น่าสนใจทีเดียวสำหรับความร่วมมือของ DHL บริการขนส่งระดับโลกกับ ไปรษณีย์ไทย ที่เรียกได้ว่าดึงความร่วมมือจากต่างประเทศเข้ามาเสริมทัพความแข็งแรงในการส่งสินค้าให้กับประชาชนได้อย่างน่าสนใจไม่น้อย ต้องยอมรับว่าไปรษณีย์ไทยถือว่าเป็นบริการที่ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศไทยได้ดีที่สุด เพราะไม่ว่าบ้านคุณจะอยู่ลึก ต้องพ่ายเรือ ว่ายน้ำ ไปรษณีย์ไทยก็สามารถไปส่งให้ได้ แต่สินค้าที่ต้องส่งยังอยู่ในสภาพดีหรือไม่นั้นคืออีกเรื่องนะคะ
สำหรับบริการที่ร่วมมือกันของทั้ง 2 ฝั่งนั้นชื่อว่า Courier Post (คูเรียร์ โพสต์) ที่แนะนำมาว่าเป็นบริการที่จะช่วยให้ขนส่งระหว่างประเทศทำงานได้ดีขึ้น โดยเป็นการจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศระดับพรีเมียมภายใน 2-4 วัน ที่ครอบคลุมมากกว่า 220 ประเทศทั่วโลก ที่มั่นใจว่าสินค้าจะผ่านศุลกากร ณ ประเทศปลายทางได้แน่นอน
และโซลูชั่น On Demand Delivery (ODD) ที่แนะนำว่า ผู้รับสามารถเลือกวิธีการจัดส่งได้ตรงกับความต้องการ ช่วยให้สินค้าถึงมือผู้รับได้สะดวกมากขึ้น เช่น ผู้รับสามารถเปลี่ยนเวลาการจัดส่งพัสดุตามความสะดวก หรือเปลี่ยนที่อยู่สำหรับการรับพัสดุได้ตามต้องการ ซึ่งการร่วมมือครั้งนี้น่าจะช่วยให้ยอดขายออนไลน์ระหว่างประเทศมีเม็ดเงินเพิ่มขึ้น 9 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐได้ไม่ยากในปี 2563
รวมทั้งได้อ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) ระบุว่า ตลาดอีคอมเมิร์ซของไทยในปี 2559 มีมูลค่า 2.56 ล้านล้านบาท ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศอยู่ที่ 13.47% และมีอัตราการเติบโต 25% ต่อปี ส่วนปี 2560 มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซโดยรวมของไทยอยู่ที่ 2.8 ล้านล้านบาท และคาดว่าจะแตะระดับ 3 ล้านล้านบาทในปี 2561
โดยบริการ Courier Post ให้บริการ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลรวม 171 แห่ง โดยในระยะนำร่อง จะให้บริการจัดส่งเอกสารและพัสดุไปยัง 25 ประเทศปลายทางหลัก คือ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส อังกฤษ และคาดว่าจะขยายการให้บริการครอบคลุมที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศภายในไตรมาสที่สามของปีนี้
ข้อมูลเพิ่มเติม อ่านรายละเอียดได้ที่นี่
หากสามารถส่งสินค้าได้รวดเร็วและดีงามได้จริง งานนี้จะส่งสินค้าข้ามประเทศไม่ต้องรอนานถึง 2-3 สัปดาห์อีกต่อไป ฟังดูแล้วเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ขายและผู้ซื้อออนไลน์ทีเดียวเลยนะคะเนี่ย