Site icon Thumbsup

ชีวิตไม่มีคำว่ายอมแพ้ กับ “เจ๊จง” เมื่อกำลังใจคือแรงผลักดัน

 

“สุดท้ายคือเราก็ต้องสู้อะ เราก็ต้องลุกขึ้นมามอง จริงๆแล้วเจ๊เชื่อว่ามันไม่มีทางตันหรอกสำหรับคนที่ลุกขึ้นมาสู้จริงๆอะ ถ้าเราสู้ยังไงก็มีทางออก”

พบกับเจ๊จง หรือคุณจงใจ กิจแสวง เจ้าของร้านหมูทอดเจ๊จง ธุรกิจที่ชนะ Thumbsup Award COVID-19 Campaign สาขา CSR Business ผู้อาสาทำข้าวกล่องให้แก่บุคลากรทางการแพทย์วันละกว่า 1,200 กล่อง ที่จะมาแบ่งปันแนวคิดธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและสามารถช่วยเหลือสังคมไปได้พร้อมๆ กันแม้ว่าจะเผชิญกับวิกฤติโควิด-19

จุดเริ่มต้นธุรกิจร้านหมูทอดเจ๊จง

จุดเริ่มต้นก็คือมาจากเจ๊เป็นหนี้เค้า ตอนนั้นเจ๊ขายข้าวแกงบุฟเฟ่อยู่ กลับบ้านตอนบ่ายโมง นอนคือ 2 ทุ่ม เจ๊ก็คิดว่าบ้าไปแล้ว คนเป็นหนี้แต่ทิ้งเวลาวันนึง 7-8 ชั่วโมงมันไม่ใช่แล้ว แต่ตอนนั้นเรายังไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี ด้วยความบังเอิญที่เจ๊ซื้อข้าวหมูทอดมาให้ลูกกิน พอเปิดออกมาปุ๊ปเจ๊มีความรู้สึกเลยว่าอันนี้แหละเราทำได้ แล้วเจ๊ก็บอกกับลูกเลยว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้แม่จะขายข้าวหมูทอดต่อจากการขายข้าวแกงบุฟเฟ่ พอวันนี้เจ๊คิดปุ๊ป พรุ่งนี้เจ๊ทำเลย 

แคมเปญช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์

จริงๆ แล้วอยากจะบอกว่าเจ๊เป็นคนที่ชอบช่วยเหลือ มากน้อยบ้างแล้วแต่ ถ้าย้อนไปดูเจ๊ชอบที่จะเป็นแบบนี้อยู่แล้ว จากการที่เจ๊เป็นหนี้ก็เริ่มจากการช่วยเหลือเค้าแล้วตัวเองเดือดร้อน ส่วนครั้งนี้เราก็มองว่าอยากจะเอาข้าวไปแจก แต่ยังไม่รู้ว่าจะแจกด้วยวิธีไหน เพราะว่ามันไม่เหมือนกับน้ำท่วมที่เราอยากจะไปแจกตรงไหนก็ได้ที่เราเข้าไปได้ แต่ครั้งนี้เป็นเชื้อโรค

ด้วยความบังเอิญที่เจ๊ได้ร่วมอยู่ในโครงการ Chef for Chance ของพี่หนุ่ย ดร.ศิริกุล เลากัยกุล พี่หนุ่ยก็โทรมา พี่หนุ่ยบอกว่าเจ๊จงทำข้าวกล่องไปให้คุณหมอกับพยาบาลได้ไหมวันละ 1,200 กล่อง แต่มีข้อแม้ว่าเจ๊จงต้องออกเงินเอง เจ๊บอกอ่อได้ค่ะ ตอบทันทีเลยว่า ได้ค่ะ แล้วพอวันจันทร์เจ๊ก็ทำเลย

พอวันที่เจ๊ทำเจ๊ก็ถ่ายรูปแล้วก็โพสต์ลงไป คือความรู้สึกเราเหมือนตอนสมัยน้ำท่วมที่จะมีคนมาช่วยเยอะ เหมือนกันเจ๊ก็คิดว่าหลายๆ คนก็อยากจะทำ บางคนก็มีเยอะ บางคนก็มีน้อย บางคนมีเงิน ภาษาเจ๊ก็คือไม่มีปัญญาลุกขึ้นมาทำ คือมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำข้าววันละพันกว่ากล่อง 

พอช่วยชุมชนไปได้ประมาณไม่เกิน 3 อาทิตย์ พี่หนุ่ยก็คิดว่าเราลุกขึ้นมาช่วยคนที่ตกงานและไม่มีรายได้ เพราะเจ๊เชื่อว่าในวิกฤติแบบนี้ไม่มีใครมีเงินมาลงทุนกับเรา หมายถึงว่ามาจ่ายเราก่อน ให้เค้าเอาไปขายก่อน ขายเสร็จแล้วค่อยเอาเงินมาให้เจ๊ก็ได้ แต่เราก็ทำใจไว้ประมาณนึงแล้ว คนไหนที่เราโทรไปทวงแล้วเค้าจ่ายเราก็โอเค แต่คนที่โทรไปทวงแล้วไม่จ่ายแล้วไม่รับโทรศัพท์ เราก็ทำใจไว้แล้วส่วนหนึ่ง เราคิดว่าเราได้ช่วยเค้าแล้ว แต่เค้าไม่รับโอกาสเอง เพราะมีหลายๆ คนรับโอกาสตรงนี้ แล้วเค้าได้วันหนึ่ง 3 พันกว่าบาทก็มี

กำลังใจคือแรงผลักดัน

จริงๆ แล้วเจ๊มองว่ามันเป็นนิสัยเจ๊ คือเงินทองเจ๊เชื่อว่าทุกคนสามารถลุกออกไปแล้วหาได้ หาได้ง่ายๆ เงินทองแค่เราขยับรู้จักทำมาหากิน แต่เรื่องพวกนี้มันไม่ใช่ว่าจะหากันง่ายๆ ไง

แล้วเจ๊มีแบบนี้เยอะมากเลย เมื่อ 4 ปีที่แล้วได้ฟังเจ๊พูดที่ไหนไม่รู้ แล้วเกิดแรงบันดาลใจ ทุกวันนี้เขาลุกขึ้นมาทำหมูยอเป็นแท่งๆ ขาย เพราะมีเจ๊เป็นไอดอล แค่นี้เจ๊ก็มีความสุขแล้วอะ เจ๊มีความรู้สึกว่าบางทีเงินทองมันก็ไม่ใช่ส่วนนึง ถามว่าสำคัญไหมมันก็สำคัญ มันก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเหมือนกัน แต่ที่สุดแล้วมันคืออะไรของแต่ละคนมันไม่เหมือนกันไง 

สุดท้ายคือเราก็ต้องสู้อะ เราก็ต้องลุกขึ้นมามอง จริงๆแล้วเจ๊เชื่อว่ามันไม่มีทางตันหรอกสำหรับคนที่ลุกขึ้นมาสู้จริงๆอะ ถ้าเราสู้ยังไงก็มีทางออก อย่าไปนั่งคิดท้อหรืออะไร พอวิกฤตนี้หมดไปเดี๋ยวก็มีวิกฤตอื่นมาอีก

รับชมวิดีโอสัมภาษณ์กันได้เลย