ช่วงใกล้สิ้นปีแบบนี้หลายคนก็อาจจะวางแผนที่หางานใหม่ หรือออกผจญภัยเพื่อหาเส้นทางชีวิตใหม่ๆ ให้กับตัวเอง เรามีเช็กลิสต์เล็กๆ สำหรับคนที่กำลังลังเลว่า ‘เอ๊ะ.. เราควรเปลี่ยนงานที่ทำอยู่ไหมนะ?’ มาให้ลองสำรวจคร่าวๆ ก่อนที่จะเลือกเดินในเส้นทางไหนก็ตามค่ะ
การตัดสินใจเรื่องงานเองก็เป็นเรื่องยากและมีความซับซ้อน เพราะส่งผลต่ออนาคตของเรา ลองมาดูปัจจัยสำคัญๆ ที่น่าจะช่วยให้การตัดสินใจเรื่องนี้มีความรอบด้านขึ้นกันค่ะ
ตัวเรา OutStanding ในองค์กรแล้วหรือยัง
ตั้งแต่ทำงานมาคุณมีผลงานมากน้อยแค่ไหน เป็นคนโดดเด่นในองค์กรหรือยัง เพราะการทำงานจนมีผลงานจะส่งผลดีต่อการสมัครงานใหม่ในอนาคต ลองจินตนาการดูเมื่อถูกถามว่า ‘อะไรคือผลงานที่คุณภูมิใจที่สุดในการทำงานที่ XX?’ แล้วลองตอบตัวเองให้ได้ก่อน หรือดูจากผลประเมินของคุณว่าออกมาดีมากน้อยแค่ไหน นั่นจะทำให้คุณดูเลอค่าเมื่อไปสมัครงานที่ใหม่
มี ‘ภาระ’ อยู่เยอะแค่ไหน
การออกไปทำตามความฝัน หรือจะออกไปแตะขอบฟ้าไม่ใช่เรื่องผิด แต่ก่อนลาออกอยากแนะนำจริงๆ ว่าให้ลองสำรวจภาระที่เราต้องแบบรับไว้ว่ามีอะไรบ้าง ค่าผ่อนรถ ผ่อนคอนโด หนี้บัตรเครดิตแต่ละเดือน หรือค่าใช้จ่ายที่ต้องให้ทางบ้านในแต่ละเดือน ลองรวมกันเป็นหนึ่งก้อนใหญ่ๆ แล้วเปิดดูบัญชีเงินเก็บของตัวเอง
ถ้าจะลาออกโดยที่ยังไม่ได้หางานใหม่ก็ควรมีเงินเก็บให้ใช้จ่ายได้ (หักรวมกับค่าใช้จ่ายประจำเดือน) ที่เวลาประมาณ 6 เดือน เพื่อความปลอดภัย เพราะถ้าลาออกมาแล้วหางานยังไม่ได้ เงินเก็บก็หมด นั่นจะทำให้เครียดกว่าเดิม และอาจต้องไปคว้างานอะไรก็ได้ตรงหน้าที่ยังไม่ถูกใจมากนักมาทำก่อน
‘รายได้’ ตอนนี้สัมพันธ์กับตลาดแรงงานไหม
สำรวจจากเพื่อนร่วมอาชีพของเราว่าปัจจุบันค่าจ้างของตำแหน่งนี้อยู่ที่เท่าไร ซึ่งเราไม่ได้แนะนำให้เดินไปถามเพื่อนโต๊ะข้างๆ ที่ตำแหน่งเดียวกันว่า ‘ตอนนี้เธอได้เงินเดือนกี่บาทเหรอ?’ แต่อาจลองสอบถามจากคนในตำแหน่งเดียวกันแต่ต่างบริษัท โดยส่วนใหญ่ตำแหน่งใกล้เคียงกันมักไม่หนีกันมาก ยกเว้นว่าเป็นบริษัทชั้นนำที่มีชื่อเสียง
ถ้าพบว่าเงินเดือนในตำแหน่งของเราน้อยกว่าค่ากลางในตลาดมากๆ ก็อย่าเพิ่งเครียด แต่ให้นำสวัสดิการที่เราได้มากางดูประกอบการตัดสินใจด้วย ซึ่งถ้ารวมทุกอย่างแล้วยังรู้สึกว่าคุณค่าความสามารถของคุณควรได้รับค่าตอบแทนมากกว่านี้ ก็ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะลองหางานใหม่เพื่อเปิดโอกาสเติบโตให้ตัวเอง
บริษัทที่อยู่เริ่ม ‘โละ’ คนออกแล้วหรือเปล่า
ต้องยอมรับว่ายุคนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดีเท่าไร เห็นได้จากข่าวที่หลายๆ บริษัทมีการตัดงบ ยุบแผนก ลองฟังข่าวในบริษัทตัวเองดูบ้างว่ามีแผนกไหนที่กำลังจะโบกมือลา หรือตำแหน่งที่เราทำตอนนี้ยังมั่นคง เป็นฟันเฟืองหลักที่ขาดไม่ได้ในธุรกิจนี้ไหมนะ หรือผลประกอบการในไตรมาสที่ผ่านมาของบริษัทเราเป็นอย่างไรบ้าง
การทำแบบนี้ไม่ใช่การไม่รักองค์กร แต่เป็นการมองสิ่งแวดล้อมรอบตัวและปรับตัวตลอดเวลา เผื่อว่าตำแหน่งที่เราทำอยู่ตอนนี้กำลังถูก Disrupt จะได้เพิ่มเติมทักษะอื่นๆ ให้ตัวเองทันเวลา
มี ‘ความสุข’ กับสิ่งที่ทำอยู่หรือเปล่า
ถึงแม้ว่าทุกข้อด้านบนจะสำคัญหมด แต่เรามองว่าข้อนี้ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะคนเราใช้เวลาอยู่กับงานเยอะมากในแต่ละวัน (อย่างน้อยก็ 8 ชม.ต่อวัน) เราควรมองทั้งเรื่องของความเครียด สุขภาพจิต และงานนี้ทำให้เราเบิกบาน ได้เป็นคนอย่างที่อยากเป็นเหมือนที่จินตนาการไว้ตอนกรอกใบสมัครมากน้อยแค่ไหน หรือทำแล้วได้พัฒนาตัวเองด้านไหนบ้าง เมื่อเทียบกับวันแรกที่มาทำงาน อย่างน้อยเราก็ควรมี ‘ความสุข’ มากกว่า ‘ความทุกข์’ ในสิ่งที่ทำ ซึ่งการเลือกงานที่ดีก็เป็นสิทธิที่เรามีได้
ทุกงานมีข้อดีและข้อเสียในตัวเอง และขึ้นอยู่กับเราว่ากำลังมองหาอะไรอยู่ ถ้ามีความสุขกับงานปัจจุบันและยังอยากเรียนรู้ก็ไม่ผิดที่จะตัดสินใจอยู่ต่อ หรือถ้าท้ายที่สุดแล้วตัดสินใจเปลี่ยนงาน ก็ควรส่งต่องานให้เรียบร้อย และวางระบบงานให้คนใหม่ทำงานต่อจากเราได้ง่ายขึ้นนะคะ 😀
ช้อปปิ้ง Tesco Lotus ออนไลน์ คลิกเลย
ช้อปปิ้ง BigC ออนไลน์ คลิกเลย