรซูเม่กับทำงานจริงมีความแตกต่างกันเยอะ การจะหาคนเก่งจึงต้องมาลองทำจริงๆ
การสร้าง Connection ด้วยตัวเอง
การหา Connection ในยุคนี้เป็นเรื่องที่ทำไม่ยากแค่ต้องใช้เวลาสะสมนิดนึง อย่างเด็กรุ่นใหม่พึ่งเริ่มทำงานวิธีหาคือไปตามงานสัมนาเฉพาะกลุ่มเช่น มีทอัพคอนเทนต์ หรือ ทอล์คแลกเปลี่ยนความรู้ UX/UI ที่ทำให้เราได้เจอคนเมพในสายวิชาการนั้น ขยับขึ้นมาอีกนิดคือการไปงาน Conferrence ในนามตัวแทนบริษัท ก็ทำให้เราเจอคนเทพๆ หลายคนแลกเปลี่ยนความรู้และข้อมูลเพื่ให้ได้ดิลงานกันในอนาคตอีก
Connection คือทางลัดที่ทำให้เราเจอสิ่งที่ดีที่สุดโดยง่าย เขาถึงบอกว่าในวงการธุรกิจ ยิ่งรู้จักคนเยอะจะยิ่งได้เปรียบ เพราะต้องดิลงานทุกภาคส่วนโดยเฉพาะการตลาดในส่วนของพีอาร์ยิ่งต้องใช้ Connection โปรโมท ประเด็นนี้ใครที่ทำงานมาสักพักจะเข้าใจดี ฉะนั้นเด็กจบใหม่หรือใครที่ต้องการขยายมากขึ้นลองทำตามทริคแนะนำนการหา Connection ดูนะคะ มั่นใจว่ามีประโยชน์ต่อธุรกิจไม่มากก็น้อยแน่นอนค่ะ