ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับงาน Startup Pitching ที่เกิดขึ้นในเมืองไทยเป็นครั้งแรก กับงาน Khun Seuk VS Samurai : First Thai-Japanese X-Culture Startup Pitching ซึ่งจัดเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2555 ที่ Software Park ประเทศไทย โดยในงานนี้เป็นงาน Pitching ครั้งแรกที่เกิดขึ้นในไทย ด้วยความร่วมมือกันระหว่างประเทศไทยโดย Software Park Thailand และญี่ปุ่นโดยบริษัท Samurai Incubator อีกด้วย
งานนี้มีการเปิดรับสมัคร Startup ที่สนใจผ่านทางหน้าเว็บก่อนวันงานประมาณ 1 เดือน และได้มีการคัดเลือกรอบแรกไปก่อนหน้านี้แล้ว และสุดท้ายก็ได้ 11 ทีมจากทั้งไทยและญี่ปุ่นเข้าสู่รอบสุดท้ายในการ Pitching งาน โดยในงานมีผู้ให้ความสนใจทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศเป็นจำนวนมาก โดยมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 120 คน และมีการตั้งบูธนำเสนอผลงานของบริษัทต่าง ๆ ได้นำเสนอให้กับผู้ที่เข้ามารร่วมงานได้ชมเกือบ 20 บูธ
บริษัทที่เข้ารอบสุดท้ายแบ่งเป็นบริษัทจากไทย 6 บริษัท ได้แก่ Got it app, Freelance Hub, Eidos, Digio mPOS, Wongnai และ Fineseat ส่วนทางญี่ปุ่นมี 5 บริษัท ได้แก่ Freenow, Conyac, CocoPPa, Unimon และ Everevo
สำหรับกติกาในการ pitching งานรอบสุดท้ายจะใช้แนวเดียวกันกับงานใหญ่ ๆ อย่าง Echelon 2012 ซึ่งมีทีมละ 10 นาที โดยแบ่งเป็น 5 นาทีที่ทุกทีมสามารถการนำเสนอผลงานทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และด้านธุรกิจที่จะทำรายได้ ซึ่งต้องรักษาเวลาอย่างมาก เพราะหมด 5 นาทีแล้วคือจบเลย ไม่มีสิทธิพูดต่อได้ และอีก 5 นาทีสำหรับการถามตอบจากคณะกรรมการทั้ง 8 คน ที่มีทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่น โดยมีทีมงานจาก thumbsup ร่วมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการด้วย นั่นก็คือ @mimee นั่นเอง
การ pitching รอบสุดท้ายจะใช้เกณฑ์ในการตัดสิน 5 ข้อ ได้แก่ ผู้ที่พัฒนามีความรู้ในสิ่งที่จะพัฒนาจริงหรือไม่, โอกาสในการทำการตลาด, โมเดลทางธุรกิจ, ทักษะในการนำเสนอ และนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์
บรรยากาศการ pitching ของแต่ละทีมเป็นไปอย่างจริงจังและหลาย ทีมนำเสนอได้น่าสนใจ บ้างก็ทำออกมาต้องปรับปรุงสำหรับงานในครั้งต่อ ๆ ไป และคำถามของทางคณะกรรมการหลาย ๆ ก็ถือว่าเจาะใจผู้แข่งขันและเข้าร่วมฟัง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเน้นว่าผลิตภัณฑ์ที่เราทำคืออะไรกันและ และเราจะทำเงินทำรายได้ได้จากสิ่งที่เราทำได้อย่างไร
หลังจากการ Pitching ก็มีการตัดสินหาผู้ชนะ ซึ่งผู้ชนะในงานได้แก่?Wongnai?โดยคุณยอด ชินสุภัคกุล
และหลังจากจบงาน pitching ก็มีงานเลี้ยงตอนเย็น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จะทำความรู้จักและพูดคุยกันอย่างเป็นกันเองที่ร้าน Yes! indeed
เก็บตกจากงาน Khunseuk VS Samurai Startup
- อุปสรรคที่เห็นได้ชัดเจนในการ pitching คือเรื่องภาษาที่ยังสื่อสารกันได้ไม่เต็มที่นัก ดังนั้น ภาษาโดยเฉพาะภาษาอังกฤษจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ในการสื่อสิ่งที่เราอยากจะนำเสนอ รวมทั้งการตอบคำถามที่ตรงกับสิ่งที่ต้องการ
- Startup บางรายยังคงไม่มีหัวคิดเป็นผู้ประกอบการ สังเกตได้จากการนำเสนอและตอบคำถามในเรื่อง revenue และรายได้ที่จะเข้ามาสู่บริษัท ที่ยังตอบกันไม่ชัดเจน รวมทั้งไม่ค่อยมีคนที่จะมานำเสนอเรื่องนี้ในช่วง pitching 5 นาทีแรก
- ผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอออกมาเมื่อเทียบกันแล้วของไทยดูดีกว่าของญี่ปุ่นพอสมควร แต่ด้วยเหตุผลของข้อที่ 2 เรื่องหัวคิดของผู้ประกอบการ ญี่ปุ่นกลับทำได้ดีในส่วนนี้ Startup ไทยอาจต้องหยิบจุดนี้มาพิจารณาในระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้ด้วยนะครับ
ถือเป็นความสำเร็จอย่างมากในการจัดงานครั้งแรกในเมืองไทย และได้ยินมาแว่ว ๆ ว่า จะมีงานในลักษณะนี้อีกแน่นอนเร็ว ๆ นี้ ดังนั้น Startup ไทยเตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมสไลด์ และคำตอบให้ดีครับ
สำหรับรายละเอียดงาน หากเราทราบเมื่อไหร่เราจะนำเสนอบนเว็บไซต์ทันทีครับ
Update (16/09/12) : ขณะนี้ทาง Software Park ได้อัพโหลดคลิปขึ้นไปแล้ว สำหรับใครที่ต้องการรับชมวีดีโอย้อนหลัง สามารถดูได้ที่ลิงค์นี้