Site icon Thumbsup

ใช้กลยุทธ์ Content Marketing อย่างไร ให้ไปต่อได้ในอนาคต

Content Marketing กลายมาเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่ทุกแบรนด์ต้องลงมือทำมากขึ้น โดยหวังว่าจะช่วยดึงดูดให้คนที่เห็นรู้สึกสนใจในแบรนด์ของเรา รวมทั้งถ้าคนเหล่านี้ได้เห็นคอนเทนต์ของเราบ่อยๆ ก็อาจเปลี่ยนให้การมองเห็นนี้กลายมาเป็นลูกค้าได้เช่นกัน หรือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ช่วยดึงให้ลูกค้าเก่ายังคงรักแบรนด์หรือบริการของเราและกลับมาใช้ซ้ำบ่อยๆ วันนี้เราจะมาแนะกลยุทธ์ในการทำคอนเทนต์ในปี 2025 ให้ยังมีประโยชน์ต่อไปค่ะ

คอนเทนต์เก่ายังคงเล่าใหม่ได้เรื่อยๆ

ถ้าเป็นเรื่องราวกลางๆ ที่คนยังให้ความสนใจก็สามารถหยิบคอนเทนต์เก่ามาเล่าใหม่ซ้ำได้อีกเรื่อยๆ รวมทั้งยังช่วยรักษาระดับ SEO ให้ดีต่อเนื่องได้นะคะ แม้ว่านักการตลาดจะบอกว่าต้องหาไอเดียในการสร้างคอนเทนต์ใหม่ๆ แต่บางทีคนเราก็หมดมุกกันบ้าง การนำคอนเทนต์เก่ามาอัปเดตให้ทันสมัยก็ยังช่วยเพิ่มความน่าสนใจได้อีกรอบนะคะ แต่ต้องเลือกคอนเทนต์ที่ได้รับ Engagement ดีในช่วงที่ผ่านมา ทั้งในเชิงของยอด Like ยอด Share ยอด Comment และยอดคนที่เข้ามาอ่าน ซึ่งเราสามารถวิเคราะห์ผลลัพธ์ของคอนเทนต์ผ่านเครื่องมือต่างๆ เช่น Google Analytics, Meta Business Suite, Youtube Analytics เป็นต้น

ถ้าอ้างอิงข้อมูลจากผลวิเคราะห์แล้ว พบว่าคอนเทนต์ไหนได้ผลตอบรับดีในหลาย ๆ ด้าน ก็ควรนำคอนเทนต์นั้นมาอัปเดตเนื้อหาให้เข้ากับช่วงเวลาปัจจุบันที่สุด จะเป็นการส่งผลดีต่อ SEO ของเว็บไซต์แบรนด์และสินค้า เมื่อไหร่ก็ตามถ้ามีคนเสิร์ชคีย์เวิร์ดของคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องขึ้นมา คอนเทนต์ของเราก็จะยังติดอยู่ในอันดับที่ดี ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานกี่ปีก็ตาม

ให้เวลากับการพัฒนาคอนเทนต์แบบยาวบ้าง

คอนเทนต์ขนาดยาว (Long-Form Content) ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของนักเขียนว่าจะมีคนยอมอ่านเรื่องราวของเราจนจบหรือไม่ เพราะพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่จะยอมอ่านเรื่องยาวจากการพาดหัวที่ดึงดูดหรือเลื่อนผ่านในเวลาเพียง 3 วินาทีแรกเท่านั้น ดังนั้นการทำเนื้อหาแบบยาวจึงต้องใช้เวลาในการเก็บข้อมูลนาน ใช้ซ้ำได้และคุ้มค่ากับการลงทุนที่ต้องใช้เวลานานนี้ เรื่องราวจึงต้องเป็นเนื้อหาภาพรวมใหญ่ๆ และไม่ใช่เรื่องที่จะมีกระแสเพียงแค่ชั่วคราว ทำให้การหาเนื้อหามาประกอบต้องหลากหลายรูปแบบ เช่น ในแง่ของภาพประกอบที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเอง เพื่อไม่ให้ซ้ำใคร หรืออาจจะใช้กราฟิกที่ดึงดูดสายตา หากเผยแพร่ในออนไลน์ก็อาจจะเพิ่มคลิปสั้นๆ ที่ประกอบความสนุกของเนื้อเรื่อง หรือใช้คลิปสั้นทำสรุปคอนเทนต์เพื่อใช้ในการ re-post ได้หลายๆ แพลตฟอร์ม การทำแบบนี้ช่วยเพิ่มคะแนนใน google ให้ดีขึ้นด้วย

สร้างคอนเทนต์ที่โดนใจกลุ่ม Niche Market บ้าง

การทำคอนเทนต์เอาใจกระแสเป็นเรื่องปกติที่เพจต่างๆ นิยมทำกัน แต่การเพิ่มความสร้างสรรค์ด้วยการทำคอนเทนต์เพื่อตอบโจทย์ความชอบหรือความสนใจของคนกลุ่ม Niche Market บ้างก็ช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงคนอ่านหรือผู้ติดตามกลุ่มใหม่ๆ ได้เช่นกัน ดังนั้น ต้องสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้หลากหลายโดยอาจจะวางแนวทางคอนเทนต์กว้างๆ ไว้ที่การเจาะกลุ่มไลฟ์สไตล์ หรือเจาะกลุ่มคนที่ชอบเนื้อหาเชิงลึกแบบ deep content บ้างก็ได้

ส่วนการเอาแนวไอเดียว่าจะสร้างสรรค์เนื้อหาจากเรื่องอะไรบ้างเพื่อไม่ให้หลุดคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ ก็ลองส่องจากความนิยมของการเข้ามากด Like และ Share ของผู้ติดตาม หรือถ้าเพจของคุณเป็นแบรนด์สินค้าก็ลองดูแนวทางจากสินค้ายอดนิยมก็ได้ นอกจากช่วยเรื่องการเพิ่มความสนใจในการติดตามเพจแล้ว ยังอาจช่วยเพิ่มยอดขายได้อีกด้วย

คอนเทนต์แบบ Personalized ก็ช่วยเรื่องความใส่ใจ

การทำคอนเทนต์แบบ Personalized ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่หลายคนสนใจ เพราะทำให้ลูกค้าหรือผู้ติดตามรู้สึกว่าแบรนด์ใส่ใจพวกเขามากกว่าแบรนด์ของคู่แข่งและต้องสร้างความประทับใจ อาจจะเริ่มจากวิธีที่ง่ายที่สุดคือการลิสต์คอนเทนต์แนะนำในช่วงท้ายของคอนเทนต์ว่ามีอะไรน่าอ่าน หรือทำ Affiliate สินค้าที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา เพื่อให้คนอ่านได้เข้าใจในภาพรวมของสินค้าแบบมุมมองกว้างๆ ก่อน จากนั้นค่อยแนะนำสินค้าเพื่อกดซื้อหรือจะไม่ซื้อก็ยังได้

ใช้เทคโนโลยีให้คุ้มค่ามากขึ้น

ในยุคนี้เราอาจจะใช้ AI มาช่วยในการทำงานแต่ก็ต้องปรับให้เหมาะกับสินค้าหรือบริการของเราด้วย หรืออาจจะใช้เทคโนโลยี Voice Search ในการเชื่อมโยงกับสินค้าและบริการแบบอีคอมเมิร์ซ หรือการทำ Featured Snippet ก็เป็นเรื่องก็ช่วยเรื่องอันดับของ SEO ได้เช่นกัน เพราะ Featured Snippet มีผลในเรื่องของการค้นหาที่จะปรากฏขึ้นในตำแหน่งด้านบน หากเราวางโครงสร้างคอนเทนต์ในเว็บไซค์ได้อย่างเป็นระบบก็จะช่วยให้เราเลือกใช้คีย์เวิร์ดของหัวข้อย่อยในคอนเทนต์ได้ตรงกับการค้นหามากขึ้น