เพราะแบรนด์ที่มีงบน้อย ล้วนมีโอกาสสร้างสุดยอดวิดีโอที่ทุกคนกล่าวขานถึงได้ ความจริงข้อนี้ทำให้เนื้อหารูปแบบวิดีโอถูกสร้างขึ้นอย่างมหาศาลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ท่ามกลางจำนวนผู้ชมและยอดคลิกที่พุ่งกระฉูดแบบไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
เพื่อตอบโจทย์ความร้อนแรงของวิดีโอในนาทีนี้ บริษัท Filmora จึงนำเสนอ infographic ที่อธิบาย 3 ประเด็นน่ารู้เรื่องวิดีโอ ทั้งเรื่องรูปแบบเนื้อหาที่ควรแชร์ในรูปแบบวิดีโอ, ความยาวที่เหมาะกับวิดีโอแต่ละรูปแบบเนื้อหา และสุดท้ายคือช่องทางโซเชียลที่จะเผยแพร่วิดีโอนั้น
คำตอบโดยสรุปของประเด็นแรก คือเนื้อหาที่ควรแชร์ในรูปแบบวิดีโอนั้นมีอยู่ 4 แบบ ได้แก่ เนื้อหาที่ต้องการอธิบาย แทนที่จะต้องใช้ตัวอักษรยาวเหยียด การถ่ายทอดให้เป็นวิดีโอชมง่ายจะทำให้ผู้ชมเข้าใจได้เร็วกว่า แบบที่ 2 คือวิดีโอสาธิตการทำงาน แบบที่ 3 คือความเห็นของลูกค้า เพราะภาพจริงของวิดีโอนั้นให้ความน่าเชื่อถือที่ดีกว่า และแบบที่ 4 คือวิดีโอส่วนบุคคลที่จะทำให้ลูกค้าผูกติดกับแบรนด์ได้ดีขึ้น
ความยาววิดีโอส่วนใหญ่มักไม่ควรเกิน 1 นาที มีเพียงวิดีโออธิบายเท่านั้นที่อาจขยายเป็น 1-3 นาทีได้แบบไม่ขัดเขิน
สำหรับช่องทางการแชร์วิดีโอ แต่ละช่องทางนั้นมีข้อดีและเสียต่างกันไม่ว่าจะเป็นช่องทางยักษ์ใหญ่หรือยักษ์เล็ก ขึ้นอยู่กับแบรนด์ที่จะต้องสรรหาช่องทางที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่ดีที่สุด
ที่มา: PRDaily