บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP ALL ที่ดำเนินกิจการค้าปลีกภายใต้แบรนด์เซเว่น อีเลฟเว่น และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (CPF) ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ หลังเข้าไปซื้อกิจการจาก บริษัท เทสโก้ สโตร์ (ประเทศไทย) จำกัด และ Tesco Stores ของประเทศมาเลเซีย ซึ่งดีลมีมูลค่าประมาณ 3.38 แสนล้านบาท
การซื้อกิจการดังกล่าวเป็นการเสริมธุรกิจค้าปลีกของซีพีในประเทศไทยซึ่งมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการขายส่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ ข้อตกลงนี้จะเป็นการเข้าสู่ตลาดค้าปลีกที่สำคัญของมาเลเซียอีกด้วย
“โลตัส” ไฮเปอร์มาร์เก็ตแห่งแรกเปิดดำเนินการโดยกลุ่มซีพีในประเทศไทยในปี 2537 และห้างสรรพสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ตของอังกฤษ” เทสโก้”เข้าสู่ธุรกิจในปี 2541 และกลุ่มซีพีได้ออกจากธุรกิจในปี 2546
ทั้งนี้จากที่ “เทสโก้ โฮลดิ้ง” ยักษ์ค้าปลีกสัญชาติอังกฤษ ประกาศที่จะขายกิจการในประเทศไทย และมาเลเซีย ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยรายงานข่าวระบุว่า 3 มีกลุ่มทุนใหญ่ที่สนใจเข้าประมูลซื้อกิจการในครั้งนี้ 3 กลุ่ม ได้แก่กลุ่มซีพี ,และกลุ่มบีเจซี และกลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งผลปรากฏว่าทางกลุ่มซีพี ซึ่งเคยบริหาร “เทสโก้ โลตัส” มาแล้ว ชนะดีลนี้ไป
สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ Tesco ในอาเซียนคือในประเทศไทยและมาเลเซีย นั้นจะเป็น CP Group และ CPALL ถือหุ้นฝ่ายละ 40% เท่ากัน โดยบริษัทได้แจ้งกับตลาดหลักทรัพย์ว่าใช้เงินไม่เกิน 95,981 ล้านบาท ที่เหลืออีก 20% จะเป็นทางบริษัท ซี พี เมอร์แชนไดซิ่ง ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ CPF อีก 20% ซึ่งจะใช้เงินลงทุนไม่เกิน 47,800 ล้านบาท
ปัจจุบัน เครือข่ายค้าปลีกในกลุ่มซีพี แบ่งเป็น แม็คโคร 130 สาขา เซเว่นอีเลฟเว่น 11,000 สาขา และเทสโก้โลตัส จำนวน 2,100 แห่งในประเทศไทย และในมาเลเซีย 74 แห่ง
แจ้งตลาดหุ้นชัดเจน
โดยทาง ซีพีออลล์ ประกาศชัดว่าต้องการเข้าไปถือหุ้นในเทสโก้ โลตัส 40% เพื่อให้บริษัทสามารถเดินหน้าธุรกิจต่อไปได้ นายเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ Chief Financial Officer บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่นในประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2563 ว่า
คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้บริษัทลงทุนเพื่อให้ได้มาซึ่งหุ้นหรือผลประโยชน์การลงทุน (economic interest) ในสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 40 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ บริษัท เทสโก้ สโตร์ส (ประเทศไทย) หรือเทสโก้ประเทศไทย ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วน ร้อยละ 99.99 ในบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกภายใต้เครื่องหมายการค้า Tesco Lotus ในประเทศไทย และ Tesco Stores (Malaysia) Sdn. Bhd. หรือเทสโก้ประเทศมาเลเซีย
ซึ่งประกอบธุรกิจค้าปลีกภายใต้เครื่องหมายการค้า Tesco ในประเทศมาเลเซีย โดยการลงทุนของซีพี ออลล์ ในครั้งนี้จะเป็นการลงทุนจำนวน 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (95,981 ล้านบาท) หรือไม่เกิน 40% ผ่านนิติบุคคลเฉพาะกิจที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการลงทุน คือ บริษัท ซี.พี. รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดในบริษัท ซี.พี.รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เพื่อลงทุนในกลุ่มเทสโก้เอเชีย (เทสโก้ประเทศไทยและเทสโก้ประเทศมาเลเซีย)
ทั้งนี้ บริษัทเชื่อว่าการลงทุนดังกล่าวจะส่งเสริมให้บริษัท และผู้ถือหุ้นของบริษัทได้ประโยชน์หลายประการจากการได้มาซึ่งธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทยที่มีรูปแบบร้านค้าที่หลากหลาย ที่จะช่วยส่งเสริมรูปแบบธุรกิจที่บริษัทมีอยู่ในปัจจุบัน และมีผลการดำเนินงานที่ดี ทำให้มีรูปแบบร้านค้าที่หลากหลายขึ้น
ซึ่งรวมถึง ค้าส่ง cash and carry และรูปแบบค้าปลีก (ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ) นอกจากนี้ยังยกระดับการให้บริการแก่ผู้บริโภคที่สร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น ด้วยโอกาสธุรกิจเศรษฐกิจสมัยใหม่ (new economy business) ขณะที่ การเข้าซื้อธุรกิจในประเทศมาเลเซียจะเป็นช่องทางในการเข้าสู่ตลาดค้าปลีกขนาดใหญ่ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะสร้างรายได้เข้าประเทศอีกทางหนึ่ง
ช้อปปิ้ง Tesco Lotus ออนไลน์ คลิกเลย