Site icon Thumbsup

“ดีไซเนอร์ต้องคิดมากกว่าเรื่องความสวยงาม” บทสรุปช่วง Creative & Design งาน Creative Talk : A Year in (P)review

ถึงแม้ว่างาน Creative Talk ครั้งที่ 5 จะจบลงไปแล้ว แต่ทางทีมงาน Thumbsup จะขอสรุปประเด็นที่น่าสนใจออกมาเป็นบทความขนาดกำลังดีให้ได้อ่านกัน เพราะนี่คืองานที่บัตรถูกจองหมดภายในเวลา 1 นาที ใครที่พลาดก็สามารถติดตามประเด็นสำคัญๆ ได้ที่นี่

ขอเริ่มกันด้วย Session แรกที่ว่ากันด้วยเรื่อง Creative & Design ผู้เข้าร่วม panel จะมีทั้งหมด 3 ท่าน ได้แก่ คุณกรัณย์ วระพงษ์สิทธิกุล – UX Academy Founder of Pheromone co.,ltd. & Executive director of HUBBA คุณสรรพวิชญ์ ศิริผล – Chief UI/UX Designer at Market Anyware และคุณสิวตา จรัญวงศ์ Chief User Experience and Founder at Redlab

ดีไซเนอร์กับเทรนด์

เทรนด์ของการออกแบบในปีที่ผ่านมา แพทเทิร์นของงาน UX ค่อนข้างแข็งแรง โดยเฉพาะในแง่ของ Interactive ซึ่งในตอนนี้ก็จะต้องมาเน้นเรื่องการออกแบบในเชิงองค์รวม เพราะชีวิตของคนมีหลายด้าน ดีไซเนอร์ต้องรู้จักบริบท ที่สำคัญคือต้องคิดถึงการร้อยเรียงเรื่องราวจากหน้าจอต่างๆ เข้าหากัน ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน สมาร์ทวอชท์ หรือหน้าจอของดีไวซ์อื่นๆ ที่คนใช้งาน โดยสรุปคือการออกแบบ Experience แบบรวมๆ ที่ต้องอิงกับ Context

สำหรับคนที่เป็นดีไซเนอร์ ไม่ใช่แค่การทำให้สวยงาม แต่ต้องนึกให้ออกว่าผลกระทบของเทรนด์ต่างๆ คืออะไร อย่างเช่น เทรนด์การใช้ Influencer มารีวิวสินค้า แปลว่าเทรนด์ในการออกแบบก็ต้องนึกถึงแพลตฟอร์มที่เปิดให้มีการรีวิวจากคนกลุ่มนี้ทำได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น เพื่อรับเทรนด์ Influencer Marketing

หรือเทรนด์ของผู้หญิงที่กำลังมาแรง ไม่ใช่เฉพาะการได้รับเลือกให้เป็นผู้นำในวงการต่างๆ แต่สำหรับวงการออกแบบก็จะมีวิธีคิดงานที่เป็นมุมมองแบบผู้หญิงมากขึ้น เป็นแพลตฟอร์มที่สร้างจากความคิดแบบผู้หญิงๆ เช่น ฟังก์ชั่นเปรียบเทียบราคาแบบละเอียด เป็นต้น

Modern Luxury เป็นอีกเทรนด์ที่ได้รับความนิยม ซึ่งไม่ได้หมายถึงการใช้ของแพง แต่ต้องเป็นของดี แพงหรือไม่แพงไม่ใช่ประเด็น ส่วนมากจะเป็น Gen ช่วงอายุ 25 ปี เน้นใช้ของที่ Luxury และ Excellent คือสรรหาของดีแต่ไม่ต้องแพงก็ได้ พูดอีกอย่างคือเป็นของหรูที่เลือกอย่างฉลาด เทรนด์นี้เห็นได้ชัดมากในตลาดสุขภาพ จากกระแสเฮลตี้ที่กำลังบูมขึ้น คนรุ่นใหม่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น

ออกแบบอย่างไรในยุคที่ความสนใจสั้นลงเรื่อยๆ ?

เพราะเราใช้มือถือคนละบริบทกับคอมพิวเตอร์ ทุกอย่างที่ผ่านมือถือต้องง่ายและเร็ว และจริงๆ แล้วร่างกายคนเรามันจะจำการใช้งานเครื่องมือแต่ละอย่าง นั่นทำให้เราไม่สามารถอ่าน e-book กันได้จบ เพราะร่างกายเราจะจำว่าการใช้งานสมาร์ทดีไวซ์จะต้องไล่สายตาแบบ skim ไม่ใช่ scan แต่ถ้าเราจับหนังสือ ร่างกายเราจะสั่งงานอีกแบบ

ความสนใจของคนสมัยนี้จะถูกเรียกว่า “Notifitention” (Notification + Attention) คือสนใจเมื่อโนติดัง ซึ่งก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่แบรนด์จะเสียโอกาสหรือเป็นเรื่องไม่ดี เพราะยังไงการโฆษณาแบบแบนเนอร์ก็ยังใช้ได้ เมื่อมี Programmatic มาช่วย ระบบหลังบ้านก็ต้องฉลาดขึ้น ต้องรู้ว่าจะยิงโฆษณาตัวนี้ไปให้ใคร คือคนก็ยังเห็นโฆษณาอยู่ แต่เห็นสั้นลง และอาจจะเห็นได้บ่อยขึ้น

พูดเรื่องความสนใจระยะสั้นก็ต้องโยงมาถึงเรื่องการใช้งานโมบายล์ โดยเฉพาะ Mobile First ที่พูดกันมานานแล้ว ถึงเวลานี้เว็บใหญ่ๆ มีคนเข้าผ่านมือถือเกิน 80% แต่สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นก็คือ คนเริ่มหนีจากมือถือ ออกไปใช้ชีวิต เพราะเมื่อคนใช้เยอะ แบรนด์ก็มาลงโฆษณาเยอะ คนเริ่มหนี ดังนั้น การคิดงานหรือการออกแบบจะต้องเป็นแบบ Proactive คือพูดคุยกับผู้ใช้งานได้ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เปิดแอปพลิเคชั่นก็ตาม

เช่น แอปเช็คสภาพอากาศต้องมีระบบติดตามจนทราบพฤติกรรมของผู้ใช้งาน และแจ้งเตือนได้ทันทีที่รู้ว่าผู้ใช้อาจจะออกไปเจอฝนตก

ดีไซเนอร์ต้องดูพฤติกรรมแบบ Overall แล้วแปลงออกมาเป็นดีไซน์เพื่อที่จะพูดคุยกับผู้ใช้งานตั้งแต่เขายังไม่ได้เปิดมือถือด้วยซ้ำ

เพราะฉะนั้น เรื่องดีไซน์จะกว้างขึ้น ไม่ใช่แค่ Psychology แล้ว แต่ Big Data จะต้องเข้ามามีบทบาทด้วย เพื่อให้การออกแบบสามารถสนับสนุนการใช้งานของคนหลายๆ กลุ่มได้

รูปภาพและวิดีโอ

การใช้ภาพจาก Stockphoto จะเริ่มได้รับความนิยมน้อยลง เพราะมันไม่ Real ไม่มี Story ที่จะทำให้คนเข้าถึงได้ง่ายๆ ที่ดีกว่านั้นคือต้องใช้รูปคนจริงๆ ที่หาได้ทั่วไป อาจจะเป็นภาพ Candid ก็ได้ เพราะมันจริงกว่า เพราะคนทั่วไปจะรู้ว่าอะไรที่มันดู Perfect เกินไปจะไม่ใช่ Influencer แล้ว แบบนั้นคือ Presenter มากกว่า

เทรนด์วิดีโอเมื่อปีที่แล้วจะเป็นปัญหาเรื่อง “ใครจะทำวิดีโอ?” พอมาปีนี้มันหมดปัญหานั้นไปแล้ว เพราะมีเครื่องมือต่างๆ มาช่วยเยอะมาก แต่วิดีโอจะต้องมาแบบสั้นๆ ซึ่งตลาดใหญ่ก็ยังเป็นโฆษณาอยู่ แล้วเทคโนโลยีในการบีบอัดไฟล์ก็จะเข้ามาช่วยเทรนด์นี้

ส่วนเรื่อง Vertical Video หรือการถ่ายวิดีโอแนวตั้ง จริงๆ ก็มีเทรนด์มาตั้งนานแล้ว แต่ไม่เคยเห็นใครถ่ายโฆษณาในแนวตั้ง เพราะในแง่ของอารมณ์ในการรับชมมันจะไม่ได้เท่ากับแบบแนวนอน แต่ก็มีรีเควสท์มาจากแบรนด์บ้างแล้ว และทาง YouTube ก็เริ่มซัพพอร์ทการบีบอัดไฟล์แบบ Vertical แล้วเช่นกัน

บทสรุปของ Session Creative & Design

ดีไซเนอร์จะต้องกระโดดออกมาจากความสวยงาม นึกถึงบริบทมากขึ้น ปรับตัว เรียนรู้ เพราะจริงๆ แล้วงานดีไซเนอร์เป็นแค่ job แรก ยังมีสายอื่นๆ ให้เลือกไปต่ออีก ในอนาคตเราจะมีชื่อตำแหน่งแปลกๆ เช่น Organization designer คือออกแบบสายการบังคับบัญชาในองค์กร ป้องกันความขัดแย้งจากการสายการบังคับบัญชา อะไรทำนองนี้

งานของดีไซเนอร์จะเปลี่ยนไปตามบริบทที่เข้ามา ดังนั้น ต้องรู้จักการโฟกัส แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะเป็นนักสังเกต ต้องสนใจ Consumer context ด้วย (Focus and be observant)