หลังจากที่ให้บริการแก่ผู้ใช้หลายร้อยประเทศ ล่าสุดบริการสตรีมมิ่งเพลงออนไลน์สัญชาติฝรั่งเศสอย่าง Deezer ก็ได้ฤกษ์ประกาศบุกตลาดเพลงอเมริกาเสียที ซึ่งทันทีที่ประกาศ นักวิเคราะห์ทั่วโลกมองว่า ปี 2014 ที่จะเป็นปีแห่งการบุกเบิกอเมริกาของ Deezer นั้นไม่ได้โรยกลีบกุหลาบไว้อย่างแน่นอน
เป็นที่ยอมรับกันว่า ประเทศที่มีประวัติศาสตร์ด้านเสียงเพลงมายาวนานอย่างสหรัฐอเมริกานั้นเป็นตลาดที่หินสุดๆ ในอุตสาหกรรมบริการเพลงออนไลน์ โดยจะเห็นได้จากการที่บริษัทจำนวนมากต่างเลี่ยงที่จะเข้าไปยังตลาดนี้ ท่ามกลางหลายบริษัทที่ต้องม้วนเสื่อกลับบ้านไป แต่ในความเป็นจริง อเมริกาคือตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งทำให้นักธุรกิจที่ต้องการประสบความสำเร็จจากเสียงเพลง ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เช่นกัน
Deezer บริษัทผู้ให้บริการด้านเสียงเพลงที่มีผู้ใช้บริการมากกว่า 26 ล้านคน ใน 160 ประเทศทั่วโลก ก็เป็นอีกแห่งที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ว่าพยายามหลีกเลี่ยงตลาดเพลงในอเมริกามาตลอด โดยทางบริษัทเคยให้เหตุผลว่าเพราะสหรัฐฯเป็นตลาดที่มีคู่แข่งอยู่มากเกินไป แต่ในตอนนี้บริษัทเมืองน้ำหอมเปลี่ยนใจและประกาศว่า Deezer พร้อมแล้วที่จะกระโจนลงสู่ตลาดเพลงในอเมริกา
ปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งที่คาดว่า Deezer จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน คือช่องทางในการทำรายได้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่ารูปแบบการทำธุรกิจร่วมกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ Deezer อาจไม่เหมาะสมกับผู้บริโภคในตลาดสหรัฐฯ ก็ได้
ที่ผ่านมา Deezer ใช้วิธีออกโปรโมชั่นคู่กับโอเปอเรเตอร์ในหลายประเทศ (รวมถึงประเทศไทย) แล้วคิดค่าใช้บริการโทรศัพท์รายเดือนบวกเข้ากับค่าบริการของ Deezer ด้วยรูปแบบการคิดค่าบริการนี้ ทาง Deezer จะสามารถเก็บรายได้จากผู้ใช้บริการ พร้อมกับที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์จะได้ content ที่ดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น และรายได้จากค่าบริการรายเดือนเพิ่มเติม ซึ่งแม้จะเกิดกรณีที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์ในอเมริการไม่เล่นด้วย ทาง Deezer ก็สามารถเป็นพันธมิตรกับบริษัทในวงการอื่นๆ ได้อย่างไม่เคอะเขิน
อุปสรรคอีกอย่างที่น่าสนใจ คือการดึงให้ค่ายเพลงหันมาร่วมทำธุรกิจกับ Deezer อุปสรรคนี้เคยทำให้คู่แข่งอย่าง Spotify ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2011 ต้องประสบปัญหาไปหลายปีทีเดียว อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในปัจจุบันแสดงว่าค่ายเพลงจำนวนมากหันมาให้ความสำคัญกับบริการ streaming มากขึ้น ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าปัญหานี้อาจจะหนักหนาเท่าใด
ความเคลื่อนไหวของ Deezer ถูกรายงานในเวลาไล่เลี่ยกับที่บริการสตรีมมิ่งเพลงออนไลน์ในสหรัฐฯ Rdio ประกาศปลดพนักงานเพื่อลดค่าใช้จ่าย จุดนี้สะท้อนว่า Deezer ยังมีการบ้านรอให้คิดอีกเพียบ ถ้าอยากจะเอาตัวรอดในตลาดเพลงอเมริกาให้ได้
ที่มา: TechCrunch