Site icon Thumbsup

ปีนี้เป็นปีที่ดีในการลงทุนคริปโตหรือไม่ ? ฟังแนวคิดที่น่าสนใจของผู้เชี่ยวชาญชาวไทยกัน

คนที่กำลังสนใจเรื่องของบิทคอยน์ คริปโตเคอเรนซี หรือการลงทุนแบบเหรียญดิจิทัล อาจจะมีข้อสงสัยว่าปีนี้ยังเป็นจังหวะที่ดีในการลงทุนหรือไม่ เพราะถ้ามองเรื่องความผันผวนของเงินในตลาดคริปโตต้องยอมรับว่ามีจังหวะที่ดีและน่ากังวลแบบรายชั่วโมงกันเลย วิทยากรจากงานเสวนาพิเศษ การลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล “Decoding: Is FY24 The Best Year For Crypto?”

“ถ้ามองแค่ราคา ตอนนี้อาจไม่ใช่ปีที่ดีในการลงทุน”

ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีในเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 8% เป็นผลจากความเชื่อมั่นเชิงบวกในตลาด จากกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย และข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ปรับตัวดีขึ้น เช่นเดียวกัน ธนาคารกลางจีน (People’s Bank of China: PBOC) ได้ดำเนินการลดอัตราดอกเบี้ยและประกาศแผนการลดอัตราส่วนเงินสำรองขั้นต่ำของธนาคาร (Reserve Requirement Ratio: RRR) เพื่อลดแรงต้านภาวะเงินฝืด

โดยอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบธนาคารจำนวน 1 ล้านล้านหยวน ปัจจัยบวกเหล่านี้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกและตลาดคริปโทฯ มีการปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตามรายงานทางเศรษฐกิจและนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในอนาคตยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องเฝ้าจับตา

การออกเหรียญ ETH ในเดือนกันยายนมีอัตราสูงประมาณ 0.74% ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบสองปี ยิ่งส่งให้แนวคิด “Ultrasound Money” หรือการมองว่า Ethereum จะกลายเป็นเงินที่รักษามูลค่าได้ดีกว่าบิตคอยน์ ดูห่างไกลออกไป

ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเกิดจากกิจกรรมในเครือข่ายลดลง อันเป็นผลจากสภาวะตลาดโดยรวมและการแย่งส่วนแบ่งของ Layer 2 (“L2”) ค่าธรรมเนียมธุรกรรมและอัตราการเผา (Burn) ที่ต่ำลงทำให้ ETH ไม่สามารถคงสถานะเงินฝืดได้ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของอุปทานรายวันสุทธิเป็นบวกดังที่เราเห็นในปัจจุบัน

มูลค่ารวมของสินทรัพย์ในโลกจริง (Real World Assets: RWAs) บนบล็อกเชนแตะระดับ All-Time Highs อยู่ที่ 12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ไม่รวมตลาดสเตเบิลคอยน์ที่มีมูลค่ากว่า 175 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยตราสารหนี้นอกตลาด (Private Credit) คิดเป็นส่วนที่มีมูลค่ามากที่สุดในตลาด ประมาณ 9.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีสัดส่วนถึง 70% ของมูลค่า RWA

ซึ่งส่วนใหญ่มาจากบริษัทฟินเทคชื่อ “Figure” สำหรับพันธบัตรรัฐบาลที่แปลงเป็น Token ก็มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2567 มีมูลค่าเพิ่มจาก 769 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงต้นปี ขยับเป็นกว่า 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนกันยายน ซึ่งการเติบโตนี้น่าจะได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 23 ปี (จนกระทั่งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยล่าสุด)

นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน มูลค่าความเสียหายรวมจากการโดนแฮ็กคริปโทเคอร์เรนซีอยู่ที่ 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2564 เนื่องจากการนำโปรโตคอลความปลอดภัยที่แข็งแกร่งมาใช้ในอุตสาหกรรม แม้ว่าการแฮ็กที่สร้างความเสียหายมากที่สุดในปีนี้มุ่งโจมตี Centralized Exchanges เช่น DMM Bitcoin และ WazirX ซึ่งสูญเสียเป็นจำนวน 305 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 235 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ

อย่างไรก็ดี วงการคริปโทฯ เร่งเพิ่มมาตรการการรักษาความปลอดภัยอย่างจริงจังเพื่อปกป้องสินทรัพย์ของผู้ใช้ นักลงทุนควรให้ความสำคัญกับการเก็บรักษาและจัดการสินทรัพย์คริปโทฯ ให้ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ตลาดตื่นตัวมาก  

มุมมองผู้เชี่ยวชาญของตลาดคริปโทเคอเรนซี

คุณนเรศ เหล่าพรรณราย นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย เน้นย้ำถึงความสำคัญของปี 2024 ในแง่ของการมีส่วนร่วมจากสถาบันและความชัดเจนด้านกฎระเบียบ เขากล่าวว่าตลาดสำคัญต่าง ๆ เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ และดูไบ มีความก้าวหน้าในการกำหนดกฎระเบียบที่ชัดเจน ซึ่งจะช่วยผลักดันการเติบโตของตลาดคริปโต

ปีนี้เราเห็นการพัฒนากฎระเบียบที่ชัดเจนขึ้นทั่วโลก ยกเว้นสหรัฐฯ ที่ยังคงมีความล่าช้าคุณนเรศกล่าวประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น โดยมีการส่งเสริมการใช้โทเคนดิจิทัลเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัล และสร้างโอกาสใหม่ ๆ เช่น ESG และ Soft Power”

คุณพิริยะ สัมพันธารักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้าน Bitcoin กล่าวว่า ปี 2024 เป็นปีที่สำคัญสำหรับ Bitcoin เนื่องจากเป็นปีที่ครบรอบ 15 ปีของสกุลเงินดิจิทัลนี้ แม้ว่าปีนี้อาจไม่ใช่ปีที่ราคาสูงที่สุด แต่ความมั่นคงของ Bitcoin ยังคงทำให้มันเป็นสินทรัพย์ที่เชื่อถือได้

ปีนี้เป็นการยืนยันความมั่นคงของ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ดิจิทัล แม้ว่าในปี 2024 อาจไม่เห็นราคาที่สูงที่สุด แต่ปีนี้เป็นปีที่ Bitcoin ยังคงยืนยันบทบาทของตนในตลาดดิจิทัล

ผศ.ดร.อุดมศักดิ์ รักวงษ์วาน ผู้ร่วมก่อตั้ง FWX ได้กล่าวถึงปัจจัยทางตลาดที่ขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดคริปโตในปี 2024 เขากล่าวว่าเหตุการณ์ Halving ของ Bitcoin และการสะสมสินทรัพย์จากกลุ่ม “วาฬ” เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการเติบโตที่ดีขึ้น

การ Halving ของ Bitcoin จะส่งผลให้ราคาสูงขึ้น และการสะสม Bitcoin จากผู้เล่นรายใหญ่ส่งสัญญาณความมั่นใจในตลาด

คุณนิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กัลฟ์ ไบแนนซ์ เห็นว่าปี 2024 เป็นปีที่สำคัญสำหรับตลาดคริปโต เนื่องจากมีการพัฒนาที่สำคัญในหลาย ๆ ประเทศ ทำให้คริปโตเริ่มเข้าสู่กระแสหลักอย่างแท้จริง

ปีนี้เป็นปีที่คริปโตเริ่มเข้าสู่กระแสหลักคุณนิรันดร์กล่าวเรามีการเปิดตัว ETF ของ Bitcoin ในสหรัฐฯ และฮ่องกง กฎระเบียบของยุโรปภายใต้ MICA เริ่มมีผล และรัสเซียกำลังรับรองการขุด Bitcoin ประเทศเล็ก ๆ เช่น เอลซัลวาดอร์ และภูฏานก็สะสม Bitcoin อย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในระดับโลกต่อเทคโนโลยีนี้

ดร.กร พูนศิริวงศ์ กล่าวถึงการผสานระหว่างการเงินดั้งเดิมและคริปโตในปี 2024 ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการยอมรับที่กว้างขวางขึ้นในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลปี 2024 เป็นปีที่เราจะเห็นการผสานระหว่างการเงินดั้งเดิมและคริปโต โดยมีการเปิดตัว ETF สำหรับ Bitcoin และ Ethereum ซึ่งทำให้คริปโตเข้าสู่กระแสหลัก

**ไบแนนซ์ ทีเอช บาย กัลฟ์ เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัทกัลฟ์อินโนวาจำกัด และบริษัท ไบแนนซ์ แคปปิตอล แมเนจเมนท์ จำกัด