ผู้ติดเชื้อในทวีปยุโรปเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอิตาลีพบผู้ติดเชื้อกว่า 9,172 คนและผู้เสียชีวิตกว่า 500 คน ล่าสุดสั่งปิดประเทศแล้ว แต่สถานการณ์ในเอเชียกลับดีขึ้น จีนรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 19 ราย น้อยที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 18 มกราคมตามรายงานอย่างเป็นทางการ ขณะที่เกาหลีใต้รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 131 ราย โดยมีแนวโน้มที่จะลดลงเช่นกัน
จีน
ประธานาธิบดี สีจิ้น ผิง เดินทางไปเยือนเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดในเดือนธันวาคม และมีคำสั่งปิดเมืองในวันที่ 23 มกราคม โดยแถลงการณ์ระบุว่า การเดินทางครั้งนี้เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดภายในประเทศ โดยล่าสุดรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 19 ราย ผู้เสียชีวิต 17 คน
เกาหลีใต้
กระทรวงสาธารณสุข ประเทศเกาหลีใต้ยืนยันพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 131 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 7,513 รายตามรายงานอย่างเป็นทางการ โดยตัวเลขมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ นับตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตรวม 54 ราย
อิตาลี
นายกรัฐมนตรีจูเซปเป คอนเต ของอิตาลีประกาศเพิ่มขอบเขตของมาตรการปิดเมืองเป็นทั่วประเทศเมื่อวันจันทร์ (9 มี.ค 63) ที่ผ่านมา จากเดิมบังคับใช้มาตรการดังกล่าวแค่พื้นที่ตอนเหนือของประเทศเท่านั้น เพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัส หลังยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นสูงส่งผลให้อิตาลีกลายเป็นประเทศที่มีการระบาดหนักที่สุดรองจากจีนเท่านั้น
องค์การอนามัยโลกยืนยันการแพร่ระบาดใกล้เข้าสู่ภาวะ Pandemic
Mike Ryan ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลกกล่าวว่า
การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ใกล้เข้าสู่ภาวะ Pandemic หรือการระบาดครั้งใหญ่ หลังพบผู้ติดเชื้อใน 100 ประเทศทั่วโลก แต่มันจะเป็นครั้งแรกที่เราสามารถควบคุมการระบาดครั้งใหญ่ได้
Ryan ได้กล่าวถึงความพยายามของจีนและเกาหลีใต้ซึ่งเริ่มเห็นผลลัพธ์จากมาตรการต่างๆ และหวังว่าจะเห็นผลลัพธ์จากมาตรการของอิตาลีในไม่กี่วันข้างหน้า
โดยวันนี้ (10 มี.ค. 63) มีรายงายผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 114,418 คน ผู้เสียชีวิต 4,025 คน และรักษาหาย 63,868 คน