Site icon Thumbsup

Deezer กับแผนธุรกิจสุดประหลาดเพื่อทำการตลาดสหรัฐฯ

Deezer_Abbey_Road-578-80

สำนักข่าว VentureBeat ถึงกับยกตำแหน่ง “the weirdest business plan for streaming music in the US” ให้กับผู้ให้บริการสตรีมมิ่งเพลงออนไลน์อย่าง Deezer โดยความประหลาดของรูปแบบแผนธุรกิจของ Deezer เริ่มจากผู้ใช้ในสหรัฐฯจะต้องซื้อลำโพงของเจ้าพ่ออย่าง Bose จึงจะสามารถใช้บริการสตรีมมิ่งจาก Deezer ได้

Deezer นั้นมีดีกรีเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการสตรีมมิงเพลงรายใหญ่ที่สุดของโลก แต่ในสหรัฐฯแล้ว Deezer กลับไม่เป็นที่รู้จักมากนักเนื่องจากยังไม่มีการเปิดตัวให้บริการอย่างเป็นทางการ ล่าสุด Deezer ตัดสินใจเริ่มทำตลาดในสหรัฐฯตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา ผ่านพันธมิตรเครื่องเสียงไฮเทคอย่าง Sonos

แทนที่จะจับมือกับโอเปอเรเตอร์หรือพันธมิตรในธุรกิจสมาร์ทโฟน ขณะนี้ Deezer ขยับรุกตลาดสหรัฐฯมากขึ้นอีกนิดด้วยการเพิ่มพันธมิตรอีกราย นั่นคือ Bose โดยเริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ทุกคนที่ซื้อหรือครอบครองเครื่องเสียงพกพาของ Bose รุ่น SoundTouch หรือ SoundLink (ในภาพด้านล่าง) จะสามารถลงชื่อใช้งานบริการสตรีมมิงเพลงของ Deezer ได้ โดยจะสามารถนำมาฟังซ้ำบนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือบนอุปกรณ์พกพาก็ได้

แคมเปญนี้ถอดแบบมาจากความร่วมมือกับ Sonos เพราะผู้ใช้ที่ซื้อเครื่องเสียงกับ Sonos เท่านั้นที่จะถูกประชาสัมพันธ์ให้รู้จักกับ Deezer ซึ่งเป็นคู่แข่งกับบริการเจ้าตลาดอย่าง Spotify

เป็นไปได้ว่า Deezer อาจต้องการแสดงจุดยืนการเป็นบริการสตรีมมิงเพลงคุณภาพสำหรับการฟังผ่านเครื่องเสียงโดยเฉพาะ แต่ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลใดก็ตาม สิ่งที่ Deezer เป็นในขณะนี้คือการให้บริการเฉพาะกับผู้ใช้ในสหรัฐฯที่ซื้อเครื่องเสียงลำโพงพกพาของบางแบรนด์เท่านั้น โดยเจ้าของลำโพง Bose จะสามารถสมัครบริการ Deezer ในราคา 4.99 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน ซึ่งเป็นราคาที่ลดลงจากราคาปกติ 50%

เบื้องต้น ยังไม่มีข้อมูลว่าความร่วมมือระหว่าง Deezer และ Bose จะยุติลงเมื่อใด แต่โปรโมชันลดราคาสมาชิก 50% นี้จะหมดเขตในเดือนมีนาคม ปีหน้า

สิ่งที่ชัดเจนในขณะนี้คือ Deezer พยายามขยายธุรกิจในสหรัฐฯอย่างเชื่องช้าและพยายามใช้พันธมิตรในการลดความยุ่งยากเพื่อเข้าสู่ตลาดใหม่ที่มีการแข่งขันสูง ไม่แน่ กลยุทธ์นี้อาจทำให้ Deezer สามารถเติบโตดีภายใต้เงาของเบอร์หนึ่งในตลาดอย่าง Spotify ก็ได้ แต่ก็ต้องถือว่ากลยุทธ์นี้มีความแปลกประหลาดมากเพราะ Deezer เลือกปิดตัวเองจากกลุ่มที่ไม่ได้ตัดสินใจซื้อลำโพงเครื่องเสียง ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มตลาดใหญ่มากในตลาด

ที่มา : VentureBeat