Site icon Thumbsup

CORONA MARKETING: สิ่งที่นักการตลาดมืออาชีพควรทำเดี๋ยวนี้ เพื่ออยู่รอดในภาวะวิกฤต

สวัสดีครับเพื่อนๆ thumbsupers ผมขอโทษที่หายไปนานนะครับ ทำงานเอเจนซี่มันจัดการเวลายาก แต่ผมก็อยากกลับมาเขียนเลยกลับมาสักที

เมื่ออาทิตย์ก่อนผมมีโอกาสได้คุยกับคุณ Joe Pulizzi เจ้าของหนังสือ Epic Content Marketing และเจ้าสำนัก Content Marketing Institute ซึ่งเป็นหนึ่งในคนปลุกกระแส “Content Marketing” ของโลก ผมถามเขาว่าเป็นอย่างไรบ้างเขาตอบว่า “น่าอายครับ ก็อยู่บ้านเล่น Facebook ไปเรื่อยๆ” แต่เห็นเขาพูดติดตลกอย่างนี้ หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ผลิตผลงานชิ้นใหม่ล่าสุดออกมานั่นคือ Minibook ที่ชื่อว่า CORONA MARKETING: What Marketing Professionals Need to do now to survive the crisis โดยผลงานชิ้นนี้ Joe ทำออกมาให้ทุกคนอ่านฟรี ผมรู้สึกนับถือน้ำใจเขา ก็เลยอาสากับผู้เขียน ขอแปลหนังสือเล่มนี้เป็นภาษาไทย โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเช่นเดียวกัน โดยผมจะทยอยแปลลงใน thumbsup ให้อ่านกันทีละตอนนะครับ

ทำไมต้องอ่าน Corona Marketing?

ใครที่สนใจการตลาดยุคใหม่คงรู้กันดีอยู่แล้วว่าแนวคิดของ Joe Pulizzi นั้นถือว่าเป็นหนึ่งในต้นฉบับแนวคิดด้าน Content Marketing พอคนที่ขึ้นชื่อว่าประดิษฐ์ Content Marketing ออกมาพูดเองว่าเราควรจะทำการตลาดในยุค Corona กันอย่างไร ทำไมเราจะไม่ลองอ่านกันดูสักหน่อยล่ะ จริงไหมครับ
ในบทนำผู้เขียนบอกว่าเขาได้ดึงเอาข้อมูลจากหลากหลายแหล่งมารวมเป็นหนังสือเล่มนี้ ถ้าหากว่าคุณเคยอ่านหนังสือของเขาอยู่แล้ว คุณก็อาจจะคุ้นเคย Concept บางอย่างอยู่แล้ว แต่ทว่า Content ทุกอย่างที่เขาเคยเขียนก็ถูกนำมาปรับปรุงใหม่ หรือเขียนใหม่หมด ดังนั้นผู้เขียนจึงหวังว่ามันจะมีประโยชน์กับคุณผู้อ่านที่เป็นนักการตลาดท่ามกลางวิกฤตนี้

 

“กาลเวลา พิสูจน์คน”
– Morgan Freeman จากภาพยนตร์เรื่อง Angel Has Fallen

การมาถึงของ COVID-19 และการระบาดใหญ่ที่ตามมาภายหลังได้เปลี่ยนโลกไปทั้งใบอย่างที่เรารู้กัน เส้นทางสู่การทำลายล้างกำลังปรับระดับทุกๆ ส่วนของชีวิตพวกเรา จากสุขภาพของคนที่เรารัก ถึงศักยภาพทางธุรกิจพวกเรา
สำหรับนักการตลาด มันมี แนวคิดอยู่สองแบบ

 

แบบแรกอาจจะเป็นอะไรอย่างนี้ครับ –
ใจเย็นๆ และแค่ทำอย่างไรก็ได้ให้มันผ่านไป มันไม่สำคัญหรอกว่าคุณจะผ่านมันไปได้อย่างไร แค่ทำให้มันผ่านไปในแต่ละวัน ถ้าคุณต้องดื่มน้ำเชื่อมช็อกโกแลตให้หมดขวด และใส่กางเกงในตัวเดิมสักสี่วันติดๆ กัน ก็ทำไป อยู่รอดให้ได้จนกว่าเราจะกลับมาสู่ปกติคือหัวใจสำคัญ

 

แบบที่สองจะเป็นอะไรอย่างนี้ครับ –
ถึงแม้ว่ามันจะน่ากลัว เราก็ได้รับโอกาสที่จะสร้างหรือทำอะไรบางอย่างที่น่าอัศจรรย์ มองอีกมุมหนึ่งเราได้รับของขวัญแล้ว อย่าพลาดโอกาสนี้ มันอาจจะเป็น New normal สักระยะหนึ่งเลยก็ได้

 

ในหนังสือฉบับนี้โฟกัสอยู่ที่แนวคิดแบบที่สองครับ
และตอนนี้มันก็ถืงเวลาแล้วที่ธุรกิจที่ดีที่สุดของทศวรรษหน้าจะถูกสร้างขึ้น นี่เป็นเวลาที่บริษัทที่มีนวัตกรรมที่ดีที่สุดจะได้ส่วนแบ่งการตลาดจากบริษัทอื่นที่อยู่เฉยๆ

 

Corona Checklist 

  • ตั้งเป้าหมายการตลาดของคุณใหม่ (Reset Your Marketing Goals)

  • โฟกัสกับการค้นหา “สาวก” (Focus on Finding the Believers)

  • อัปเดต Content Mission ของคุณใหม่ (Update Your Content Mission)

  • ทบทวน Content Tilt ของคุณใหม่ (Revisit Your Content Tilt)

  • ริเริ่มการทำการตลาดภายใน (Develop an Internal Marketing Initiative)

  • ใส่ชีวิตเข้าไปใน Email Newsletter ของคุณ (Inject Life into Your Email Newsletter)

  • ทำสิ่งที่ดีอย่างหนึ่งให้ดี (Do One Great Thing)

  • ขโมยผู้ชม (Steal Audience)

  • ใช้ประโยชน์จากคนเก่งที่มีอยู่ในโลกนี้  (Leverage the Best Talent in the World)

  • เตรียมช่องทางรายได้หลายๆ ทาง (Prepare for Multiple Lines of Revenue)

  • เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการขายสินทรัพย์ (Get Ready for an Asset Sale)

  • เริ่มต้นสร้างช่องทาง Social ขั้นเทพ (Start Killing Social Channels)

  • เมื่อชัดเจนแล้ว ก็จงสร้างความหลากหลายแบบสุดๆ (Once in the Clear, Diversify Like Crazy)

 

ภรรยากับผมเริ่มต้นสร้าง Content Marketing Institute (CMI) กันในวันที่ 2 เมษายน 2007 วันนั้นพอดิบพอดี บริษัท New Century Financial ก็ประกาศล้มละลาย จากนั้นมา Lehman Brothers ก็ประกาศล้มละลายในเดือนกันยายน ทุกคนก็พบว่าตัวเองกำลังอยู่ท่ามกลางอะไรที่กลายมาเป็นวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ณ เวลานั้น เราเชื่อว่าสิ่งต่างๆ คงไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่านั้นได้แล้ว มองย้อนกลับไปผมกับภรรยาก็เลยคิดกันว่าถ้าอย่างนั้นเราก็ควรที่จะสร้างธุรกิจขึ้นมาในขณะที่ทุกคนเตรียมรับมือวิกฤตและรักษาชีวิต พวกเราก็ค่อยๆ เริ่มเผยแพร่ Content เกี่ยวกับการทำ Content Marketing ออกไป ช้าๆ แต่ชัวร์ เพื่อสร้างฐานผู้ติดตามที่เป็นนักการตลาดก่อน

เมื่อถึงปี 2010 Content Marketing Institute ก็กลายเป็นแหล่งข้อมูลชั้นนำของคนที่ต้องการเรียนรู้ทางด้าน Content Marketing ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะเรามีเคล็ดลับอะไรพิเศษ แต่เป็นเพราะเราลงทุนกับผู้ชมของเรากว่า 2 ปี ในขณะที่คนอื่นเงียบกัน (หรือเลิกกิจการกันไปแล้ว)

ณ เวลานั้นมีสื่อทางสายการตลาดดีๆ อยู่ค่อนข้างเยอะ ที่จริงบริษัทเหล่านั้นควรจะสร้างประโยชน์จากการเติบโตของเทรนด์ Content Marketing แต่ในขณะที่บริษัทเหล่านั้นยุ่ง CMI ก็สร้างฐานผู้ติดตามได้มากแล้วและสร้างรูปแบบธุรกิจที่มีพลังขึ้นมาได้

กลับมาในปัจจุบัน บริษัทต่างๆ ก็ทำคล้ายๆ กับปี 2008 นี่จึงเป็นหนึ่งในโอกาสครั้งสำคัญของคุณๆ ที่เป็นนักการตลาด

อยากให้ผมพูดให้น่าเชื่อกว่านี้อีกไหมครับ?

เดือนมีนาคม 2020 ที่ผ่านมา ตอนที่วิกฤต COVID-19 เริ่มใหม่ๆ Marcel Marcondes CMO ของบริษัท Anheuser-Busch (AB) คิดได้ว่า AB ควรจะต้องเปลี่ยนวิถีการทำงานการตลาดใหม่

“เราจะไม่เล่นในเกมของโฆษณา เราต้องการที่จะแน่ใจได้ว่าอะไรก็ตามที่เราพูด ที่เราทำ จะต้องเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับผู้คนมากๆ ดังนั้นเราจึงสามารถที่จะเพิ่มคุณค่าในกิจวัตรประจำวันของผู้คนได้ เราคิดแบบ Organic ก่อน เราจะใช้ Paid media ก็เมื่อจำเป็นที่จะต้องเข้าถึงคนเยอะๆ จริงๆ เพราะเราเห็นแล้วว่าถ้าเรามี Content อะไรที่มันเกี่ยวข้องเกี่ยวเนื่องกับผู้คนจริงๆ มันจะเป็นที่พูดถึง คนจะแชร์ต่อกัน” – Digiday, 2 เมษายน 2020

ให้แปลกันง่ายๆ อีกทีก็คือ AB จะต้องโฟกัสแต่เฉพาะความต้องการของ “ผู้ชม” และ “ลูกค้า” ของบริษัทมากกว่าสินค้าที่ตัวเองอยากขาย นั่นหมายความว่าบริษัทให้จัดลำดับความสำคัญกับการสร้าง Original Content  และใช้ Advertising โปรโมทข้อความเหล่านั้นเพื่อที่จะเพิ่มคุณค่ากับชีวิตลูกค้าของเขา นี่เลยเป็นโอกาสของมอบความปรารถนาดีของแบรนด์ในช่วงที่เกิดวิกฤต ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ท้าทายมากในวันนี้ที่จะทำด้วย Advertising เพียงอย่างเดียว

Content Marketing ยังไงล่ะทุกคน และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะทุ่มพละกำลังกันล่ะ

REVIEW นิยาม: Content Marketing เป็นวิธีการทำการตลาดเชิงกลยุทธ์ที่โฟกัสอยู่กับการสร้างและเผยแพร่ Content ที่มีคุณค่า เกี่ยวข้องเกี่ยวเนื่องกับผู้คนอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะดึงดูดและรักษากลุ่มผู้ชมที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของเราเอาไว้ และในที่สุดขับเคลื่อนให้เกิดการกระทำที่มีผลทางธุรกิจจากลูกค้า (ที่มา: Content Marketing Institute )

สามเฟส แห่ง Content Marketing

เราทุกคนได้เห็นถึงการเกิดขึ้นของ Content Marketing หลังจากวิกฤตการณ์ 911 ในช่วงที่ Content Marketing ยังถูกเรียกว่า “Custom Publishing” หรือ “Custom Media” ซึ่งโดยส่วนใหญ่ถูกใช้ไปกับการสร้างความจงรักภักดีกับลูกค้า เช่น ทำนิตยสารภายใน หรือจดหมายข่าว

การปรับตัวทางเศรษฐกิจช่วง 911 ผมถือว่าเป็นเฟสแรกของ Content Marketing ในช่วงที่บริษัทต่างๆ พากันลดงบประมาณการตลาดในปี 2002 จากนั้นก็กลับมาใหม่ในปี 2003 นักการตลาดพากันปรับงบประมาณออกจากโฆษณาแต่ในขณะเดียวกัน Google ก็เริ่มบูม นักการตลาดทั่วโลกเริ่มให้ค่ากับ “ความสามารถในการถูกค้นพบ” บนโลกออนไลน์มากขึ้น ก็เลยเริ่มมีคนมาเขียนบล็อก

ปี 2007 แทบจะทุกบริษัทเริ่มมีบล็อกของตัวเอง บางคนเรียกมันว่า Article marketing ณ เวลานั้น Content Marketing เลยเป็นเหมือนกลยุทธ์ในการรักษาลูกค้าเก่ามากกว่า และนักการตลาดก็พบว่ามันสามารถใช้ในการสร้าง Awareness ได้เช่นเดียวกัน

เฟสที่สองของ Content Marketing เกิดขึ้นอีกทีในช่วงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ในปี 2008-2009 ก็เหมือนกับตอนปี 2001 เลย นักการตลาดต่างพากันปรับตัวเพื่อความอยู่รอด สำหรับบริษัทที่ยังอยู่รอดมาได้ ปี 2010 เป็นปีที่ทุกคนต้องตั้งต้นทางการตลาดกันใหม่หมด ในหลายๆ เคส งบประมาณการตลาดก้อนใหญ่ถูกย้ายไปอยู่กับกิจกรรมทางการตลาดอื่นๆ เช่น Social Media, Video Marketing , Podcast, Event Marketing, Webcasting และอื่นๆ ในขณะที่ช่องทางและแพลตฟอร์มเหล่านี้สร้างโอกาสดีๆ มากมาย นักการตลาดก็เรียนรู้อย่างรวดเร็วว่ามันไม่ใช่แค่เราทำ Content ใส่เข้าไป แต่เราจำเป็นที่จะต้องพัฒนา “คุณค่า” ความเกี่ยวข้อง และ Content ที่น่าติดตามในทุกช่องทางที่มี และที่สำคัญ ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนอยู่เบื้องหลังด้วย

ปี 2011 Content Marketing กลายมาเป็นแนวทางการทำการตลาดที่เป็นที่รู้จัก และในปี 2015 มันก็กลายเป็นแนวทางการตลาดที่เติบโตเร็วที่สุด (อ้างอิงตามนิตยสารที่ชื่อ Marketing Magazine)

และวันนี้เราจึงได้เข้าสู่เฟสที่ 3 ของ Content Marketing และบางทีนี่อาจจะเป็นโอกาสที่ใหญ่ที่สุดของนักการตลาดตั้งแต่เคยมีมา ไม่ต้องสงสัยเลยมันจะต้องมีการจัดเรียงงบประมาณการตลาดกันใหม่หมด เงินจะถูกย้ายออกจากเดิมที่มุ่งเน้นอยู่ที่ Product Marketing และ Advertising สู่การ Communication สามารถจะสร้างและรักษาสัมพันธภาพ (Connection) กับผู้ชมของแบรนด์

ยิ่งไปกว่านั้น เพราะ COVID-19 ได้กระทบทุกคนในโลกใบนี้ในระดับลึกซึ้ง พฤติกรรมผู้บริโภคจะเปลี่ยนอย่างแน่นอน เราจะยังอยู่กับทฤษฎีแบบเก่าๆ อย่าง 4P อยู่ไหม? อาจจะไม่ อย่างที่ Don Schultz กล่าวไว้ว่า “เราต้องเรียนรู้ที่จะ Unlearn การตลาดแบบเก่า” ถ้าไม่ใช่ตอนนี้แล้วจะตอนไหน?

Corporate communication จะต้อง authentic หรือมีความจริงแท้มากกว่านี้ สม่ำเสมอกว่านี้ และ “วิธีการที่เราคุยกับลูกค้า” จะเป็นแกนหลักในการทำกลยุทธ์การตลาดในระดับโลก

พูดง่ายๆ เฟสที่ 3 ของ Content Marketing จะเปลี่ยนเกมการตลาด การโฆษณาตลอดกาล และเข้าสู่ยุคการทำ audience building

ในหนังสือเล่มนี้จะมีทั้งหมด 13 ขั้นตอน ผมเชื่อว่าคุณจะต้องสร้างจุดยืนของตัวคุณเพื่อความสำเร็จในช่วงที่ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังหยุดอยู่กับที่แบบนี้ มันจะเหมือนเริ่มวิ่งมาราธอน เราอาจจะต้องอยู่แบบนี้อีกเป็นเดือน เป็นปี สิ่งที่คุณจะต้องทำตอนนี้คือเซ็ตฉากของตัวเองเพื่อความสำเร็จ หรือจะยอมแพ้

ความหวังของผมขั้นสูงสุดคือคุณจะเลือกมันอย่างชาญฉลาด เอาล่ะ ถึงเวลาทำงานกันแล้ว!

จบบทนำ อ่าน บทที่ 1 ต่อได้เลยนะครับ (ผู้แปล)