Site icon Thumbsup

ความคาดหวังของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปตามอิทธิพลของอินฟลูเอนเซอร์

สื่อสังคมออนไลน์ได้ทำให้ผู้คนรับรู้ถึงโลกได้อย่างกว้างขวาง การใช้งานการตลาดรูปแบบอินฟลูเอนเซอร์ กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญขององค์กรสำหรับการสื่อสารและช่วยให้การแชร์คอนเทนต์ต่าง ๆ บนโซเชียลมีเดียสามารถเข้าถึงผู้คนได้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังช่วยให้ผู้คนเข้าตัวแบรนด์มากยิ่งขึ้นแถมยังโน้มน้าวลูกค้าได้ดีกว่าวิธีการตลาดอื่นๆ

แต่ลูกค้าในปัจจุบันนั้น ก็คาดหวังประสบการณ์ที่ดีและโอกาสในการได้มีส่วมร่วมในการสร้างคอนเทนต์ และรู้สึกเหมือนเป็นคนวงในของแบรนด์มากยิ่งขึ้น

โดยพื้นฐานแล้วจะเห็นได้ว่า กลยุทธ์และหลักสำคัญที่ใช้ได้ผลสำหรับการตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์ คือ การที่ผู้คนรู้สึกเชื่อมโยงกับแบรนด์ ซึ่ง แบรนด์เอง ก็พยายามที่จะมองหาโอกาสในการทำให้ผู้คนรับรู้ถึงแบรนด์มากยิ่งขึ้น และการเลือกใช้กลยุทธ์อินฟลูเอนเซอร์ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสในการเชื่อมโยงผู้คน ให้มีโอกาสในการเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับแบรนด์มากยิ่งขึ้น

ดังนั้น แบรนด์จะสร้างความคาดหวังให้แก่ลูกค้าที่มีได้อย่างไรบ้าง วันนี้เรามีเทคนิคมาฝากกันครับ

โอกาสในการสร้างเนื้อหา

การที่แบรนด์รู้ว่าลูกค้ากำลังมองหาการมีส่วนร่วมกับคอนเทนต์ ก็ต้องแน่ใจว่าคอนเทนต์ของเรานั้น ง่ายพอที่ผู้คนจะเข้าใจในทันทีที่ผ่านแว้บแรกและสามารถแชร์ต่อได้ ลองค้นหาว่าอะไรที่แบรนด์สามารถทำให้ผู้คนรู้สึกอยากมีส่วนร่วมและกระตุ้นการแบ่งปันต่อไป แน่นอนว่าสิ่งนี้สามารถนำไปสู่การแพร่หลายอย่างกว้างขวางของคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย ยกตัวอย่างเช่น การใช้อินโฟกราฟิกของคอนเทนต์ที่สวยงาม เนื้อหาที่กระตุ้นความอยากรู้หรือน่าเซฟเก็บไว้ เพื่อให้ผู้คนอยากแชร์คอนเทนต์นั้น

สิทธิพิเศษต่างๆ

อีกหนึ่งแนวทางที่จะกระตุ้นให้คนออนไลน์อยากมีส่วนร่วมกับคอนเทนต์ของแบรนด์ คือ การที่แบรนด์แจกของสมนาคุณให้ลูกค้าโดยตรง แม้จะไม่ใช่วิธีการที่ใหม่มากนัก แต่คอนเทนต์ประเภทนี้จะกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดความรู้สึก ‘กลัวว่าจะพลาด’ ทำให้ผู้คนอยากมีส่วนร่วม หากเป็นแบรนด์เป็นพวกเขาชื่นชอบอยู่แล้ว ก็ยิ่งกระตุ้นให้พวกเขาแชร์หรือบอกต่ออย่างรวดเร็วเลยทีเดียว

รู้สึกเหมือนเป็นคนวงในของแบรนด์

การสร้างความรู้สึกให้ผู้บริโภครู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสำคัญก็ช่วยเชื่อมโยงผู้คนกับแบรนด์ได้มากเช่นกัน หากพวกเขากดไลค์เพจ แชร์หรือคอมเมนต์อะไรสักอย่าง หรือได้มีส่วนร่วมกับไฮไลต์เด่นๆ ในงานอีเว้นท์ ยิ่งทำให้พวกเขาอยากแชร์คอนเทนต์มากขึ้นเท่านั้น เช่น การถ่ายภาพกับอินฟลูเอนเซอร์ เซเลบริตี้ หรือถ่ายรูปคู่กับสินค้าเพื่อรับของรางวัล เพื่อให้เกิดการรับรู้เกี่ยวกับงานกิจกรรมนั้นๆ ก็ถือว่าเป็นการเปิดช่องทางให้สินค้ามีโอกาสเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นด้วยครับ

มีแนวทางมากมายที่ผสมผสานระหว่างโลกออนไลน์และโลกออฟไลน์ให้เชื่อมกันง่ายมากขึ้น หากนักการตลาดหรือแบรนด์ไม่มองข้ามสิ่งเหล่านี้ ก็จะมีไอเดียพรั่งพรูกันอีกมากมายเลย ลองคิดนอกกรอบและปรับใช้กันให้สนุกดูนะครับ